เมื่อผลผลิตทางการเกษตรออกดอกออกผล ก็ถึงเวลาของการขนส่งสินค้าด้วยรถขนอ้อย ที่ทำหน้าที่ส่งผลผลิตไปยังโรงงานแปรรูปต่าง ๆ ก่อนถึงมือผู้บริโภค นอกจากจะเตรียมตัวเก็บผลผลิตแล้ว สิ่งหนึ่งที่เงินติดล้อไม่อยากให้มองข้ามคือ “ตรวจสภาพรถขนอ้อย” ว่าพร้อมใช้งานแล้วหรือยัง หรือรถขนอ้อยบรรทุกอ้อยได้กี่ตัน เพื่อประหยัด เวลา ประหยัดรอบในการขนส่ง เพื่อให้กิจการราบรื่น นี่คือสิ่งที่จำเป็นที่ต้องใส่ใจมาก ๆ เกี่ยวกับรถขนอ้อย ก่อนใช้งานจริงครับ!
4 วิธีเช็กสภาพรถบรรทุก ก่อนเริ่มขับรถขนส่งสินค้า
การตรวจสภาพรถยนต์ ไม่ได้เกิดขึ้นแค่รถยนต์คันเล็ก ๆ เท่านั้นนะครับ รถคันใหญ่อย่างรถบรรทุกสิบล้อ รถหกล้อ หรือรถพ่วงก็ต้องทำด้วยเช่นเดียวกัน ควรได้รับการตรวจสภาพรถยนต์ก่อนใช้งานจริง เพราะเป็นการสำรวจว่ารถขนอ้อยมีอะไหล่ตรงไหนต้องเปลี่ยนบ้าง พร้อมใช้งานแน่ ๆ แล้วใช่ไหม
เพราะนี่คือการเพิ่มความปลอดภัยให้กับคนขับ รถบรรรทุกและผู้ใช้รถใช้ถนนคันอื่น ๆ หากรถบรรทุกขนอ้อย ขนส่งสินค้าไม่พร้อมใช้งานก็อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่ได้ เช่น การประสานงากันของรถใหญ่กับรถเล็ก หรือรถใหญ่กับรถใหญ่ด้วย โดยวิธีตรวจสอบสภาพรถขนอ้อย ก่อนใช้งานคือ
-
ตรวจสอบน้ำฉีดกระจกรถบรรทุก
การมองเห็นวิสัยทัศน์ข้างหน้าแบบไม่มีอะไรขวางกั้น จะทำให้การขนส่งสินค้าของเกษตรกรไปถึงจุดหมายโดยสวัสดิภาพ ดังนั้น ควรตรวจสอบว่าที่ปัดน้ำฝนและน้ำยาฉีดกระจกรถอยู่เป็นประจำ เพราะถ้าปล่อยเอาไว้ให้กระจกมีความขุ่นมัว หรือไม่สามารถฉีดทำความสะอาด ก็จะมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุจากการขนส่งได้ครับ
ดังนั้น เพื่อให้ระบบฉีดน้ำทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ควรเลือกน้ำยาดีกว่าน้ำประปาครับ เพราะน้ำประปาอาจมีตะไคร่หรือหินปูนผสมอยู่ เมื่อเติมลงไปก็อาจไปอุดตันท่อหรือสายฉีดน้ำของกระจกได้ ทำให้น้ำไม่ออก
-
ตรวจสอบยางลมรถบรรทุกว่าแบนหรือรั่ว
นี่คือสิ่งที่ทำให้รถบรรทุกอ้อย สามารถเคลื่อนที่ไปยังจุดหมายปลายทางได้ ดังนั้น ยางรถบรรทุกต้องอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน เช่น ยางรถบรรทุกไม่ควรมีรอยรั่ว หรือเติมลมยางหากยางแบน ในกรณีที่จะเปลี่ยนยางควรดูวันหมดอายุเพิ่มเติมด้วย ว่ายังสามารถใช้งานได้อยู่ไหม นั่นก็เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้
สำหรับเรื่องการเติมลมยาง ถ้าเกิดว่าลมยางต่ำเกินไป ก็จะส่งผลให้โครงยางยุบตัวก่อน แล้วหลังจากนั้นความร้อนจะไปสะสมอยู่ที่แก้มยาง หลังจากนั้นก็ ตู้ม! ยางรถบรรทุกระเบิด รถเสียหลักข้างทาง ผลผลิตทางการเกษตรกระจัดกระจาย เรียกได้ว่ามีแต่ความเสียหายจริง ๆ ครับ
หรือถ้าลมยางสูงเกินไป จะทำให้เร่งความเร็วรถบรรทุกได้ไวขึ้น ถึงที่หมายได้เร็วขึ้น แต่รถขนอ้อย รถบรรทุกอ้อยจะไม่ยึดเกาะถนนเลยครับ เพราะแรงดันที่อยู่ในลมยางรถบรรทุก ทำให้ตัวรถลอยเหนือจากพื้นถนน ส่งให้เกิดอุบัติเหตุรถชนได้เช่นเดียวกัน
-
ไฟรถบรรทุกดวงมีดวงไหนดับบ้าง
ขึ้นชื่อว่าเป็นรถบรรทุกคันใหญ่ ก็ต้องบดบังวิสัยทัศน์ของผู้ร่วมทางคันเล็ก ๆ อีกทั้งการเดินทางไกล เช่น จากแปลงของเกษตรกรเข้ากรุงเทพ ต้องผ่านถนนหลายเส้น บางเส้นก็ไม่มีไฟติด มืดสนิท การใช้ไฟหน้ารถบรรทุก จึงทำให้คนขับรถบรรทุกมองเห็นเส้นได้ง่ายขึ้น และทำให้เกิดอุบัติเหตุรถชนน้อยลง
นอกจากนี้ ไฟรถบรรทุกที่ส่งสัญญาณไฟรถบรรทุก จากรถขนส่งสินค้าเอง จะเป็นช่วยบอกเหตุการณ์ให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนคันอื่น ๆ ด้วยว่า ข้างหน้าเกิดอะไรขึ้นบ้าง มีอุบัติเหตุข้างหน้าไหม หรือมีรถสวนเลนมาหรือไม่ ดังนั้น ไฟรถบรรทุกเลยจำเป็นต่อทั้งคนขับรถบรรทุก และผู้ใช้รถใช้ถนนคันอื่น ๆ ครับ
อ่านข้อมูลเกี่ยวกับไฟรถบรรทุกได้ที่ > ไฟหน้ารถบรรทุก
-
ตรวจสอบน้ำมันเครื่องรถบรรทุก
รถยนต์ทุกประเภทต้องมีน้ำมันเครื่องที่ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่าราบรื่น และลดการสึกหรอของชิ้นส่วนต่าง ๆ ในรถบรรทุก ดังนั้น ก่อนจะเริ่มใช้งานรถบรรทุกขนสินค้า ควรตรวจสอบน้ำมันเครื่อง ว่ามีเพียงพอสำหรับเครื่องยนต์ทั้งระบบ และน้ำมันเครื่องมีการใช้งานมากี่กิโลเมตรแล้ว ควรจะเปลี่ยนตามระยะทางที่เหมาะสมสำหรับน้ำมันเครื่องแต่ละชนิด เพราะฤดูการเปิดหีบอ้อยมีเพียงปีละหนึ่งครั้ง เราควรตรวจสอบดูแลรถบรรทุกอ้อยให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ เพื่อให้การขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกรับจ้างมีประสิทธิภาพ
เพราะถ้าไม่ตรวจสอบน้ำมันเครื่องเลย รถบรรทุกจะไม่มีตัวช่วยสำหรับลดการเสียดสี ทำให้เครื่องยนต์ร้อนตลอดการขับรถขนส่งสินค้า เครื่องยนต์ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และสุดท้ายหากเครื่องยนต์มีปัญหานอกจากจะเสียเวลา เสียรายได้แล้ว ก็อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุในที่สุดครับ เสียทั้งผลผลิต เสียทั้งเวลา และมีโอกาสเสียชีวิตอีกด้วย
รถพ่วงขนอ้อย บรรทุกน้ำหนักอ้อยได้กี่ตัน?
รถบรรทุกอ้อย รถขนอ้อย หรือรถบรรทุกสินค้าทั่วไป ถึงแม้จะเรียกชื่อไม่เหมือนกัน แต่ก็มีข้อกำหนดในการจุสินค้าเหมือนกัน ดังนั้น การที่คุณรู้กฎหมายว่า รถพ่วงบรรทุกอ้อย 1 คัน บรรทุกน้ำหนักอ้อยได้กี่ตัน จึงเป็นประโยชน์ต่อทั้งตัวคุณเอง และสอดคล้องกับการตรวจสภาพรถบรรทุกก่อนใช้งานด้วยครับ
เพราะเมื่อรู้ว่า รถสิบล้อขนอ้อยสามารถบรรทุกอ้อยได้เท่านี้ ก็จะได้ตรวจสภาพรถบรรทุกในตำแหน่งที่สำคัญได้อย่างแม่นยำ ลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น ลดการเสียเวลาในการเก็บผลผลิต ลดโอกาสในการสร้างรายได้ การเตรียมความพร้อมให้ดีจึงจำเป็นมากจริง ๆ ไม่ควรมองข้ามเลย
กฎหมายควบคุมน้ำหนักรถบรรทุก ระบุเอาไว้ทุกอย่างเลยครับว่า ถ้ารถพ่วงขนอ้อย ต้องมีน้ำหนักกี่ตัน เป็นน้ำหนัก รถบรรทุกที่คุณต้องปฏิบัติตาม ไม่เช่นนั้น มีค่าปรับขั้นต่ำ 10,000 บาท และสูงสุดที่ 100,000 บาท โดยน้ำหนักรถบรรทุก คือ
- รถขนอ้อย 4 ล้อ บรรทุกน้ำหนักอ้อยได้ 9.5 ตัน
- รถขนอ้อย 6 ล้อ บรรทุกน้ำหนักอ้อยได้ 15 ตัน
- รถขนอ้อย 10 ล้อ บรรทุกน้ำหนักอ้อยได้ 25 ตัน
- รถขนอ้อย 12 ล้อ บรรทุกน้ำหนักอ้อยได้ 30 ตัน
- รถพ่วง บรรทุกอ้อย 18 ล้อ น้ำหนักรถบรรทุกต้องไม่เกิน 45 ตัน
- รถพ่วง บรรทุกอ้อย 20 ล้อ น้ำหนักรถบรรทุกต้องไม่เกิน 50.5 ตัน
รถบรรทุกขนส่งสินค้าพร้อม แล้วเงินทุนพร้อมหรือยัง?
ต้องบอกอย่างนี้ก่อนครับ จริง ๆ นี่เป็นสิ่งที่ต้องทำก่อนที่จะถึงเวลาเก็บเกี่ยวผลผลิตด้วยซ้ำไป หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีรถบรรทุกเป็นของตัวเอง มีแปลงผัก มีไร่ มีฟาร์ม ที่สามารถออกดอกออกผลผลผลิตได้ แต่ไม่มีเงินทุนในการลงทุนเพื่อปลูกสิ่งเหล่านั้น สามารถใช้รถบรรทุกที่มีอยู่ขอ สินเชื่อทะเบียนรถบรรทุก ได้นะครับ
เพราะเงินติดล้อเข้าใจดีว่า มีที่ดินให้ปลูก แต่ไม่มีเงินทุนซื้อเมล็ดมาหว่าน เพราะเงินขาดมือ หรือเพราะขายสินค้าทางการเกษตรในรอบก่อนไม่ได้กำไร นี่แหละครับ ทางออกอยู่ตรงหน้าคุณแล้ว เพียงแค่ใช้ทะเบียนรถบรรทุกเพื่อขอสินเชื่อรถบรรทุกได้เลยครับ
โดยข้อดีของ สินเชื่อทะเบียนรถบรรทุก เงินติดล้อ คือ รับรถอายุรถบรรทุกได้สูงสุด 25 ปี อีกทั้งยังผ่อนสบาย ๆ ได้ถึง 60 เดือน ไม่ต้องโอนเล่มทะเบียน แล้วในกรณีที่ขับรถบรรทุกขนส่งสินค้า เช่น ขับรถขนอ้อย ขับรถขนข้าวโพด แล้วเจอกับอุบัติเหตุ ก็สามารถเคลมได้ หมดห่วงได้เลย!
สรุป
การเตรียมความพร้อมเรื่องรถบรรทุกขนสินค้าโดยเฉพาะพืชผลทางการเกษตร เช่น รถบรรทุกขนอ้อย รถบรรทุกขนข้าวโพด เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะถ้าเพิกเฉยก่อให้เกิดความเสียหายครั้งใหญ่ คือ เสียเวลาในการขนส่ง เสียโอกาสในการทำเงิน และเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ รวมไปถึงความพร้อมเรื่องเงินทุนด้วย ถ้าคุณมีรถบรรทุกก็สามารถขอสินเชื่อทะเบียนรถบรรทุกกับเงินติดล้อ เพื่อนำเงินก้อนมาลงทุนได้เลยครับ เมื่อเงินทุนพร้อม รถพร้อม ก็ลุยได้เลย!
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เราพร้อมบริการคุณตลอด 24 ชั่วโมง!