หน้าแรก ติดล้อสตอรี่ เงินติดล้อ ปั้นความสุขจากพนักงานสู่แบรนด์ที่ลูกค้าเชื่อใจติดต่อกัน 5 ปีซ้อน

เงินติดล้อ ปั้นความสุขจากพนักงานสู่แบรนด์ที่ลูกค้าเชื่อใจติดต่อกัน 5 ปีซ้อน

03 เมษายน 2566
เงินติดล้อ ปั้นความสุขจากพนักงานสู่แบรนด์ที่ลูกค้าเชื่อใจติดต่อกัน 5 ปีซ้อน
ในช่วง 1-2 ปี ที่ผ่านมา การแข่งขันในธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น มีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาแข่งขันทำธุรกิจเป็นจำนวนมาก ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มธนาคาร แต่อย่างไรก็ตาม  “เงินติดล้อ” ในฐานะแบรนด์ที่มีพื้นฐานด้านนวัตกรรม เทคโนโลยีไอที และมีแนวคิดการดำเนินธุรกิจด้วยการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อยู่แล้ว จึงทำให้ “เงินติดล้อ” ปรับตัวได้ไม่ยาก และด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในระยะสั้น รวมถึงการยกระดับการบริการเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าในระยะยาว สามารถสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์ได้อย่างมีจุดยืนที่ชัดเจน ท่ามกลางคู่แข่งในธุรกิจเดียวกัน ซึ่งนั่นมีส่วนทำให้เงินติดล้อสามารถคว้ารางวัลครองใจผู้บริโภคจากผลสำรวจ 2023 Thailand’s Most Admired Brand หมวดธนาคารและบริการทางการเงิน ในกลุ่มธุรกิจสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5

คุณเบอร์นาร์ด โช ผู้บริหารระดับสูงฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR ได้กล่าวถึงหัวใจสำคัญในการรักษาตำแหน่งแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจเป็นอันดับหนึ่งในครั้งนี้ว่า “จุดเริ่มต้นจากแบรนด์ เงินติดล้อ มีจุดยืนในการดำเนินธุรกิจด้วยเจตนาที่ดีในการสร้างโอกาสทางการเงินให้กับกลุ่มลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้สินเชื่อรายย่อยที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการจากธนาคารได้ และยังเป็นแบรนด์ที่มีจุดแข็งในการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีไอที นำมาสู่การสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่เรากำลังคิดค้นเพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้า และยังพัฒนาการบริการให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญตลอดมา และจากจุดยืนดังกล่าวทำให้เงินติดล้อส่งต่อเจตนาที่ดีไปสู่ลูกค้าได้”

เป็นที่รู้จักกันดีกว่าแบรนด์ “เงินติดล้อ” ให้บริการด้านสินเชื่อทะเบียนรถ ภายใต้การบริหารงานโดย บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR และปัจจุบันยังดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันภัยภายใต้แบรนด์ “ประกันติดล้อ” ซึ่งมีความพร้อมในการให้คำปรึกษาด้านประกันภัยอย่างใกล้ชิด (Face to Face Marketing) จากนายหน้าประกันภัยมืออาชีพที่มีใบอนุญาตถูกต้องกว่า 5,000 คน ผ่านจุดบริการที่กระจายตัวอยู่มากกว่า 1,600 แห่ง ทั่วประเทศ และในเมื่อ บมจ.เงินติดล้อ มีธุรกิจหลัก 2 อย่าง ทั้งด้าน “สินเชื่อทะเบียนรถ” และด้าน “นายหน้าประกันภัย” ทำให้วิธีการบริหารพอร์ตโฟลิโอจึงต้องดำเนินไปอย่างครอบคลุมด้วยการสร้างการรับรู้ระหว่างแบรนด์และผู้บริโภค การกระชับความสัมพันธ์กับลูกค้าให้เหนียวแน่น เพื่อให้ทั้งสองธุรกิจเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานการสร้างโอกาสทางการเงินและส่งเสริมความคุ้มครองด้านประกันภัยให้กับประชาชน

“ส่วนหนึ่งของการจดจำคือ การเป็นเจ้าแรกในหลายๆ อย่างของแบรนด์ “เงินติดล้อ” ไม่ว่าจะเป็นเจ้าแรกที่ให้ “บัตรติดล้อ” บัตรกดเงินสดตามวงเงินสินเชื่อ ที่ลูกค้าจะสามารถกดเงินสดได้จากตู้เอทีเอ็มของธนาคารพาณิชย์ทั่วประเทศกว่า 50,000 แห่ง ได้ตลอด 24 ชม. โดยคิดดอกเบี้ยเพียงเฉพาะจำนวนเงินที่กดมาใช้ จำนวนเงินที่เหลือในบัตรหากไม่กดใช้จะไม่เสียดอกเบี้ย เปรียบเหมือนลูกค้าได้พกประเป๋าเงินติดตัวไว้ใช้ยามฉุกเฉิน ซึ่งปลายปี 2022 ที่ผ่านมา ออกบัตรติดล้อให้กับลูกค้าไปแล้วมากกว่า 490,000 ใบ หรือในด้านธุรกิจนายหน้าประกันภัยภายใต้แบรนด์ประกันติดล้อ ถือเป็นเจ้าแรกที่ประกาศให้ลูกค้าสามารถแบ่งจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยด้วยเงินสดแบบหารเท่ากันทุกงวด คุ้มครองทันทีที่ชำระค่าเบี้ยประกันภัยตั้งแต่งวดแรก โดยสิ่งที่ต้องทำในฐานะเจ้าแรกคือ การสังเกตจากความต้องการของลูกค้า เพื่อค้นหาสิ่งที่สดใหม่ที่สามารถแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้ตลอดเวลา” คุณเบอร์นาร์ด กล่าว

นอกจากนี้ ยังปฏิเสธไม่ได้ว่าแบรนด์จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการบริการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า เพราะนอกจากเงินติดล้อจะขยายสาขาอย่างต่อเนื่องโดยสิ้นปีที่ผ่านมาเปิดให้บริการรวมทั้งสิ้น 1,628 สาขาทั่วประเทศแล้ว ยังมีการยกระดับช่องทางให้บริการแก่ลูกค้าที่หลากหลาย (Omni-Channel) ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ อาทิ Facebook Fan page เงินติดล้อ, Line official @TIDLOR และ call center ตลอด 24 ชม. ควบคู่ไปกับการพัฒนาฟีเจอร์ในแอปพลิเคชัน “เงินติดล้อ” อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า ซึ่งปัจจุบันแอปพลิเคชันมีจำนวนผู้ใช้งานมากกว่าหนึ่งล้านบัญชี อีกด้วย

คุณเบอร์นาร์ด กล่าวทิ้งท้ายว่า “กุญแจสำคัญที่นำพาเงินติดล้อก้าวสู่ความสำเร็จในฐานะ
แบรนด์สินเชื่อทะเบียนรถที่ได้รับความไว้วางใจสูงสุด คือ “ความเชื่อใจ” (
Trust) โดยเราให้ความสำคัญเรื่องการส่งต่อความเชื่อใจจากภายในสู่ภายนอก เราจึงเป็นแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลพนักงานและครอบครัว เราเชื่อว่าพนักงานที่มีความสุขจะส่งต่อความสุขให้กับลูกค้าได้ในรูปแบบของบริการที่ดี ช่วยลูกค้าแก้ปัญหาได้ และความรู้สึกที่ดีเหล่านั้นจะวนกลับมาสู่ความเชื่อใจในแบรนด์เงินติดล้อ”

และสำหรับแนวคิดในการรักษาความเป็นแบรนด์สินเชื่อทะเบียนรถยนต์อันดับหนึ่งที่ผู้บริโภคนึกถึง  “การที่เงินติดล้อจะรักษาแบรนด์อันดับหนึ่งเอาไว้ได้ คือการผสานกลยุทธ์ในการทำการตลาดของแบรนด์ (Marketing Strategy) ร่วมกับการปลูกฝังให้คนในบริษัทพร้อมที่จะมอบบริการที่ดีให้กับลูกค้า (Mind Strategy) ผ่านการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ เพื่อให้กลุ่มลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการของเงินติดล้อได้สะดวกยิ่งขึ้น รวมถึงการคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคกลุ่มอื่น เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าไปในตัว” และแน่นอนว่าความท้าทายในปี 2023 นี้ สิ่งที่เงินติดล้อต้องเผชิญคงเป็นเรื่องความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามภาวะเศรษฐกิจ และพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่แพร่หลายยิ่งขึ้น นี่จึงเป็นโอกาสที่ดีในการผลักดันให้เงินติดล้อคิดค้นนวัตกรรม และเทคโนโลยีด้านไอที ใหม่ๆ ต่อไป

ที่มา: BrandAge
เงินติดล้อ

ติดล้อสตอรี่โดย

เงินติดล้อ

ผู้มุ่งหวังให้สังคมไทยมีสุขภาพทางการเงินที่ดีขึ้น