ปี 2025 คืออีกหนึ่งบททดสอบขององค์กร ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่เปราะบาง หนี้ครัวเรือนที่แตะจุดสูงสุด และการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากทุกทิศทาง ทั้งจากตลาดสินเชื่อที่อิ่มตัว คู่แข่งที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว ไปจนถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างไม่ทันตั้งตัว
แต่ "เงินติดล้อ" เลือกที่จะไม่หยุด เราเดินต่อในเส้นทางที่อาจไม่ง่าย แต่เต็มไปด้วยความเป็นไปได้ — นั่นคือที่มาของงาน NTL OPEN BOX 2025 งานประชุมสุดยอดผู้นำ ภายใต้คอนเซปต์ “TIDLOR’s Journey of Possibilities: การเดินทางสู่ทุกความเป็นไปได้” ภายในงานได้ถ่ายทอดแนวทางการเติบโตขององค์กรที่แม้จะเผชิญกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ แต่ยังคงสามารถขับเคลื่อนได้อย่างแข็งแกร่งผ่านเทคโนโลยีด้านการเงิน ธุรกิจนายหน้าประกันภัย การใช้ประโยชน์จาก Data และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งล้วนถูกนำมาเสริมศักยภาพการทำงาน และพัฒนานวัตกรรมในหลากหลายมิติ
MD TALK: ในวิกฤติ มีหนทาง...ถ้าเรายังมีหัวใจของ “WE-GRIT”
คุณหนุ่ม ปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ชวนเราหวนมองเส้นทางที่ผ่านมา ตลอดหลายปีของการก่อตั้ง บมจ. เงินติดล้อ ผ่านวิกฤติมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง — ต้มยำกุ้ง แฮมเบอร์เกอร์ น้ำท่วม โควิด และวิกฤติหนี้ครัวเรือนระดับ 90% ต่อ GDP
คำถามสำคัญที่ถูกตั้งขึ้นคือ "เราจะยังเดินต่อไปในทิศทางเดิมหรือไม่?"
คำตอบคือ เราจะไม่หยุดอยู่กับที่ แต่จะเรียนรู้จากอดีต สร้างความเข้าใจ และกำหนดอนาคตที่ดีกว่าให้กับลูกค้าและสังคมไทย เพราะสิ่งที่ทำให้เรายืนหยัดมาได้ ไม่ใช่แค่ระบบหรือสินค้า แต่คือหัวใจของ WE-GRIT — ความมุ่งมั่น ความเข้าใจ และความไม่ยอมแพ้ของพนักงานทุกคน
เราไม่ใช่แค่ผู้ปล่อยกู้ แต่เป็นที่พึ่งทางการเงินที่ลูกค้าไว้วางใจ เราไม่ขายประกันเพื่อให้ถึงเป้า แต่เสนอเพราะรู้ว่า "ประกัน" คือเกราะป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของลูกค้า เราทำทุกอย่างนี้...เพื่อลูกค้า เพราะลูกค้าคือเหตุผล ไม่ใช่แค่ผลลัพธ์
“โบนัส เงินเดือน คือผลพลอยได้ แต่เหตุผลที่เราทำสิ่งเหล่านี้คือ…ลูกค้า” – คุณหนุ่ม ปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล
สินเชื่อ: ไปต่ออย่างเข้าใจ และมั่นคงกว่าเดิม
ภาพใหญ่ของธุรกิจสินเชื่อในปี 2025 ที่แม้การแข่งขันจะรุนแรงขึ้น และต้นทุนจะท้าทายกว่าเดิม แต่เงินติดล้อก็ยังคงเชื่อใน “ความเข้าใจ” และ “ความจริงใจ” ให้เป็นเข็มทิศที่นำพาองค์กรไปข้างหน้าได้ พร้อมยืนหยัดในฐานะผู้นำสินเชื่อทะเบียนรถ ที่ไม่ใช่แค่ด้วยยอดขาย แต่ด้วยความเข้าใจลูกค้า เพราะลูกค้าไม่ได้ต้องการแค่เงิน แต่ต้องการ “ที่พึ่ง” ที่เข้าใจสถานการณ์ของเขาจริงๆ พวกเราจึงไม่หยุดพัฒนา ทั้งเรื่องกระบวนการ สินค้า และทีมงานหน้าบ้าน เพื่อให้สามารถมอบทางออกที่เหมาะสมกับแต่ละคนในแบบที่ “ช่วยให้ไปต่อได้”อย่างเป็นธรรมและโปร่งใส
เจอหนี้ไม่กังวล เพราะเรามีประกันที่เข้าใจ อย่าง ประกันติดโล่ อารีเกเตอร์ และเฮ้ กู๊ดดี้
เมื่อความไม่แน่นอนคือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ การมี “ประกันที่เข้าใจ” จึงกลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้ลูกค้ารับมือกับเรื่องไม่คาดคิดได้อย่างมั่นใจ เพราะเราเชื่อว่าบทบาทของการประกันภัยที่ไม่ใช่แค่เรื่องตัวเลขหรือยอดขาย แต่คือโอกาสในการช่วยเหลือลูกค้าให้รอดจากภาระทางการเงินที่ไม่คาดคิด เราจึงมุ่งมั่นสร้างระบบประกันภัยที่เข้าใจง่าย เข้าถึงง่าย และเน้นบริการที่พร้อมดูแลลูกค้าในทุกสถานการณ์ — ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุม บริการหลังการขาย หรือช่องทางการเข้าถึงที่หลากหลายทั้งออฟไลน์และออนไลน์
ในวันที่ AI ไม่ใช่เทคโนโลยีสำหรับอนาคต แต่คือเครื่องมือของวันนี้
ด้วยวิสัยทัศน์ของผู้นำองค์กรที่เชื่อว่า AI คือพลังเสริมที่จะทำให้คนทำงานได้ “เร็วขึ้นและไกลกว่าเดิม” องค์กรจึงลงทุนอย่างจริงจังในเรื่องการเรียนรู้และการลงมือทำ ตั้งแต่หลักสูตร ‘AI Literacy for All’ สำหรับพนักงานทุกคน ไปจนถึงการจัดเวที AI Hackathon ที่เปิดพื้นที่ให้ไอเดียใหม่ๆ ได้ต่อยอดสู่ผลลัพธ์ทางธุรกิจจริง
เบื้องหลังความเคลื่อนไหวเหล่านี้ คือการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากทีมผู้บริหาร และทีม AI Gangster ที่ร่วมกันผลักดันให้เทคโนโลยีนี้เป็น “เครื่องมือ” เพราะสำหรับเงินติดล้อ... AI ไม่ได้มาแทนคน แต่คือกุญแจสำคัญในการ “ปลดล็อกความเป็นไปได้ให้คนเติบโตได้เร็วกว่าเดิม”
Collections & Data: ที่ขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน
เมื่อพูดถึงความมั่นคงของธุรกิจสินเชื่อ เบื้องหลังที่มักถูกมองข้ามคือ “ทีม Collections” และ “Data” ที่แม่นยำ เพราะหากระบบหลังบ้านแข็งแรง ย่อมส่งผลต่อประสิทธิภาพต้นทุน และช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงโอกาสทางการเงินได้อย่างเป็นธรรม
Collections: ไม่ใช่แค่การติดตามหนี้ แต่คือรากฐานของระบบสินเชื่อ
องค์กรได้ปรับมุมมองใหม่ต่อบทบาทของทีม Collections ว่าหน้าที่ไม่ได้มีเพียง “การติดตามหนี้” แต่คือฟันเฟืองสำคัญในการรักษาความสมดุลของระบบสินเชื่อ ยิ่งทำได้ดีเท่าไร ต้นทุนสินเชื่อก็ยิ่งถูกบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนั่นหมายถึงโอกาสที่ลูกค้าจะสามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้ง่ายขึ้นและอย่างเป็นธรรมมากขึ้น
ความเร็วและความแม่นยำของข้อมูล คือแต้มต่อ
เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจที่แม่นยำและรวดเร็วในทุกระดับ องค์กรได้พัฒนา “Data Core” ที่ทำให้ทุกทีมสามารถเข้าถึงข้อมูลร่วมกันได้อย่างถูกต้อง เชื่อมโยง และปลอดภัย ในขณะเดียวกัน การพัฒนาด้าน Data ก็เดินหน้าควบคู่กันอย่างแข็งแกร่ง ทั้งการตั้งเจ้าของข้อมูล การจัดทำ Data Catalogue การกำหนดมาตรฐานการใช้งาน และการยกระดับเครื่องมือให้พร้อมใช้งานทั่วทั้งองค์กร เพื่อให้ทุกคนตัดสินใจจากข้อมูลชุดเดียวกัน และวิ่งไปในทิศทางเดียวกัน
จากข้อมูลกระจัดกระจาย สู่ระบบที่ทำงานเชื่อมโยงทั้งองค์กร
ในยุคที่ Data กลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานของทุกการตัดสินใจ องค์กรจึงริเริ่มการจัดระเบียบข้อมูลภายในองค์กร เชื่อมโยงการทำงานของทุกฝ่ายตั้งแต่สาขาไปจนถึงสำนักงานใหญ่ ลดความซ้ำซ้อน เพิ่มความแม่นยำ และสร้างประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้า เพราะองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วย Data ไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่คือเป้าหมายที่กำลังเกิดขึ้นจริง
วัฒนธรรม คือเข็มทิศที่พาเราไปข้างหน้า
วัฒนธรรมของเงินติดล้อ ไม่ได้เป็นแค่คำสวยหรู แต่คือรากฐานที่พาเราผ่านการเปลี่ยนแปลงจากธุรกิจครอบครัวสู่บริษัทที่เติบโตอย่างยั่งยืน และในปีนี้ได้ร่วมแบ่งปันบทเรียนจากการเดินทางของ “คนทำวัฒนธรรม” ที่เกิดขึ้นจริงในองค์กรเรา
องค์กรจึงเลือกใช้ "ค่านิยม" แทน "กฎระเบียบ" เปิดพื้นที่ให้คนเรียนรู้และเติบโต ทั้งจากประสบการณ์จริง หนังสือ และบทเรียนที่ถ่ายทอดกันรุ่นสู่รุ่น พร้อมดูแลชีวิตของพนักงานในทุกมิติ ทั้งสุขภาพกาย สุขภาพใจ และความมั่นคงทางการเงิน
สรุป
เมื่อมองย้อนกลับไป ความสำเร็จขององค์กรในวันนี้ ไม่ได้เกิดจากแค่แผนกลยุทธ์ที่วางไว้อย่างดี แต่เกิดจากหัวใจของชาวเงินติดลล้อที่ลุกขึ้นมาทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยให้ลูกค้าและสังคมไทยไปต่อได้
TIDLOR’s Journey of Possibilities จึงไม่ใช่แค่ธีมของงานในปีนี้ แต่คือการยืนยันว่า ทุกก้าวเล็กๆ ของชาวเงินติดล้อกว่า 8,000 คน เมื่อถูกร้อยเรียงเข้าด้วยกัน จะกลายเป็นพลังที่พาเราไปไกลกว่าที่เคย