7 วิธีเปิดร้านขายของชำให้ขายดี พร้อมงบประมาณที่ต้องเตรียม

7 วิธีเปิดร้านขายของชำให้ขายดี พร้อมงบประมาณที่ต้องเตรียม
หมายเหตุ
สินเชื่อเพื่อคนมีที่ดินรับเฉพาะโฉนดที่ปลอดภาระจำนองแล้ว 3 ประเภท ดังนี้
น.ส.3ก (ครุฑเขียว)
น.ส.4 (ครุฑแดง)
อ.ช.2 (หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด)
กรุณากรอกชื่อภาษาไทย
กรุณากรอกเฉพาะตัวเลข

การกดยืนยันข้อมูล แสดงว่าคุณอ่านและรับทราบ นโยบายความเป็นส่วนตัว เรียบร้อยแล้ว

การเปิดร้านขายของชำเป็นธุรกิจที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นกิจการของตัวเอง ด้วยเงินลงทุนที่ไม่สูงมากนัก แต่สามารถสร้างรายได้ต่อเนื่องในระยะยาว ทั้งยังสามารถเริ่มต้นลงทุนเปิดร้านขายของได้ตามงบประมาณที่มี ไม่ว่าจะเป็นร้านขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ่ บทความนี้ เงินติดล้อจะแนะนำวิธีการเปิดร้านขายของชำให้ประสบความสำเร็จ ตั้งแต่การเลือกทำเล การศึกษาตลาด ไปจนถึงเทคนิคการตลาดที่จะช่วยให้ร้านของคุณขายดี และสร้างกำไรได้อย่างต่อเนื่องครับ

รู้จักกับร้านขายของชำ หรือร้านโชห่วย

ร้านขายของชำ หรือที่เรียกกันว่า “ร้านโชห่วย” เป็นร้านค้าปลีกขนาดเล็กที่มีสินค้าหลากหลายประเภท ตั้งแต่อาหารแห้ง เครื่องดื่ม ขนม ของใช้ในครัวเรือน ไปจนถึงสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ร้านโชห่วยมักจะตั้งอยู่ในชุมชน ใกล้ที่พักอาศัย เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้สะดวก

จุดเด่นของร้านขายของชำคือความใกล้ชิดและความคุ้นเคยกับลูกค้าในชุมชน ทำให้สามารถเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสามารถให้บริการที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น การขายสินค้าแบบแบ่งขาย การซื้อเชื่อ หรือการสั่งสินค้าพิเศษตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่ร้านสะดวกซื้อหรือซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ไม่สามารถทำได้ครับ

เปิดร้านขายของชำใช้งบประมาณเท่าไหร่

การลงทุนเปิดร้านขายของชำนั้น ขึ้นอยู่กับขนาดของร้านและทำเลที่ตั้ง โดยสามารถแบ่งเป็น 3 ระดับ ดังนี้

  • ร้านขนาดเล็ก : ใช้งบประมาณประมาณ 40,000 - 50,000 บาท เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่อยู่แล้ว และต้องการเริ่มต้นธุรกิจในชุมชนเล็กๆ งบประมาณนี้จะใช้สำหรับซื้อสินค้ามาวางขายในปริมาณที่พอเหมาะ รวมถึงอุปกรณ์พื้นฐานเล็กๆ น้อยๆ เช่น ชั้นวางของ เคาน์เตอร์ เครื่องคิดเงินอย่างง่าย
  • ร้านขนาดกลาง : ใช้งบประมาณประมาณ 100,000 - 200,000 บาท เหมาะสำหรับร้านที่ต้องการมีสินค้าที่หลากหลายมากขึ้น มีอุปกรณ์ที่ครบครันขึ้น เช่น ตู้แช่เย็น ตู้แช่แข็ง ชั้นวางสินค้าที่ดูเป็นระเบียบมากขึ้น รวมถึงอาจมีการปรับปรุงร้านเล็กน้อยเพื่อดึงดูดลูกค้า
  • ร้านขนาดใหญ่ : ใช้งบประมาณประมาณ 400,000 - 1,000,000 บาทขึ้นไป เหมาะสำหรับร้านที่ต้องการเป็นมินิมาร์ทหรือร้านขายของชำขนาดใหญ่ งบประมาณนี้จะรวมถึงการปรับปรุงร้านอย่างเต็มรูปแบบ มีระบบจัดการสต๊อกสินค้า ระบบคิดเงินที่ทันสมัย และมีสินค้าให้เลือกหลากหลายครบวงจร นอกจากนี้ ยังมีงบในการทำการตลาดและโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อดึงดูดลูกค้าให้มาใช้บริการ

7 วิธีเปิดร้านขายของชำให้ขายดี ได้กำไร

วิธีเปิดร้านขายของชำ

การเปิดร้านขายของชำให้ประสบความสำเร็จนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับดวงหรือโชคชะตา แต่เป็นการวางแผนอย่างรอบคอบและการบริหารจัดการที่ดี ต่อไปนี้คือ 7 วิธีการที่จะช่วยให้การเปิดร้านขายของชำของคุณประสบความสำเร็จ ขายดี และทำกำไรได้อย่างยั่งยืนครับ

1. เลือกทำเลให้ดี มีชัยไปกว่าครึ่ง

ทำเลที่ตั้งถือเป็นหัวใจสำคัญของการเปิดร้านขายของชำให้ประสบความสำเร็จ ร้านที่ตั้งอยู่ในทำเลดีจะมีโอกาสในการขายสินค้าได้มากกว่า การเลือกทำเลที่ดีควรคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เช่น ความหนาแน่นของชุมชน การคมนาคมที่สะดวก มีที่จอดรถสำหรับลูกค้า และไม่มีร้านค้าประเภทเดียวกันมากเกินไปในบริเวณใกล้เคียง

นอกจากนี้ ควรเลือกทำเลที่มองเห็นได้ชัดเจน เข้าถึงง่าย มีพื้นที่หน้าร้านกว้างพอสำหรับจัดแสดงสินค้า และอยู่ในพื้นที่ที่มีการสัญจรของผู้คนอย่างต่อเนื่อง เช่น ใกล้ตลาด โรงเรียน หอพัก หรือที่ทำงาน ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าได้มากขึ้นครับ

2. ศึกษาตลาดและคู่แข่งอย่างละเอียด

ก่อนเปิดร้านขายของชำ ควรมีการศึกษาตลาดและคู่แข่งในพื้นที่ให้ละเอียด เพื่อให้เข้าใจความต้องการของลูกค้าและช่องว่างทางการตลาดที่ยังไม่มีใครเข้าไปทำตลาด ควรสำรวจร้านค้าในละแวกใกล้เคียงว่ามีสินค้าอะไรที่ยังขาดอยู่ และสินค้าใดที่เป็นที่ต้องการของคนในชุมชน

นอกจากนี้ ควรศึกษากลยุทธ์การขายของคู่แข่ง ทั้งเรื่องราคา การจัดร้าน โปรโมชั่น และบริการต่างๆ เพื่อนำมาปรับใช้และพัฒนาให้ดีกว่า การเข้าใจตลาดและคู่แข่งจะช่วยให้คุณสามารถกำหนดกลยุทธ์การขายที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงการแข่งขันโดยตรงกับร้านค้าที่มีอยู่แล้ว

3. กำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน

การกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณสามารถเลือกสินค้าและบริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น โดยควรพิจารณาจากลักษณะประชากรในพื้นที่ เช่น อายุ รายได้ อาชีพ และไลฟ์สไตล์

ตัวอย่างเช่น หากร้านตั้งอยู่ใกล้หอพักนักศึกษา กลุ่มเป้าหมายก็จะเป็นนักศึกษาที่ต้องการสินค้าราคาประหยัด อาหารพร้อมทาน ขนม และเครื่องดื่ม หรือหากร้านตั้งอยู่ในชุมชนที่มีครอบครัวอาศัยอยู่ กลุ่มเป้าหมายก็จะเป็นแม่บ้านที่ต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคในครัวเรือน เป็นต้น การเข้าใจกลุ่มเป้าหมายจะช่วยให้คุณสามารถจัดหาสินค้าและบริการที่ตรงใจลูกค้าได้มากขึ้นครับ

4. เตรียมสินค้าให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย

เมื่อกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายนั้นๆ ร้านขายของชำควรมีสินค้าหลากหลายประเภท แต่ไม่จำเป็นต้องมีทุกอย่าง ควรเน้นสินค้าที่ขายดีและเป็นที่ต้องการของลูกค้าในพื้นที่

นอกจากนี้ ควรมีการจัดการสต๊อกสินค้าที่ดี ไม่ให้มีสินค้ามากหรือน้อยเกินไป และมีการตรวจสอบวันหมดอายุของสินค้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ลูกค้าได้รับสินค้าที่มีคุณภาพ และสดใหม่อยู่เสมอ การมีสินค้าที่หลากหลายและตรงกับความต้องการของลูกค้าจะช่วยให้ลูกค้าเลือกซื้อสินค้าได้อย่างสะดวก และกลับมาใช้บริการซ้ำ

5. ตกแต่งร้านให้โดดเด่น น่าเข้ามาซื้อของ

การตกแต่งร้านให้สวยงาม สะอาด และเป็นระเบียบ จะช่วยสร้างความประทับใจแรกให้กับลูกค้า ควรจัดวางสินค้าให้เป็นหมวดหมู่ ง่ายต่อการค้นหา และมองเห็นได้ชัดเจน มีแสงสว่างเพียงพอ และมีป้ายราคาที่ชัดเจน

นอกจากนี้ ควรคำนึงถึงบรรยากาศภายในร้านที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกสบายใจและอยากเข้ามาใช้บริการ เช่น มีการจัดวางสินค้าที่สวยงาม มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการเดินเลือกซื้อสินค้า และมีเสียงเพลงเบาๆ ที่ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดี การตกแต่งร้านที่ดีจะช่วยดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ และสร้างความแตกต่างจากร้านค้าอื่นๆ ในละแวกเดียวกัน

6. คำนวณต้นทุน และตั้งราคาขายให้ดี

การตั้งราคาสินค้าเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่อกำไรของร้านขายของชำ ควรคำนวณต้นทุนสินค้าอย่างละเอียด ทั้งต้นทุนสินค้า ค่าขนส่ง ค่าแรง ค่าเช่า และค่าใช้จ่ายอื่นๆ แล้วจึงกำหนดราคาขายที่เหมาะสม ไม่แพงเกินไปจนลูกค้าไม่อยากซื้อ และไม่ถูกเกินไปจนไม่มีกำไร

โดยทั่วไป กำไรของร้านขายของชำควรอยู่ที่ประมาณ 10-20% ของราคาขาย แต่อาจปรับเพิ่มหรือลดได้ตามประเภทของสินค้าและการแข่งขันในพื้นที่ นอกจากนี้ ควรมีการสำรวจราคาสินค้าของร้านค้าในละแวกเดียวกันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าราคาสินค้าของคุณยังคงแข่งขันได้ครับ

7. ให้ความสำคัญกับการทำการตลาด และจัดโปรโมชัน

การทำการตลาดและจัดโปรโมชั่นเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยดึงดูดลูกค้าให้มาใช้บริการที่ร้านของคุณ สามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ เช่น การจัดโปรโมชั่นลดราคา การแจกของแถม การสะสมแต้มแลกของรางวัล หรือการจัดกิจกรรมพิเศษในวันสำคัญต่างๆ

นอกจากนี้ ยังสามารถใช้สื่อออนไลน์ในการประชาสัมพันธ์ร้าน เช่น Facebook, LINE หรือ Instagram เพื่อแจ้งข่าวสาร โปรโมชั่น และสินค้าใหม่ๆ ให้ลูกค้าทราบ รวมถึงอาจมีบริการสั่งสินค้าออนไลน์และจัดส่งให้ลูกค้าในละแวกใกล้เคียง เพื่อเพิ่มความสะดวกและขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น

เปิดร้านขายของชำต้องซื้ออะไรบ้าง

เปิดร้านขายของชำต้องซื้ออะไรบ้าง

การเปิดร้านขายของชำจำเป็นต้องมีอุปกรณ์และสินค้าพื้นฐานเพื่อให้ร้านสามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่น นี่คือตัวอย่างรายการอุปกรณ์และสินค้าที่จำเป็นสำหรับการเปิดร้านโชห่วยครับ

อุปกรณ์พื้นฐาน

  • ชั้นวางสินค้า
  • เคาน์เตอร์คิดเงิน
  • ตู้แช่เย็น/ตู้แช่แข็ง
  • เครื่องคิดเงิน หรือระบบ POS
  • เครื่องชั่งน้ำหนัก
  • ถุงพลาสติก/ถุงกระดาษ
  • กล้องวงจรปิด (ถ้ามีงบประมาณเพียงพอ)

สินค้าพื้นฐานที่ควรมีในร้านโชห่วย

  • อาหารแห้ง เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง ข้าวสาร น้ำตาล เครื่องปรุงรส
  • เครื่องดื่ม เช่น น้ำดื่ม น้ำอัดลม นม กาแฟ
  • ขนม และของว่าง
  • สินค้าอุปโภคบริโภคในครัวเรือน เช่น สบู่ แชมพู ยาสีฟัน น้ำยาล้างจาน
  • ของใช้ประจำวัน เช่น แปรงสีฟัน ผ้าอนามัย กระดาษชำระ
  • ผลิตภัณฑ์ซักล้าง เช่น ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยาล้างห้องน้ำ
  • บุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ต้องขออนุญาตจากกรมสรรพสามิตก่อน)
  • อุปกรณ์เครื่องเขียน เช่น ปากกา สมุด กาว กรรไกร

การเลือกสินค้ามาขายควรคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าในพื้นที่ และควรมีการปรับเปลี่ยนสินค้าตามความต้องการของตลาดอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ ควรมีการจัดเก็บสต๊อกสินค้าที่ดี เพื่อให้มีสินค้าเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า และไม่มีสินค้าค้างสต๊อกนานเกินไปจนหมดอายุครับ

สรุป เปิดร้านขายของชำให้สำเร็จ ต้องวางแผนให้ดี

การเปิดร้านโชห่วย หรือร้านขายของชำให้ประสบความสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปหากมีการวางแผนที่ดี ตั้งแต่การเลือกทำเลที่ตั้ง การศึกษาตลาดและคู่แข่ง การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย การเลือกสินค้า การตกแต่งร้าน การตั้งราคา และการทำการตลาด ทุกขั้นตอนล้วนมีความสำคัญและส่งผลต่อความสำเร็จของร้าน การลงทุนเปิดร้านขายของชำสามารถเริ่มต้นได้ตามงบประมาณที่มี ไม่ว่าจะเป็นร้านขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ่ สิ่งสำคัญคือการบริหารจัดการที่ดี และการปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของตลาดอยู่เสมอ

สำหรับผู้ที่กำลังมองหาแหล่งเงินทุนเพื่อเริ่มต้นธุรกิจร้านขายของชำ หรือต้องการขยายกิจการร้านที่มีอยู่แล้ว เงินติดล้อมีบริการสินเชื่อเพื่อคนมีที่ดิน ให้คุณเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว เพียงใช้โฉนดที่ดินเป็นหลักประกัน ก็สามารถนำเงินไปลงทุนในธุรกิจ ซื้ออุปกรณ์ หรือสต๊อกสินค้าได้ทันที ให้เงินติดล้อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความสำเร็จให้กับธุรกิจร้านขายของชำของคุณนะครับ

หมายเหตุ
สินเชื่อเพื่อคนมีที่ดินรับเฉพาะโฉนดที่ปลอดภาระจำนองแล้ว 3 ประเภท ดังนี้
น.ส.3ก (ครุฑเขียว)
น.ส.4 (ครุฑแดง)
อ.ช.2 (หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด)
กรุณากรอกชื่อภาษาไทย
กรุณากรอกเฉพาะตัวเลข

การกดยืนยันข้อมูล แสดงว่าคุณอ่านและรับทราบ นโยบายความเป็นส่วนตัว เรียบร้อยแล้ว

เงินติดล้อ

บทความโดย

เงินติดล้อ

ผู้มุ่งหวังให้สังคมไทยมีสุขภาพทางการเงินที่ดีขึ้น