ความหมายที่แท้จริงของวัฒนธรรมองค์กร และปัจจัยที่ทำให้วัฒนธรรมนั้น “ดี”

ถ้าพูดถึงวัฒนธรรมองค์กรที่ดี หลายคนก็คงนึกภาพการเอาอะไร “สนุก ๆ” มาไว้ในออฟฟิศไม่ว่าจะเป็นโต๊ะปิงปอง เกมคอนโซล เก้าอี้บีนแบ็กนุ่ม ๆ ข้าวน้ำขนมฟรี และความบันเทิงอื่น ๆ เข้ามา จริงอยู่ที่สิ่งเหล่านี้ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยเพิ่มพลังบวกให้คนในทีม แต่วัฒนธรรมองค์กรนั้นเป็นมากกว่าแค่ความสนุกและความผ่อนคลาย

วันนี้เงินติดล้อเลยอยากชวนทุกคนมาทำความรู้จักกับความหมายที่แท้จริงของวัฒนธรรมองค์กร รวมถึงปัจจัยอะไรบ้างที่ทำส่งเสริมให้วัฒนธรรมนั้นกลายเป็นวัฒนธรรมที่ดี และความสำคัญของการมีวัฒนธรรมองค์กรที่ซัพพอร์ททั้งตัวคนและบริษัทให้ไปด้วยกันไปได้ไกล

สรุปว่าวัฒนธรรมองค์กรคืออะไรกันแน่?

วัฒนธรรมองค์กร คือ สิ่งที่สะท้อนถึงค่านิยมของบริษัทและพฤติกรรมต่าง ๆ ของคนในบริษัท เช่น บรรยากาศการทำงาน การแต่งกาย วิธีการทำงาน ไปจนถึงการตัดสินใจในเรื่องใหญ่ ๆ

วัฒนธรรมของแต่ละบริษัทจะแตกต่างกันไปตามสิ่งที่ให้ความสำคัญและความเหมาะสม ยกตัวอย่างเช่น บริษัท Creative ที่ให้สำคัญกับความคิดสร้างสรรค์ วัฒนธรรมองค์กรก็จะสะท้อนความสร้างสรรค์ออกมาผ่านการให้อิสระกับการแต่งกาย การทำงานที่ไม่มีลำดับขั้นอะไรมากมายเพราะให้ความสำคัญกับไอเดียที่ดีมากกว่า เป็นต้น

องค์กรไหนมีวัฒนธรรมองค์กรและเป้าหมายที่ตอบโจทย์ก็จะดึงดูดผู้สมัครเก่ง ๆ ได้มากกว่า จากการศึกษาของ Glassdoor พบว่าคนวัยทำงานราว 77% จะศึกษาวัฒนธรรมของบริษัทก่อนสมัครงาน ยิ่งไปกว่านั้นอีกกว่า 56% ยังให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมองค์กรมากกว่าค่าตอบแทน เพราะคนเราย่อมอยากทำงานร่วมกับบริษัทและเพื่อนร่วมงานที่มีทัศนคติและเป้าหมายใกล้เคียงกันมากกว่าอยู่แล้ว

วัฒนธรรมองค์กรที่ดีต้องมีอะไรบ้าง?

อย่างที่บอกไปว่าวัฒนธรรมของแต่ละที่ก็แตกต่างกันไปตามเหมาะสม เราก็เลยไม่สามารถฟันธงได้ 100% ว่าวัฒนธรรมแบบไหนคือวัฒนธรรมที่ดีที่สุดหรือเหมาะสมที่สุด บ้านแต่ละบ้านจะมีความสวยงามที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่ต้องดีเหมือนกันหมดคือโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแรง แล้วโครงสร้างพื้นฐานของวัฒนธรรมองค์กรที่ดีมีอะไรบ้าง?

วิสัยทัศน์ (Vision)

วัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่เริ่มต้นจากวิสัยทัศน์ที่มีพลัง เจ้าวลีสั้น ๆ นี้เปรียบเหมือนกับเข็มทิศที่กำหนดทิศทางการทำงานของพนักงาน การมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนจะทำให้พนักงานรู้ว่าต้องทำงานยังไงถึงจะไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ได้

ตัวอย่างวิสัยทัศน์ที่ดี คือ “เราจะทำให้ชีวิตประจำวันของคนจำนวนมากดีขึ้น” ของ IKEA ที่ทั้งสั้นและตรงประเด็น และเป็นตัวกำหนดทิศทางของบริษัทว่าพวกเขามาเพื่อขายเฟอร์นิเจอร์คุณภาพดี ราคาถูก และเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของทุกคน หรือจะเป็นตัวอย่างของเงินติดล้อที่บอกว่า “ที่เงินติดล้อ เราทำทุกอย่างเพื่อส่งเสริมและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน ด้วยความเชื่อมั่นว่า การเข้าถึงบริการทางการเงินที่เป็นธรรมและโปร่งใส คือสิทธิที่ทุกคนพึงได้รับ เราส่งมอบโอกาสทางการเงิน โดยการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่เหมาะสมต่อลูกค้า เรียบง่าย สะดวก และรวดเร็ว ผ่านความจริงใจของพนักงาน” ที่ถึงแม้จะยาวแต่ทุกคำที่เขียนมีความหมายชัดเจน พนักงานสามารถอ่านและทำความเข้าใจง่าย และทำให้มีเป้าหมายชัดเจนที่จะตื่นทุกเช้ามาทำงานเพื่อลูกค้าในทุก ๆ วัน

ค่านิยม (Value)

ถ้าวิสัยทัศน์คือการกำหนดทิศทาง ค่านิยมก็คือกฎ ข้อกำหนด และวิธีการที่ทำให้ไปถึงเป้าหมายนั้น

ตัวอย่างเช่น McKinsey & Company มีชุดค่านิยมทั้งในด้านการให้บริการลูกค้า การปฏิบัติต่อเพื่อนร่วมงาน และการรักษามาตรฐานทางวิชาชีพไล่เรียงกันมาเป็นข้อ ๆ และเงินติดล้อที่มีค่านิยม 7 ข้อ โดยให้ความสำคัญกับการสร้างโอกาสกับพนักงานและลูกค้า รวมไปถึงสไตล์การทำงานที่สนุก โดยคำนิยมเหล่านี้ไม่ได้เขียนเพียงเพื่อความสวยงาม คล้องจอง แต่มีคำอธิบายอย่างละเอียด เพื่อให้พนักงานได้อ่านและทำความเข้าใจอย่างชัดเจน

หัวหน้าที่รับฟัง

สำหรับใครที่เป็นหัวหน้า สิ่งที่ควรทำมาก ๆ เลยคือ “ฟัง” ไม่ว่าจะเป็นการฟังไอเดียใหม่ ๆ เวลาทีมเสนองาน หรือการรับฟังความกังวลของลูกน้องหรือพนักงาน แล้วลองดูว่ามีอะไรที่เราในฐานะหัวหน้าหรือบริษัทจะสามารถช่วยหรือปรับปรุงเพื่อให้ทุกคนมีความสุขกับการทำงานได้มากขึ้นบ้าง

พนักงานที่มองเห็นเป้าหมายร่วมเดียวกัน

ต่อให้มีวิสัยทัศน์หรือกฎกติกาดีแค่ไหน ถ้าคนในบริษัทไม่เชื่อและไม่ทำตามก็คงไม่มีประโยชน์ เราจึงต้องใส่ใจตั้งแต่ขั้นตอนการคัดเลือกพนักงานเข้าบริษัท เพราะความสามารถฝึกได้ แต่ทัศนคติฝึกยาก

อิสระ

ใคร ๆ ก็ชอบเวลาตัวเองมีอิสระและได้รับความไว้วางใจให้ทำอะไรด้วยตัวเองโดยไม่มีคนคอยสั่ง และหากบริษัทให้อิสระแก่พนักงาน และส่งเสริมให้พวกเขาสามารถลองริเริ่มอะไรได้ด้วยตัวเอง ทุกคนก็จะกล้าพูด กล้าคิดกล้าลอง และกล้าตัดสินใจด้วยตัวเอง

อารมณ์ขัน

อย่าลืมเหลือที่ว่างให้อารมณ์ขันและความสนุกสนาน เพราะไม่น่ามีใครอยากมาทำงานในออฟฟิศที่จริงจัง หน้านิ่วคิ้วขมวดตลอด 24 ชั่วโมง ถ้าทุกคนสนิทกันมากพอจะเล่นมุกตลกกันได้ บรรยากาศการทำงานที่ทุกคนสบายใจก็จะเกิดขึ้น สิ่งที่ตามมาคือทุกคนจะกล้าแสดงความคิดเห็น และใช้ความคิดสร้างสรรค์ที่มีอยู่ในตัวมาเสนอไอเดียใหม่ ๆ ที่อาจต่อยอดไปถึงนวัตกรรมใหม่เลยก็ได้

ให้รางวัลกับความพยายาม

ไม่มีใครชอบเวลาตั้งใจทำงานแล้วไม่มีใครเห็นความพยายาม ฉะนั้น อย่าลืมให้รางวัลตอบแทนกับคนที่สมควรได้รับ เริ่มสร้างวัฒนธรรมนี้ง่าย ๆ ด้วยการเอ่ยคำชมแม้ในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการชงกาแฟไปจนถึงรางวัลที่ใหญ่ขึ้นตามผลงาน

ความสำคัญของวัฒนธรรมองค์กร

น่าจะพอเห็นภาพกันแล้วบริษัทที่มีวัฒนธรรมองค์กรที่ดีจะมีหน้าตาประมาณไหน แต่วัฒนธรรมองค์กรที่ดีไม่เพียงทำให้พนักงานมีความสุข แต่ยังเพิ่ม Productivity ในการทำงานของเขา ลดอัตราการลาออก และยังส่งผลไปถึงการเติบโตของบริษัท รวมทั้งความสุขเหล่านี้จะสะท้อนอยู่ในความพึงพอใจของลูกค้าด้วย!

Productivity เพิ่ม

ผลการศึกษาของมหาวิทยาลัย Warwick พบว่าพนักงานที่มีความสุขจะทำงานได้มากขึ้น 12% ในขณะที่พนักงานที่ไม่มีความสุขจะทำงานได้น้อยลง 10% โดยความสุขของพนักงานจะเชื่อมโยงกับ “ความอิน” ของพนักงานที่มีต่องานของตัวเอง ถามว่าวัฒนธรรมองค์กรเกี่ยวตรงไหน? ให้ งานวิจัยของมหาวิทยาลัย Denison เป็นคำตอบ โดยงานวิจัยนี้เผยว่าพนักงานในบริษัทที่มีวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแรงจะมี Engagement สูงกว่าบริษัทที่มีวัฒนธรรมองค์กรที่อ่อนแอถึง 72%

พนักงานจะอยู่กับเรานานขึ้น

ยิ่งบริษัทมีภาพลักษณ์และเป้าหมายที่ชัดเจน ก็จะยิ่งดึงดูดคนที่มีเป้าหมายและแนวคิดเดียวกันเข้ามา และเมื่อเข้ามาแล้วได้เจอสภาพแวดล้อมดี ๆ ที่ทำให้รู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร ทำไมจะไม่มีใครอยากอยู่นาน ๆ ล่ะ จริงไหม

การบริการลูกค้า

ความสุขของพนักงานส่งผลในแง่บวกต่อหลายสิ่งหลายอย่าง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเท่าไร เพราะถ้าเรามีความสุขกับงาน เราก็จะตั้งใจทำงาน เมื่อเราตั้งใจทำงาน คนที่ร่วมงานกับเราไม่ว่าจะทั้งเพื่อนร่วมงานหรือแม้กระทั่งลูกค้าก็จะสัมผัสกับความตั้งใจนั้นได้ผ่านผลงานที่ออกมาดี พูดง่าย ๆ ก็คือถ้าพนักงานมีความสุข ลูกค้าก็มีแนวโน้มว่าจะมีความสุข

สรุป

วัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแรงไม่สามารถสร้างกันได้ในชั่วข้ามคืน และไม่ใช่แค่การไล่เรียงกฎเป็นข้อ ๆ บอกให้ทุกคนทำตามแล้วจบกัน วัฒนธรรมองค์กรที่ดีจะผ่านการไตร่ตรองมาอย่างถี่ถ้วนว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับองค์กรทั้งในปัจจุบันและอนาคต ถ้าเข้าใจวิสัยทัศน์ของตัวเองและตอบคำถามได้ว่าเป้าหมายขององค์กรคืออะไร การจะดึงดูดผู้สมัครที่มีความสามารถและเป้าหมายเดียวกันก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างวัฒนธรรมองค์กรของเงินติดล้อและวิถีที่เราได้ลงมือทำ มาเข้าร่วม TIDLOR Culture Camp และแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องค่านิยมกับพวกเราสิ!

• เวิร์คช้อปการสร้างวัฒนธรรมองค์กรแบบนำไปใช้ได้จริง
• Q&A กับคุณปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล MD เงินติดล้อ
• เข้าร่วมงานประชุมผู้นำ Open Box
• เยี่ยมชมออฟฟิศเงินติดล้อ

สนใจติดต่อ 02-792-1888 ต่อ 5050 หรือกรอกข้อมูลที่นี่เพื่อรอการติดต่อกลับจาก Culture Gangster

ขอบคุณข้อมูลจาก: Forbes.com , Greatplacetowork.com , Qvalon.com , Indeed.com