หน้าแรก ติดล้อสตอรี่ อารีเกเตอร์…นวัตกรรมเพื่อเติบโตไปด้วยกัน

อารีเกเตอร์…นวัตกรรมเพื่อเติบโตไปด้วยกัน

18 พฤษภาคม 2565
อารีเกเตอร์…นวัตกรรมเพื่อเติบโตไปด้วยกัน

ในปัจจุบัน ‘นวัตกรรม’ นับว่าเป็นคำยอดฮิตในวงการธุรกิจมาตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และนั่นก็เพราะว่านวัตกรรมที่ดีและใช้ได้จริงเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังและเป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ รวมทั้งสร้างโอกาสให้กับพันธมิตรที่ร่วมเส้นทางได้อย่างยั่งยืน ซึ่งแนวคิดนี้นับว่าเป็นกุญแจสำคัญในการไขประตูแห่งโอกาสของการเติบโตทางธุรกิจ ‘อารีเกเตอร์’ แพลตฟอร์มขายประกันออนไลน์ของเงินติดล้อ คือหนึ่งในนวัตกรรมแห่งโอกาสที่รวมพลังแนวคิดทั้งหมดนี้ไว้ด้วยกัน อีกทั้งยังรวมความฝันของชาวเงินติดล้อที่ต้องการสร้างโอกาสให้คนไทยเข้าถึงผลิตภัณฑ์ประกันภัยได้มากยิ่งขึ้นเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น พร้อมๆ ไปกับการสร้างโอกาสให้ธุรกิจโบรกเกอร์ประกันภัยของเงินติดล้อและบริษัทประกันพันธมิตร ที่สำคัญ นายหน้าประกันภัย ได้มีโอกาสเข้าถึงนวัตกรรมที่ช่วยจัดการงานขายผลิตภัณฑ์ประกันภัย พร้อมทั้งสร้างรายได้ให้เติบโตอย่างยั่งยืน

เพื่อจะนำเงินติดล้อและพันธมิตรทั้งหมดไปสู่เส้นทางแห่งโอกาสนั้น ‘อารีเกเตอร์’ มีจุดเริ่มต้นอย่างไรและต้องผ่านอะไรมาบ้าง คำตอบนี้ คุณโก้ ชาญฤทธิ์ สุกปลั่ง ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์และกลยุทธ์นายหน้าประกันภัย และคุณตี๋ ธีระวัฒน์ สาเจริญ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ กลยุทธ์นายหน้าประกัน บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีส่วนในการสร้าง ‘อารีเกเตอร์’ มาตั้งแต่ต้นจะมาร่วมกันเปิดใจเล่าให้ฟัง

ย้อนรอยจุดเริ่มต้นสู่ ‘ธุรกิจโบรกเกอร์ประกัน’ ของเงินติดล้อ

คุณโก้และคุณตี๋ช่วยกันเล่าว่าเนื่องจากธุรกิจแรกเริ่มของเงินติดล้อคือการปล่อยสินเชื่อทะเบียนรถ จึงทำให้เข้าใจความลำบากของลูกค้าและครอบครัวในเวลาที่ต้องประสบเหตุไม่คาดคิดได้เป็นอย่างดี และเห็นความจำเป็นของการมีประกันว่าจะช่วยผ่อนภาระลูกค้าจากหนักเป็นเบาได้ เงินติดล้อจึงเริ่มนำเสนอประกันคุ้มครองวงเงินสินเชื่อให้กับลูกค้าตั้งแต่เมื่อ 10 ปีก่อน

“และเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมาเราก็เริ่มทำธุรกิจโบรกเกอร์ประกันภัยรถยนต์อย่างจริงจัง เพราะเราเห็นโอกาสจากภาพรวมของตลาดประกันวินาศภัยซึ่งในตอนนั้นมีมูลค่าประมาณ 2 แสนล้านบาท และยังไม่มีบริษัทไหนที่ เป็นผู้นำในธุรกิจนี้ชัดเจน โดยเงินติดล้อเริ่มเข้าสู่ตลาดขายประกันผ่านสาขาและพนักงานขายทางโทรศัพท์” 

สร้างโอกาส’ และ ‘มอบโอกาส’ เพื่อเติบโตไปด้วยกัน: แนวคิดของ ‘แพลตฟอร์ม อารีเกเตอร์’

เมื่อเข้าสู่ธุรกิจโบรกเกอร์ประกันภัย เงินติดล้อจึงเริ่มพัฒนาระบบเพื่อเปรียบเทียบเบี้ยประกันของหลายๆ บริษัท พร้อมทั้งสร้างระบบประกันผ่อนจ่ายได้ขึ้น เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกเบี้ยที่ดีที่สุดและเหมาะสมกับตัวเองที่สุดได้ และเจตนารมณ์ ‘ทำเพื่อลูกค้า’ ก็ได้ส่งผลให้เงินติดล้อมองเห็นโอกาสทางธุรกิจที่เปิดกว้างขึ้นด้วย อย่างที่คุณโก้และคุณตี๋เล่าว่า

“ในช่วงก่อนพัฒนาระบบเราก็มีการสำรวจข้อมูลตลาดและพบว่า ประเทศไทยมีนายหน้าที่ขายประกันวินาศภัยให้ลูกค้าอยู่ในตลาดประมาณ 5 หมื่นคน ซึ่งบางส่วนมีข้อจำกัดในการสร้างความเติบโตให้ธุรกิจของตัวเอง คือหนึ่งเขาไม่มีระบบเปรียบเทียบเบี้ยประกันที่จะช่วยให้ลูกค้าของเขามีทางเลือกมากขึ้น สองคือเขามีเบี้ยประกันเสนอลูกค้าเพียง 2-3 บริษัท เพราะการจะเปิดบัญชีกับบริษัทประกันแต่ละแห่งต้องวางเงินค้ำประกันประมาณ 5 หมื่นถึง 1 แสนบาท ซึ่งหากต้องการเป็นนายหน้าให้กับบริษัทประกันมากกว่านี้ก็ต้องใช้เงินค้ำประกันที่สูงมาก และสามคือเขามีทางเลือกในการขายประกันให้ลูกค้าแบบเงินสดเท่านั้น หรือถ้าจะให้ลูกค้าผ่อนเต็มที่ก็ได้แค่ 2-3 เดือนเท่านั้น ไม่สามารถให้ผ่อนนานกว่านั้นได้ เพราะจะทำให้นายหน้าเหล่านี้ต้องแบกรับต้นทุนที่สูงมากเช่นกัน

เราเลยนึกถึงเส้นทางที่จะทำให้ธุรกิจนี้มั่นคงมากขึ้นและสร้างโอกาสที่เพิ่มขึ้นให้กับกลุ่มนายหน้าเหล่านี้ด้วยการคิดพัฒนาและสร้างระบบเปรียบเทียบเบี้ยประกันและเงื่อนไขความคุ้มครองต่างๆ เพื่อให้นายหน้าเหล่านี้สามารถเสนอทางเลือกให้กับลูกค้าได้หลากหลายมากขึ้น รวมถึงสร้างระบบผ่อนชำระเบี้ยประกันและบริการส่งเสริมการขายอื่นๆ ที่เงินติดล้อและพันธมิตร (บริษัทประกันภัยชั้นนำมากกว่า 15 บริษัท) จัดสรรไว้บนแพลตฟอร์ม ‘อารีเกเตอร์’ ซึ่งจะช่วยให้นายหน้ามีโอกาสสร้างรายได้เพิ่มขึ้นและสร้างความเติบโตให้ธุรกิจของตัวเองได้ ขณะที่เงินติดล้อก็จะมีรายได้จากการเก็บค่าธรรมเนียมการใช้แพลตฟอร์ม ส่วนบริษัทคู่ค้าประกันของเราก็จะได้รับโอกาสในการขายผลิตภัณฑ์ประกันผ่านนายหน้าทั่วประเทศที่เพิ่มขึ้น และสุดท้ายผู้ที่จะได้รับประโยชน์ก็คือคนไทยที่เป็นเจ้าของรถ 15 ล้านคันซึ่งจะมีโอกาสเข้าถึงผลิตภัณฑ์ประกันที่ดีและเหมาะสมกับสภาวะทางการเงินของพวกเขา โดยไม่จำเป็นต้องเป็นหนี้ก้อนโต”

ส่วนแนวคิดในการตั้งชื่อแพลตฟอร์มนี้ว่า ‘อารีเกเตอร์’ (Areegator) นั้น คุณโก้และคุณตี๋เล่าว่า

“ปกติในภาษาอังกฤษจะเรียกแพลตฟอร์มลักษณะนี้ว่า Aggregator ซึ่งมีความหมายถึงการรวบรวม และตอนคิดชื่อแพลตฟอร์มเราก็พยายามหาคำไทยสั้น ๆ เข้าใจง่ายและสื่อถึงแนวคิดของแพลตฟอร์มพร้อมกันไปด้วย จนเกิดไอเดียนำคำว่า Aggregator มาตัดคำด้านหน้าออก และนำคำไทยคือคำว่า ‘อารี’ ซึ่งหมายถึงความเอื้อเฟื้อ มีน้ำใจต่อกัน มาใส่ไว้ด้านหน้าแทน ทำให้อ่านออกเสียงได้ว่า ‘อารีเกเตอร์’ (Areegator) ซึ่งสื่อถึงเจตนาที่จะมอบโอกาสและสร้างโอกาสให้ทุกฝ่ายใด้รับประโยชน์จากแพลตฟอร์มของเราได้เป็นอย่างดี”

เปิดกลยุทธ์และเทคโนโลยี เบื้องหลังการพัฒนา ‘อารีเกเตอร์’

ด้วยแนวคิดของโอกาสและความยั่งยืน ‘อารีเกเตอร์’ จึงใช้เวลาเพียงไม่นานก็ได้รับความไว้วางใจจากนายหน้าขายประกันอิสระทั่วประเทศ และเพียงปีกว่าก็มีนายหน้ามากกว่า 3,000 คนพร้อมใจกันสมัครเข้ามาเป็นสมาชิกในระบบ เพิ่มขึ้นถึง 200% นับจากวันแรกที่เปิดตัว และยังคงมีนายหน้าให้ความสนใจสมัครสมาชิกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งคุณโก้และคุณตี๋เล่าถึงเบื้องหลังความสำเร็จนี้ว่าส่วนหนึ่งมาจากวัฒนธรรมองค์กรเงินติดล้อที่ส่งเสริมเรื่องการ ‘กล้าคิด กล้าลอง’ และมีพื้นที่ให้พนักงานได้ลองผิดลองถูก เพื่อเกิดการเรียนรู้และสร้างนวัตกรรม

“ที่เงินติดล้อ เมื่อมีการสร้างนวัตกรรมใหม่ เราจะมีกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เรียกกันว่า MVP หรือ Minimal Viable Product คือ ให้กลุ่มเป้าหมายได้ลองใช้สิ่งที่เราสร้างขึ้นมา โดยไม่ต้องรอให้เป็นเวอร์ชันที่สมบูรณ์แบบ 100% ซึ่งในกรณีของ ‘อารีเกเตอร์’ เราก็นำแพลตฟอร์มต้นแบบ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่พนักงานสาขาเงินติดล้อใช้ขายประกันมาให้นายหน้ากลุ่มหนึ่งได้ลองใช้ และนำข้อเสนอแนะที่ได้รับมาพัฒนาให้เป็นแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์นายหน้าได้ดียิ่งขึ้น” รวมถึงก่อนหน้านั้นเราก็มีการนำแพลตฟอร์มต้นแบบของ ‘อารีเกเตอร์’ ไปร่วมนำเสนอในงาน RISE Hong Kong เพื่อนำคำแนะนำต่าง ๆ จากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมาพัฒนาต่อด้วย”

นอกจากนี้การที่เงินติดล้อส่งเสริมให้มีการทำงานในรูปแบบ Agile และ Scrum Team คือการแบ่งงานเป็นส่วนย่อยๆ และระหว่างทางที่พัฒนาก็จะคอยวัดผลไปด้วย อีกทั้งยังแยกโครงสร้างการทำงานของอารีเกเตอร์ให้เป็นเสมือนบริษัท Start Up ที่เน้นความคล่องตัวเมื่อต้องแก้ปัญหาและคอยท้าทายตัวเองเพื่อทดลองสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ ก็ล้วนเป็นเหตุผลที่ทำให้ ‘อารีเกเตอร์’ ออกสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็วและสามารถพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง

“ส่วนเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนา ‘อารีเกเตอร์’ หลักๆ จะเป็น API เพื่อเชื่อมต่อกับพาร์ทเนอร์ ภายนอก เช่น ไปรษณีย์ไทยและบริษัทคู่ค้าประกัน ซึ่งจะช่วยให้นายหน้าได้รับความสะดวกในการขายประกันมากขึ้น เช่น สามารถเช็คสถานะการจัดส่งกรมธรรม์ และสามารถดาวน์โหลดสำเนากรมธรรม์ผ่านระบบออนไลน์ได้ทันที อีกทั้งยังมีระบบ ‘Photo Link’ ซึ่งนายหน้าสามารถถ่ายรูปรถที่ต้องการทำประกันผ่านระบบเพื่อตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นเพื่อทำการอนุมัติ ซึ่งจะช่วยให้นายหน้าทำรายการขายประกันได้อย่างรวดเร็วขึ้นกว่าที่เคย”

และแน่นอนว่าในอนาคตเราคงจะได้เห็นการพัฒนาระบบ และฟีเจอร์ใหม่ๆ ของ ‘อารีเกเตอร์’ ที่เพิ่มมากขึ้น จากทีมทำงานที่ยังคงมุ่งมั่นจะก้าวข้ามขีดจำกัดและศักยภาพของตนเอง เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงประกันของคนไทยและมอบโอกาสให้นายหน้า ในธุรกิจประกันภัยได้เติบโต ก้าวหน้าไปด้วยกันอย่างยั่งยืน

เงินติดล้อ

ติดล้อสตอรี่โดย

เงินติดล้อ

ผู้มุ่งหวังให้สังคมไทยมีสุขภาพทางการเงินที่ดีขึ้น