เมื่อภาระค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนเริ่มตึงมือ หรือมีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อนฉุกเฉิน หลายคนที่กำลังผ่อนรถอาจเกิดคำถามสำคัญขึ้นมาว่า “ผ่อนรถ 1 ปี รีไฟแนนซ์ได้ไหม?” เพราะดูเหมือนจะเป็นทางออกที่ช่วยลดภาระและเพิ่มสภาพคล่องได้ดีที่สุด แต่การรีไฟแนนซ์จะทำได้จริงหรือไม่เมื่อเพิ่งผ่อนไปแค่ 12 งวด บทความนี้ เงินติดล้อจะมาตอบทุกข้อสงสัยให้ชัดเจน พร้อมเปิดเช็กลิสต์เงื่อนไขสำคัญที่คุณต้องรู้ เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมก่อนตัดสินใจยื่นกู้ครับ
ทำความเข้าใจการรีไฟแนนซ์รถยนต์ คืออะไร?
รีไฟแนนซ์รถยนต์ คือ การขอสินเชื่อก้อนใหม่จากสถาบันการเงินแห่งใหม่ (หรือแห่งเดิม) เพื่อนำเงินก้อนนั้นไปปิดยอดหนี้สินเชื่อรถยนต์ก้อนเก่าที่ยังผ่อนอยู่ พูดง่ายๆ ก็คือการ “ย้ายไฟแนนซ์” เพื่อไปเริ่มต้นผ่อนชำระกับเจ้าหนี้รายใหม่ภายใต้เงื่อนไขสัญญาที่ดีกว่าเดิม ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับคนมีรถที่ยังผ่อนไม่หมดครับ
เหตุผลที่คนส่วนใหญ่นิยมรีไฟแนนซ์รถ
เหตุผลหลักที่ทำให้หลายคนเลือกวิธีรีไฟแนนซ์ก็เพื่อเป้าหมายทางการเงินที่ดีขึ้น ยกตัวอย่างเช่น
- ขอลดค่างวดต่อเดือนให้น้อยลงผ่านการยืดระยะเวลาผ่อนให้นานขึ้น
- ได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่าเดิม ทำให้ประหยัดเงินในระยะยาว
- ได้รับเงินสดส่วนต่างกลับมาใช้จ่าย หากราคาประเมินรถในปัจจุบันสูงกว่ายอดหนี้คงค้างที่เหลืออยู่
ตัวอย่างยี่ห้อรถยนต์ที่ขอรีไฟแนนซ์ได้ง่าย
รถยนต์ที่เป็นที่นิยมในตลาดและมีราคาขายต่อที่ดี (ราคาตกช้า) มักจะมีโอกาสได้รับการประเมินราคาสูง ทำให้การขอรีไฟแนนซ์รถยนต์มือสองทำได้ง่ายขึ้นครับ ยกตัวอย่างเช่น
- รถกระบะ : Isuzu D-Max, Toyota Hilux Revo
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคล : Honda Civic, Honda City, Toyota Vios
- รถยนต์อเนกประสงค์ (PPV/SUV) : Toyota Fortuner, Mitsubishi Pajero Sport
ตอบชัด! ผ่อนรถ 1 ปี หรือ 12 งวด รีไฟแนนซ์ได้จริงหรือ?
คำตอบสำหรับคำถามที่ว่า ผ่อนรถ 1 ปี รีไฟแนนซ์ได้ไหม คือ “เป็นไปได้ แต่มีเงื่อนไข” เพราะหัวใจสำคัญไม่ได้อยู่ที่ “ระยะเวลา” ที่ผ่อนมา แต่อยู่ที่ “สัดส่วนเงินต้น” ที่ชำระไปแล้วมากกว่าครับ
โดยทั่วไปแล้ว สถาบันการเงินจะพิจารณาอนุมัติรีไฟแนนซ์ก็ต่อเมื่อราคาประเมินของรถในปัจจุบันสูงกว่ายอดหนี้ที่ยังค้างชำระอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นเมื่อคุณผ่อนชำระค่างวดมาแล้ว เกินกว่า 50% ของยอดหนี้ทั้งหมด
ดังนั้น หากคุณวางเงินดาวน์มาสูง หรือเลือกผ่อนระยะสั้น ทำให้เงินต้นลดลงไปเยอะ การผ่อนมาเพียง 1 ปีก็มีโอกาสรีไฟแนนซ์ผ่านได้ แต่หากวางเงินดาวน์น้อยและผ่อนระยะยาว การผ่อนแค่ 1 ปีอาจยังไม่เพียงพอครับ
เปิดเงื่อนไขและคุณสมบัติที่ต้องรู้ ก่อนขอรีไฟแนนซ์รถ
ก่อนจะตัดสินใจยื่นเรื่องรีไฟแนนซ์ มาตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้นกันก่อน เพื่อให้มั่นใจว่าคุณและรถของคุณพร้อมสำหรับกระบวนการอนุมัติครับ
คุณสมบัติของผู้ขอสินเชื่อ
โดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่ต้องการขอรีไฟแนนซ์ควรมีคุณสมบัติดังนี้
- มีสัญชาติไทย อายุระหว่าง 21-65 ปี
- มีรายได้ประจำที่มั่นคงและตรวจสอบได้
- มีประวัติการผ่อนชำระที่ดี ไม่เคยค้างค่างวด
- เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ฉบับปัจจุบัน
ลักษณะและอายุของรถยนต์ที่รับรีไฟแนนซ์
สถาบันการเงินส่วนใหญ่จะรับรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 15-20 ปี (นับจากปีที่ผลิต) และตัวรถต้องอยู่ในสภาพดี ไม่มีการดัดแปลงสภาพที่ผิดกฎหมาย เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลโดยตรงต่อราคาประเมินรถยนต์ของคุณครับ
เอกสารจำเป็นที่ต้องเตรียมให้พร้อม
การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนจะช่วยให้การดำเนินการรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งเอกสารหลักๆ ที่ต้องใช้ได้แก่
- สำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน
- เอกสารแสดงรายได้ เช่น สลิปเงินเดือนล่าสุด หรือหนังสือรับรองเงินเดือน
- รายการเดินบัญชีธนาคาร (Statement) ย้อนหลัง 6 เดือน
- สำเนาเล่มทะเบียนรถยนต์
- สำเนาสัญญาเช่าซื้อฉบับปัจจุบัน และใบเสร็จค่างวดล่าสุด
5 ขั้นตอนง่ายๆ ในการรีไฟแนนซ์รถยนต์
กระบวนการรีไฟแนนซ์ไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิดครับ หากคุณเตรียมตัวมาอย่างดี ก็สามารถทำตาม 5 ขั้นตอนง่ายๆ นี้ได้เลย
1. ตรวจสอบยอดหนี้คงค้าง
ขั้นตอนแรกคือติดต่อสถาบันการเงินเดิมเพื่อสอบถามยอดปิดบัญชีที่แน่นอน ณ วันที่คุณวางแผนจะรีไฟแนนซ์ เพื่อนำตัวเลขนี้ไปใช้ในการคำนวณความคุ้มค่าและยื่นเรื่องกับที่ใหม่
2. เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน
รวบรวมเอกสารทั้งหมดตามที่ระบุไว้ข้างต้นให้พร้อม การมีเอกสารครบถ้วนจะช่วยให้การยื่นเรื่องของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่เสียเวลา
3. เปรียบเทียบโปรโมชั่นสินเชื่อ
ศึกษาและเปรียบเทียบข้อเสนอจากสถาบันการเงินหลายๆ แห่ง ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม หรือโปรโมชั่นพิเศษ เพื่อเลือกแหล่งกู้เงินด่วนที่ให้เงื่อนไขที่ดีและเหมาะสมกับคุณที่สุด
4. ยื่นเรื่องและรอประเมินสภาพรถ
เมื่อเลือกสถาบันการเงินที่ต้องการได้แล้ว ให้ยื่นเอกสารสมัครสินเชื่อ จากนั้นนำรถยนต์ของคุณไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจสภาพและประเมินราคา ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดวงเงินสินเชื่อที่คุณจะได้รับ
5. อนุมัติและปิดบัญชีสินเชื่อเดิม
เมื่อสินเชื่อใหม่ได้รับการอนุมัติ สถาบันการเงินแห่งใหม่จะนำเงินก้อนไปชำระหนี้เพื่อปิดบัญชีกับที่เดิม หากมีเงินส่วนต่างเหลือ คุณก็จะได้รับเงินก้อนนั้น และเริ่มผ่อนชำระกับที่ใหม่ตามสัญญาครับ
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่อาจเจอในการรีไฟแนนซ์ มีอะไรบ้าง?
นอกเหนือจากค่างวดแล้ว การรีไฟแนนซ์อาจมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ แฝงอยู่ ซึ่งคุณควรนำมาพิจารณาประกอบการตัดสินใจด้วยครับ
- ค่าประเมินราคารถ : ประมาณ 1,500 - 3,000 บาท (ขึ้นอยู่กับแต่ละที่)
- ค่าธรรมเนียมในการจัดสินเชื่อ : อาจคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของวงเงินกู้
- ค่าอากรแสตมป์ : 0.05% ของวงเงินสินเชื่อ
- ค่าปรับจากการปิดบัญชีก่อนกำหนด : ควรตรวจสอบกับไฟแนนซ์เดิมว่ามีเงื่อนไขนี้หรือไม่
สรุป ผ่อนรถ 1 ปี รีไฟแนนซ์ได้ แต่ต้องเช็กเงื่อนไขให้ดี
โดยสรุปแล้ว คำถามที่ว่า “ผ่อนรถ 1 ปี รีไฟแนนซ์ได้ไหม” คำตอบคือสามารถทำได้ หากคุณได้ชำระเงินต้นไปมากพอจนมูลค่ารถสูงกว่ายอดหนี้คงเหลือ การรีไฟแนนซ์ถือเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ยอดเยี่ยมในการช่วยลดภาระค่างวด เพิ่มสภาพคล่อง หรือรับเงินก้อนไปใช้ในยามจำเป็น แต่สิ่งสำคัญคือต้องศึกษาข้อมูล เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายทั้งหมดอย่างรอบคอบ เพื่อให้แน่ใจว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะคุ้มค่าและดีต่อสถานะการเงินของคุณในระยะยาว
สำหรับท่านใดที่รถยนต์ปลอดภาระแล้ว แต่ต้องการเงินทุนหมุนเวียน หรือต้องการยืมเงินด่วนฉุกเฉิน 5,000 บาท ไปจนถึงเงินก้อนใหญ่ สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ที่เงินติดล้อ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สะดวกและรวดเร็ว เพราะขั้นตอนไม่ซับซ้อน ไม่ต้องวุ่นวายกับการปิดบัญชีเดิม อนุมัติไว ให้วงเงินสูง และยังมีรถไว้ใช้งานเหมือนเดิม ตอบโจทย์ทุกความต้องการทางการเงินของคุณได้อย่างแน่นอนครับ
ที่มา: โตโยต้า ลีสซิ่ง, Thai PBS