หน้าแรก ติดล้อสตอรี่ เตรียมความพร้อมอยู่เสมอ โดยไม่ต้องรอ 'โอกาส' จุดเริ่มต้นเล็กๆ สู่อีกก้าวของความสำเร็จ

เตรียมความพร้อมอยู่เสมอ โดยไม่ต้องรอ 'โอกาส' จุดเริ่มต้นเล็กๆ สู่อีกก้าวของความสำเร็จ

08 มกราคม 2567
เตรียมความพร้อมอยู่เสมอ โดยไม่ต้องรอ
‘เงินติดล้อ = องค์กรแห่งโอกาสและความสุข’ คือสมการที่เป็นจริงและตั้งต้นจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงของชาวเงินติดล้อ ที่หลายคนเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ แต่พร้อมเปิดใจคว้าทุกโอกาสที่ได้รับ เรียนรู้ และปรับตัวอยู่เสมอ จนเติบโตขึ้นมาเป็นผู้นำในวันนี้ เช่น เรื่องราวของ คุณเช พิษณุพงศ์ กองอ้น ที่เพิ่งได้รับโอกาสขึ้นมารับหน้าที่เป็น ผู้ช่วยผู้จัดการภาคเหนือ ในปีที่ผ่านมา


จุดเริ่มต้นของการ ‘เปลี่ยนชีวิต’

“หลังจากที่ผมเรียนจบผมก็ทำงานเป็นพนักงานขับรถส่งของอยู่พักหนึ่ง และก็มาสมัครเป็น ‘เจ้าหน้าที่สินเชื่อ’ ทำงานในสาขาของเงินติดล้อที่แหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ก่อนหน้านั้นผมก็ไม่ได้มีความรู้เรื่องการให้บริการสินเชื่อหรือไฟแนนซ์มาก่อนเลย แต่เงินติดล้อก็เปิดโอกาสให้ผมได้เรียนรู้ทุกอย่าง”


และหลังจากทำงานได้แค่ 1 ปี คุณเชก็ต้องปรับตัวจากความท้าทายแรกจากการปรับโครงสร้างการทำงานของเงินติดล้อในเวลานั้น
 

“ตอนนั้นบริษัทมีการรวมหน้าที่ของ ‘เจ้าหน้าที่สินเชื่อ’ กับ ‘เจ้าหน้าที่การเงิน’ ให้กลายเป็นพนักงาน 1 คน เรียกว่า พนักงานบริการลูกค้า หรือ CSO (Customer Service Officer) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เดิมหน้าที่จะถูกแบ่งแยกกันชัดเจน คือ เจ้าหน้าที่สินเชื่อโดยส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชาย มีหน้าที่ลงพื้นที่ไปตรวจสภาพรถและถ่ายรูปรถของลูกค้า

ส่วนเจ้าหน้าที่การเงินก็จะเป็นผู้หญิง จะเป็นพนักงานที่นั่งอยู่ที่โต๊ะหน้าจอคอมพิวเตอร์ เพื่อบันทึกรายละเอียดและประสานงานเกี่ยวกับเรื่องเงินๆ ทองๆ แต่พอมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น สำนักงานใหญ่ก็ได้ช่วยเตรียมความพร้อมให้พนักงาน โดยจัดการฝึกอบรมเพื่อให้ความรู้ทั้งเรื่องการตีราคารถ รับค่างวด สรุปเงินสดรับ เพื่อให้พนักงานมีทักษะเพิ่มขึ้นและสามารถทำงาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ช่วงนั้นพนักงานที่เป็นเจ้าหน้าที่สินเชื่อก็ลาออกกันหลายคน เพราะคิดว่าตัวเองทำงานที่ลงรายละเอียดแบบนี้ไม่ได้ ไม่อยากปรับตัว ไม่อยากฝึกใช้คอมพิวเตอร์

แต่ผมเลือกที่จะปรับตัวและเรียนรู้กับโอกาสการทำงานใหม่ๆ เพราะเข้าใจว่าบริษัทต้องมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อจะเติบโต และตัวผมเองก็เช่นกัน”


การตัดสินใจที่จะเลือกที่จะคว้าโอกาสตอนนั้นไว้คือจุดเริ่มต้นแรกของการ ‘เปลี่ยนชีวิต’ เพราะหลังจากนั้นคุณเชก็มีโอกาสได้พัฒนาตัวเองและเติบโตก้าวหน้าในหน้าที่การงานอย่างต่อเนื่อง

 

“ผมว่าผมตัดสินใจไม่ผิดที่คว้าโอกาสเอาไว้ เพราะจาก CSO วันนั้น ผมก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นผู้จัดการพื้นที่ และวันนี้ผมก็ได้รับโอกาสเติบโตและมีหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้จัดการภาคเหนือ ที่ต้องดูแลผู้จัดการพื้นที่และผู้จัดการสาขาในแต่ละพื้นที่ รวมๆ แล้วก็มีน้องๆ ที่ต้องดูแลประมาณ 200 คน”


หน้าที่ของผู้นำ คือการสร้าง ‘ผู้นำ’

“ภูมิใจกับโอกาสที่ได้รับ แต่ก็กังวลบ้าง เพราะในทีมก็มีผู้จัดการพื้นที่ที่เป็นน้องใหม่ ประสบการณ์ในการบริหารคนของเขาก็ยังไม่ค่อยแข็งแรง แล้วเราก็ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่จะไปลงมือทำแทนเขา แต่ต้องพยายามหยิบยื่นความรู้และเพิ่มทักษะให้ผู้จัดการพื้นที่เก่งขึ้นให้ได้ เพื่อให้เขาไปช่วยสอนผู้จัดการสาขาให้เก่งต่อให้ได้

เพราะที่เงินติดล้อเราเชื่อว่าหน้าที่ของผู้นำคือการสร้าง ‘ผู้นำ’ ไม่ใช่คิดแต่จะให้เขาเป็นผู้ตาม อีกเรื่องคือกังวลว่าจะมีเรื่องทุจริตเกิดขึ้นบ้างหรือเปล่า เพราะจากเมื่อก่อนที่เคยดูแลคน 30-40 คน การดูแลบริหารจัดการก็ง่ายกว่า

แต่พอมีทีมงานที่ใหญ่ขึ้นก็ต้องคิดหาวิธีป้องกันเหตุการณ์นี้ไม่ให้เกิดขึ้น ผมก็จะใช้วิธียกเคสในอดีตมาเล่าให้เขาเห็นภาพว่า ถ้าทุจริต ผลที่เกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร รวมถึงใช้วิธีทำตัวเป็นแบบอย่างให้น้องๆ เห็นทั้งในเรื่องความเป็นผู้นำ เรื่องของค่านิยมองค์กร”


เคล็ดลับในการพัฒนาตัวเอง: พร้อมเรียนรู้และเปิดใจจากน้องๆ

สิ่งหนึ่งที่สะท้อนการเติบโตอย่างโดดเด่นของคุณเช มาจากการไม่เคยปฏิเสธการเรียนรู้ และยังพร้อมเรียนรู้จากคนรอบตัว อย่างที่คุณเชเล่าว่า
 

“ตั้งแต่ทำงานมา ผมเปิดรับทุกโอกาสที่บริษัทหยิบยื่นให้ผม เพื่อจะเป็นคนที่ดีขึ้น เก่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรภายนอก หลักสูตรภายใน”


นอกจากเรียนรู้จากคนที่มีประสบการณ์มากกว่า คุณเชยังเปิดใจเรียนรู้จากน้องๆ ที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาด้วย
 

“มีหลายครั้งที่น้องๆ เป็นครูชั้นดีให้กับเรา เพราะต้องยอมรับว่าพอเติบโตขึ้นมาเป็นหัวหน้าเป็นผู้นำแล้ว เราเองก็ไม่ได้รู้ในเรื่องการปฏิบัติงานไปหมดทุกอย่างเหมือนเมื่อก่อน อย่างบางเรื่องเราลืมไปแล้ว แต่น้องๆ ยังทำอยู่ทุกวัน ก็จะมีที่น้องๆ ช่วยเตือนว่าพี่เรื่องนี้มันทำไม่ได้นะ หรือพี่เรื่องนี้มันยังทำได้อยู่นะ”


เคล็ดลับให้ลูกน้องไว้วางใจ: ต้องเป็นได้ทั้งเพื่อนและหัวหน้า

“ผมมองว่าผู้นำต้องมี 2 บทบาท คือสามารถเป็นทั้งเพื่อนและหัวหน้า เขาถึงจะกล้าสะกิด เตือนเรา หรือกล้าปรึกษา กล้าเปิดใจกับเรา แล้วก็ต้องเป็นคนเข้าถึงง่าย และต้องรู้ว่าเวลาไหนควรฟัง เวลาไหนควรพูด อย่างเวลาที่น้องๆ มาปรึกษาปัญหาส่วนตัวหรือปัญหาครอบครัว ผมก็จะพยายามฟังมากกว่าพูด

เพราะบางครั้งเขาไม่ได้อยากจะหาทางออก แต่เขาแค่ต้องการระบายให้ฟัง และถ้าเราฟังอย่างตั้งใจลูกน้องก็จะรู้สึกไว้วางใจเรา”


เบื้องหลังความสำเร็จ

“อันดับแรกที่ผมต้องขอบคุณคือ ‘ครอบครัว’ ที่เป็นกำลังใจสำคัญและยอมเสียสละเพื่อให้ผมเติบโตในหน้าที่การงานได้อย่างเต็มที่ ต่อมาก็คือพี่ๆ ผู้จัดการภาคทุกคน โดยเฉพาะ ‘ภาคบอย’ บัญชา เรืองแสง ผู้จัดการภาคกลาง-ตะวันออก ที่ให้โอกาสผมตั้งแต่เป็นผู้จัดการสาขา จนได้ขึ้นมาเป็นผู้จัดการพื้นที่ รวมถึงลูกน้อง และผู้บริหารทุกคนที่คอยสนับสนุน ช่วยเหลือ ผลักดันจนผมมีวันนี้

ทุกคนจึงเป็นไอดอลให้กับผม  โดยเฉพาะคุณหนุ่ม ปิยะศักดิ์ MD เงินติดล้อ ซึ่งเป็นคนที่ผมศรัทธาและเชื่อมั่นในแนวคิดที่กว้างไกลของคุณหนุ่มมาก และยังเป็นคนที่ทำให้ผมเห็นภาพอนาคตของบริษัทได้ชัดเจนขึ้น”


และสุดท้ายคุณเช ยังฝาก ‘เคล็ดลับการเติบโต’ ให้กับทุกคน นั่นคือ
 

“คนเรามีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน ต้องคิดว่าเราใช้เวลา 24 ชั่วโมงนี้ไปเพื่อใคร และถ้าอยากจะสบายตอนที่อายุเยอะๆ ก็ต้องทำงานให้เยอะตอนที่เราอายุยังน้อย และเมื่อโอกาสมาถึงก็คว้าโอกาสนั้นไว้ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้มีความพร้อม

ผมพูดแบบนี้ได้เพราะที่เงินติดล้อมีหลักสูตร มีเวิร์กชอปที่พร้อมสนับสนุนทุกคนให้ได้เรียนรู้ เพื่อให้สามารถใช้โอกาสที่ได้มาให้ดีที่สุด ไม่ต้องกลัวองค์กรจะไม่โต แต่ที่ต้องกลัวคือถ้าไม่พร้อมเรียนรู้ ไม่พร้อมเปลี่ยนแปลงไปกับโอกาสที่มาถึง เราอาจจะโตไม่ทันองค์กร

เงินติดล้อ

ติดล้อสตอรี่โดย

เงินติดล้อ

ผู้มุ่งหวังให้สังคมไทยมีสุขภาพทางการเงินที่ดีขึ้น