คิดจะเป็นหนี้ คิดดีแล้วหรือยัง เตรียมตัวให้พร้อมก่อนสร้างหนี้ก้อนแรก

สำหรับ First Jobber ที่วาดฝันอยากมีบ้านหรือรถยนต์เป็นของตัวเอง การสร้าง "หนี้ก้อนแรก" ถือเป็นก้าวสำคัญที่ต้องคิดให้รอบคอบ เพราะแม้การมีสินทรัพย์จะช่วยสร้างความมั่นคง แต่นั่นก็หมายถึงภาระผูกพันระยะยาวที่เราต้องแบกรับ บทความนี้ เงินติดล้อจึงขออาสาพาคุณไปสำรวจความพร้อมของตัวเอง ตั้งแต่สิ่งที่ต้องรู้ก่อนกู้ไปจนถึงวิธีจัดการหนี้อย่างชาญฉลาด เพื่อให้การสร้างหนี้ครั้งแรกของคุณเป็นการตัดสินใจที่มั่นคง และเป็นบันไดขั้นแรกสู่อนาคตที่ตั้งใจไว้โดยไม่สร้างปัญหาตามมาในภายหลังครับ

สำหรับใครที่ชอบฟัง Podcast เงินติดล้อมีช่องทางให้คุณได้ติดตามความรู้เกี่ยวกับการเงินสนุกสุดเพลิดเพลินแล้ว โดยใน EP.27 คิดจะเป็นหนี้ คิดดีแล้วหรือยัง? มีให้บริการทั้งใน Spotify และ Podbean

ผู้ดำเนินรายการ

คุณมกร จิตหาญ (Training Specialist, Financial Education)

คุณอดิศร ธรรมสุจริตกุล (Assistant Manager Customer and Segment Analysis)

เพิ่งเริ่มทำงานได้ไม่นาน แต่ความฝันที่อยากมีบ้าน มีรถเป็นของตัวเองก็เริ่มชัดเจนขึ้น คำถามคือ แล้วคุณล่ะ พร้อมที่จะเป็นหนี้ก้อนแรกแล้วหรือยัง? การสร้างสินทรัพย์เพื่อความมั่นคงเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็มาพร้อมภาระผูกพันระยะยาว บทความนี้เปรียบเสมือนคู่มือที่จะพาคุณไปสำรวจความพร้อมของตัวเอง สิ่งที่ต้องรู้ก่อนกู้ และวิธีจัดการหนี้อย่างชาญฉลาด เพื่อให้การเป็นหนี้ครั้งนี้ เป็นการตัดสินใจที่ไม่สร้างปัญหาให้ชีวิตในอนาคตครับ

กับดักหนี้ที่คนรุ่นใหม่มักมองข้าม

การรีบร้อนตัดสินใจโดยขาดการวางแผนการเงินที่ดี อาจนำไปสู่กับดักหนี้สินโดยไม่รู้ตัว เรามาดูกันว่าสัญญาณเตือนที่คนส่วนใหญ่มักจะเจอและมองข้ามไป มีอะไรที่น่ากังวลบ้าง เพื่อสร้างความตระหนักรู้ก่อนจะสายเกินไป

ความฝันที่มาพร้อมความเร่งรีบ

ปัจจุบันโซเชียลมีเดียมีอิทธิพลต่อไลฟ์สไตล์ เรามักเห็นภาพความสำเร็จของคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นการซื้อรถคันแรกตั้งแต่อายุ 20 ต้นๆ หรือการเป็นเจ้าของคอนโดก่อนอายุ 30 สิ่งเหล่านี้กลายเป็นแรงกดดันทางสังคมที่ทำให้คนรุ่นใหม่หลายคนรู้สึกว่าต้องรีบประสบความสำเร็จ รีบมีสินทรัพย์เป็นของตัวเองให้ทัดเทียมคนอื่น แต่การรีบร้อนตัดสินใจเป็นหนี้โดยไม่ได้ประเมินสถานะการเงินและความพร้อมของตัวเองให้รอบด้านพอ อาจกลายเป็น "กับดัก" ชิ้นโตที่รอสร้างปัญหาทางการเงินให้คุณในระยะยาวได้

สถานการณ์หนี้ครัวเรือนไทยที่น่ากังวล

ปัญหานี้ไม่ได้เป็นแค่เรื่องส่วนตัว แต่เป็นภาพใหญ่ระดับประเทศ จากข้อมูลล่าสุดของศูนย์ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (NCB) ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2568 พบว่าปัญหาหนี้ครัวเรือนของไทยยังคงน่าเป็นห่วง โดยคน Gen Y ยังคงเป็นกลุ่มที่มีหนี้เสียสูงสุดอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นว่าคนในวัยทำงานสร้างตัวกำลังเผชิญกับความท้าทายในการจัดการหนี้สินอย่างหนักหน่วง การเป็นหนี้จึงเป็นเรื่องใกล้ตัวกว่าที่เราคิดและต้องอาศัยการ วางแผนการเงินที่รอบคอบและมีวินัย

เงินเดือนหมดไปกับหนี้ไม่เหลือเก็บ

ในเคสนี้มาจากสถานการณ์จริงของใครหลายคนที่กำลังเผชิญ ยกตัวอย่างเช่น มีรายได้ 30,000 บาทต่อเดือน แต่กลับต้องนำไปจ่ายหนี้สินต่างๆ ทั้งค่าผ่อนรถ ผ่อนคอนโด และบัตรเครดิตรวมกันถึง 24,000 บาท ทำให้เหลือเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเพียง 6,000 บาทตลอดทั้งเดือน ซึ่งการเป็นหนี้ในสัดส่วนที่สูงเกินไปนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ไม่มีเงินเหลือเก็บ แต่ยังสร้างความเครียดและบั่นทอนสุขภาพจิตในการใช้ชีวิตอีกด้วย

เช็กให้ชัวร์! ก่อนจะสร้างหนี้ต้องรู้อะไรบ้าง?

(Info Alt Text: วางแผนการเงิน)

เมื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงแล้ว ขั้นต่อไปคือการเตรียมความพร้อมอย่างรอบด้าน การประเมินตัวเองอย่างตรงไปตรงมา จะเป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุด ที่ช่วยให้คุณตัดสินใจสร้างหนี้ได้อย่างมั่นคงและปลอดภัยทางการเงิน

รู้จักตัวเอง เริ่มต้นด้วยการทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย

ก่อนจะให้คนอื่นมาประเมินเครดิตทางการเงิน เราต้องรู้จักสถานะของตัวเองให้ดีที่สุดเสียก่อน ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดคือ "การทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย" ลองทำตารางง่ายๆ ไม่ซับซ้อนในสมุดหรือใช้แอปพลิเคชันบนมือถือ เพื่อบันทึกว่าในแต่ละเดือนเรามีเงินเข้ามาเท่าไหร่ และจ่ายออกไปกับอะไรบ้าง

ตัวอย่างตารางรายรับ-รายจ่าย

การทำบัญชีรายรับรายจ่ายจะทำให้คุณเห็นตัวเลข "เงินคงเหลือสุทธิ" ที่แท้จริง ซึ่งจะบอกได้ว่าคุณมีความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ต่อเดือนอยู่ที่เท่าไหร่ และควรเป็นหนี้ไม่เกิน 40-50% ของรายได้คงเหลือนี้ เพื่อให้การใช้ชีวิตไม่ตึงเครียดจนเกินไป

อย่าลืมค่าใช้จ่ายแฝงนอกเหนือจากหนี้รายงวด

การเป็นหนี้ก้อนใหญ่ไม่ได้มีแค่ "ค่างวด" ที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน แต่ยังมาพร้อมค่าใช้จ่ายแฝงอีกมากมายที่หลายคนลืมนึกถึง ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะกลายเป็นภาระก้อนโตที่คุณต้องนำมาพิจารณาในการวางแผนการเงินด้วย ตัวอย่างเช่น

• ซื้อรถมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกจากค่างวด ดังนี้
  • ค่าน้ำมัน
  • ค่าประกันภัยรถยนต์และ พ.ร.บ. (จ่ายรายปี)
  • ค่าบำรุงรักษาตามระยะทาง (เช็กระยะ, เปลี่ยนยาง, แบตเตอรี่)
  • ค่าที่จอดรถ ค่าทางด่วน และค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่นๆ
• ซื้อบ้านหรือคอนโด มีค่าจิปาถะอื่นๆ อีก ดังนี้
  • ค่าส่วนกลาง (จ่ายรายปี)
  • ค่าตกแต่งและซื้อเฟอร์นิเจอร์
  • ค่าประกันอัคคีภัย
  • ค่ามิเตอร์น้ำ-ไฟ และค่าสาธารณูปโภคที่อาจเพิ่มขึ้น

นึกถึงความจำเป็นว่าเราจ่ายเพื่ออะไร และพร้อมรับผิดชอบมั้ย

เมื่อเห็นภาพรวมทางการเงินและค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายก่อนตัดสินใจคือการถามใจตัวเองให้ชัดเจนและลึกซึ้งขึ้น ลองใช้ Checklist คำถามเหล่านี้เพื่อทบทวนตัวเองอีกครั้ง

1. หนี้ก้อนนี้ “จำเป็น” หรือแค่ "ความต้องการ” เช่น การซื้อรถเพื่อใช้เดินทางไปทำงานในที่ที่ไม่มีรถสาธารณะ อาจเป็นความจำเป็น แต่การเลือกรถรุ่นที่แพงเกินตัว อาจเป็นแค่ความต้องการ
2. เรามีเงินเก็บสำรองฉุกเฉินสำหรับ 3-6 เดือนแล้วหรือยัง หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน เช่น ตกงาน หรือเจ็บป่วย เงินก้อนนี้จะเป็นเบาะรองรับให้คุณยังสามารถจ่ายหนี้ต่อไปได้โดยไม่สะดุด
3. รายได้ของเรามีความมั่นคงแค่ไหน พร้อมจะผูกพันกับภาระหนี้ก้อนนี้ไปอีก 5, 10, หรือ 30 ปีหรือไม่? เพราะการเป็นหนี้คือการให้คำมั่นสัญญาระยะยาว คุณต้องมั่นใจว่าพร้อมจะรับผิดชอบมันไปจนตลอดรอดฝั่ง

กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนเท่าที่ไหว หัวใจสำคัญของการบริหารหนี้

การเป็นหนี้ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเสมอไปหากเกิดจากความจำเป็นและมีการวางแผนมาอย่างดี แต่สิ่งสำคัญคือการสร้างหนี้ให้อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงและความสามารถของเราเอง เพื่อนำไปสู่สุขภาพทางการเงินที่แข็งแรง เงินติดล้อขอแนะนำ 3 แนวคิดเพื่อให้ทุกคนรับมือกับภาระหนี้ได้อย่างเป็นระบบ

1. เป็นหนี้ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ต้องรู้จักสถานะการเงินของตัวเอง

เราต้องปรับทัศนคติก่อนว่า "หนี้ดี" นั้นมีอยู่จริง เช่น หนี้เพื่อการศึกษา หรือหนี้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นการลงทุนเพื่ออนาคต การเป็นหนี้จึงไม่ใช่ผู้ร้ายเสมอไป แต่หัวใจสำคัญคือการ "กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว" ซึ่งจะรู้ได้ก็ต่อเมื่อเราเข้าใจสถานะการเงินของตัวเองอย่างถ่องแท้จากการวางแผนการเงินที่ดีเท่านั้น การรู้จักตัวเองทางการเงินคือพื้นฐานของการจัดการหนี้ที่มีประสิทธิภาพ

2. สัญญากับตัวเองก่อนเซ็นสัญญาเงินกู้

ก่อนที่คุณจะจรดปากกาเซ็นสัญญาเงินกู้กับสถาบันการเงิน ลองใช้แนวคิดนี้เป็นเครื่องเตือนใจสุดท้าย คือการ "เซ็นสัญญากับตัวเอง" ให้คำมั่นสัญญากับตัวเองอย่างแน่วแน่ว่า "ฉันจะบริหารหนี้อย่างมีวินัย" "ฉันจะทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายสม่ำเสมอ" และ "ฉันจะไม่สร้างหนี้ที่ไม่จำเป็นเพิ่ม" การทำแบบนี้จะช่วยตอกย้ำความรับผิดชอบและเป้าหมายทางการเงินของคุณให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

3. วางแผนการเงินตั้งแต่วันนี้ เพื่ออนาคตที่มั่นคง

อย่ารอให้ปัญหาเกิดขึ้นก่อนแล้วค่อยแก้ไข การวางแผนการเงินที่ดีควรเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ ไม่ว่าคุณจะกำลังคิดเป็นหนี้หรือไม่ก็ตาม การสร้างวินัยทางการเงินให้เป็นนิสัยตั้งแต่เนิ่นๆ จะเป็นรากฐานสำคัญที่ช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายทุกอย่างในชีวิตได้อย่างมั่นคง ไม่ว่าจะเป็นการซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือแม้แต่การมีเงินเก็บเพื่อการลงทุนและวัยเกษียณ

สรุปการเตรียมตัวสำหรับหนี้ก้อนใหญ่ในชีวิต

การเตรียมตัวเป็นหนี้ก้อนแรกในชีวิตนั้นต้องอาศัยความเข้าใจทั้งในเรื่องของความจำเป็นและสถานะทางการเงินของตัวเอง การทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย การประเมินค่าใช้จ่ายแฝง และการถามใจตัวเองให้ชัดเจน คือขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้คุณจัดการหนี้ได้อย่างอยู่หมัดและป้องกันปัญหาหนี้ครัวเรือนส่วนบุคคลได้

สำหรับใครที่ไตร่ตรองถึงความสำคัญของหนี้ก้อนนี้อย่างรอบคอบแล้ว และมองหาทางเลือกในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อสร้างความมั่นคงให้ชีวิต เงินติดล้อ มีบริการสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ อีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ ด้วยการใช้เล่มทะเบียนรถที่คุณมีเป็นหลักประกัน คุณสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่มีความปลอดภัยและเชื่อถือได้ โดยที่ยังใช้รถยนต์ได้ตามปกติ พร้อมอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม เพื่อเป็นทุนเริ่มต้นในการสร้างฝันของคุณให้เป็นจริง