ลาคลอดบุตรได้กี่วัน ได้เงินเดือนไหม มีสิทธิประกันสังคมอะไรบ้าง

ลาคลอดบุตรได้กี่วัน ได้เงินเดือนไหม มีสิทธิประกันสังคมอะไรบ้าง
รถของคุณผ่อนหมดแล้วหรือยัง?
หมายเหตุ ผ่อนมาแล้วเกินครึ่ง และไม่มีประวัติค้างชำระ ก็ขอสินเชื่อได้
กรุณากรอกชื่อภาษาไทย
กรุณากรอกเฉพาะตัวเลข

การกดยืนยันข้อมูล แสดงว่าคุณอ่านและรับทราบ นโยบายความเป็นส่วนตัว เรียบร้อยแล้ว

การเตรียมตัวเป็นคุณแม่มือใหม่ มีหลายเรื่องที่ต้องวางแผนล่วงหน้า โดยเฉพาะเรื่องการลาคลอด และสิทธิต่างๆ ที่จะได้รับจากที่ทำงานและประกันสังคม หลายคนอาจมีคำถามว่า ลาคลอดได้กี่วัน จะได้รับเงินเดือนระหว่างลาหรือไม่ และสิทธิ์เบิกค่าคลอดประกันสังคมมีอะไรบ้าง บทความนี้จะช่วยไขข้อสงสัยเกี่ยวกับสิทธิการลาคลอด เพื่อให้คุณแม่ตั้งครรภ์ได้เตรียมความพร้อมก่อนถึงวันคลอด และวางแผนการเงินในช่วงลาคลอดได้อย่างมั่นใจ

คุณแม่สามารถลาคลอดได้กี่วันตามกฎหมาย

สิทธิการลาคลอดบุตร

การลาคลอด เป็นสิทธิพื้นฐานตามกฎหมายแรงงานที่คุณแม่ทุกคนควรได้รับ เพื่อให้มีเวลาพักฟื้นร่างกายหลังคลอด และมีเวลาดูแลลูกน้อยในช่วงแรกเกิด อย่างไรก็ตาม จำนวนวันที่สามารถลาคลอดได้ และสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับนั้น จะแตกต่างกันไปตามประเภทของการจ้างงาน ไม่ว่าจะเป็นพนักงานเอกชน พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือข้าราชการ

สิทธิลาคลอดคุณแม่ที่เป็นพนักงานเอกชน

สำหรับพนักงานหญิงที่ทำงานในบริษัทเอกชน กฎหมายคุ้มครองแรงงานกำหนดให้มีสิทธิลาคลอดได้สูงสุด 98 วัน โดยนับรวมวันหยุดราชการและวันหยุดประจำสัปดาห์ด้วย ซึ่งสามารถแบ่งเป็นช่วงก่อนคลอดและหลังคลอดได้ตามความเหมาะสม ในช่วงของการลาคลอดนี้ นายจ้างมีหน้าที่จ่ายค่าจ้างให้ลูกจ้างเป็นเวลา 45 วันในอัตราปกติ ส่วนที่เหลืออีก 45 วัน ลูกจ้างที่เป็นผู้ประกันตนจะได้รับการชดเชยจากประกันสังคมในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ย นอกจากนี้ ลูกจ้างยังมีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือการคลอดบุตรจากประกันสังคมอีก 15,000 บาทต่อการคลอดหนึ่งครั้งครับ

สิทธิลาคลอดคุณแม่ที่เป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ

พนักงานรัฐวิสาหกิจมีสิทธิลาคลอดตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานเช่นเดียวกับพนักงานเอกชน แต่อาจมีเงื่อนไขและสวัสดิการที่แตกต่างกันไปตามระเบียบของแต่ละหน่วยงาน โดยทั่วไปแล้ว พนักงานรัฐวิสาหกิจมีสิทธิลาคลอดได้ไม่น้อยกว่า 90 วัน และจะได้รับเงินเดือนตามปกติในช่วงของการลาคลอด ซึ่งเป็นสวัสดิการที่ดีกว่าพนักงานเอกชนที่ได้รับเงินเดือนเต็มจำนวนเพียง 45 วัน นอกจากนี้ พนักงานรัฐวิสาหกิจยังมีสิทธิเบิกค่าคลอดบุตรตามระเบียบของแต่ละองค์กร และหากเป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ก็สามารถใช้สิทธิประกันสังคมลาคลอดได้เช่นเดียวกับพนักงานเอกชน

สิทธิลาคลอดคุณแม่ที่เป็นข้าราชการ

ข้าราชการหญิงได้รับสิทธิลาคลอดที่ดีกว่าพนักงานในภาคเอกชนในหลายด้าน โดยมีสิทธิลาคลอดได้ไม่เกิน 98 วัน โดยไม่ต้องมีใบรับรองแพทย์ประกอบการลา และยังได้รับเงินเดือนเต็มจำนวนตลอดระยะเวลาการลา ไม่ใช่เพียงแค่ 45 วันเหมือนพนักงานเอกชน

นอกจากนี้ ข้าราชการหญิงยังสามารถลาเพื่อเลี้ยงดูบุตรต่อเนื่องจากการลาคลอดได้อีกไม่เกิน 150 วันทำการ โดยไม่ได้รับเงินเดือนในช่วงของการลาเพิ่มเติมนี้ ซึ่งเป็นสิทธิพิเศษที่ช่วยให้คุณแม่ข้าราชการมีเวลาอยู่กับลูกน้อยได้นานขึ้น โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการสูญเสียตำแหน่งหน้าที่ครับ

ลาคลอด 98 วัน เริ่มใช้วันไหน

หลายคนอาจสงสัยว่า การนับวันลาคลอด 98 วันนั้น เริ่มนับตั้งแต่เมื่อไหร่ ตามกฎหมายแล้ว สามารถเริ่มนับได้ตั้งแต่วันที่ลูกจ้างหญิงเริ่มหยุดงานเพื่อการคลอด ซึ่งอาจเป็นช่วงก่อนหรือหลังคลอดก็ได้ ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและความพร้อมของคุณแม่แต่ละคน

โดยทั่วไป คุณแม่มักจะเริ่มลาคลอดประมาณ 1-2 สัปดาห์ก่อนกำหนดคลอด เพื่อเตรียมความพร้อมและพักผ่อนก่อนถึงวันคลอด และเมื่อคลอดแล้ว จะเหลือวันลาหลังคลอดประมาณ 80-85 วัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญในการพักฟื้นร่างกายและดูแลลูกน้อยในช่วงแรกเกิด

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ไม่สามารถคาดการณ์วันคลอดได้อย่างแม่นยำ หรือมีการคลอดก่อนกำหนด คุณแม่ก็ยังคงมีสิทธิลาคลอดรวมทั้งสิ้น 98 วัน โดยนับรวมวันที่ลาไปแล้วก่อนคลอดด้วยครับ

คุณแม่ลาคลอดได้เงินเดือนไหม

ลาคลอดได้เงินเดือนไหม

คำถามสำคัญที่หลายคนสงสัยคือ ในช่วงที่ลาคลอด จะยังได้รับเงินเดือนหรือไม่ และได้เท่าไหร่ คำตอบคือ ขึ้นอยู่กับประเภทของการจ้างงาน

สำหรับพนักงานเอกชน กฎหมายกำหนดให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างให้ลูกจ้างในช่วง 45 วันแรกของการลาคลอด ส่วนอีก 45 วันที่เหลือ หากเป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม จะได้รับเงินทดแทนจากประกันสังคมในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ย โดยคำนวณจากฐานเงินเดือนที่ใช้คำนวณเงินสมทบ แต่ไม่เกิน 15,000 บาทต่อเดือน

ส่วนข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ โดยทั่วไปจะได้รับเงินเดือนเต็มจำนวนตลอดระยะเวลาของการลาคลอด 98 วัน ซึ่งถือเป็นสวัสดิการที่ดีกว่าภาคเอกชน

นอกจากเงินเดือนแล้ว ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมยังมีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือการคลอดบุตรอีก 15,000 บาทต่อการคลอดหนึ่งครั้ง ซึ่งช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในช่วงของการคลอดและดูแลลูกน้อยได้มาก

คุณพ่อสามารถลาคลอดไปดูแลคุณแม่ได้ไหม

ในสังคมปัจจุบัน บทบาทของคุณพ่อในการเลี้ยงดูลูกมีความสำคัญมากขึ้น หลายคนจึงสงสัยว่า คุณพ่อสามารถลาคลอดเพื่อไปดูแลคุณแม่และลูกน้อยได้หรือไม่

สำหรับประเทศไทย กฎหมายไม่ได้กำหนดสิทธิการลาคลอดของคุณพ่อไว้โดยเฉพาะ แต่ในทางปฏิบัติ หลายองค์กรโดยเฉพาะในภาคเอกชนได้เริ่มมีนโยบายให้พนักงานชายสามารถลาเพื่อดูแลภรรยาและบุตรแรกเกิดได้ประมาณ 5-15 วัน ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละองค์กร

ส่วนในหน่วยงานราชการ ปัจจุบันมีการอนุญาตให้ข้าราชการชายสามารถลาไปช่วยเหลือภรรยาที่คลอดบุตรได้ไม่เกิน 15 วันทำการ โดยได้รับเงินเดือนตามปกติ ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้คุณพ่อมีส่วนร่วมในการดูแลลูกน้อยและคุณแม่ในช่วงแรกเกิด

แม้ว่าสิทธิการลาของคุณพ่อจะยังไม่มากเท่าคุณแม่ แต่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการให้ความสำคัญกับบทบาทของคุณพ่อในการเลี้ยงดูลูก และช่วยแบ่งเบาภาระของคุณแม่ในช่วงหลังคลอด

ในช่วงที่ลาคลอด คุณแม่ยังต้องจ่ายประกันสังคมไหม

อีกคำถามที่หลายคนสงสัยคือ ในช่วงที่ลาคลอด ยังต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมหรือไม่ คำตอบคือ ตราบใดที่ยังอยู่ในสถานะลูกจ้าง และได้รับค่าจ้างจากนายจ้าง ไม่ว่าจะเป็นช่วงลาคลอดหรือไม่ ก็ยังคงต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมตามปกติ

โดยในช่วง 45 วันแรกของการลาคลอด ที่ลูกจ้างยังได้รับค่าจ้างจากนายจ้าง นายจ้างจะหักเงินสมทบประกันสังคมจากค่าจ้างของลูกจ้างในอัตราร้อยละ 5 (ไม่เกิน 750 บาทต่อเดือน) เช่นเดียวกับช่วงทำงานปกติ

ส่วนในช่วง 45 วันที่เหลือ ที่ลูกจ้างได้รับเงินทดแทนจากประกันสังคม จะไม่มีการหักเงินสมทบจากเงินทดแทนนี้ แต่หากนายจ้างยังจ่ายค่าจ้างให้ลูกจ้างในช่วงนี้ด้วย (ซึ่งบางองค์กรอาจมีสวัสดิการเพิ่มเติม) ก็จะมีการหักเงินสมทบจากค่าจ้างส่วนนี้ตามปกติ

การที่ยังคงจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมในช่วงลาคลอด ช่วยให้ลูกจ้างยังคงได้รับความคุ้มครองจากประกันสังคมอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นกรณีเจ็บป่วย ทุพพลภาพ หรือการว่างงานครับ

สรุป คุณแม่มีสิทธิ์ลาคลอดได้สบายใจ ไม่กระทบรายได้

การลาคลอดบุตรเป็นสิทธิตามกฎหมายที่คุณแม่ทุกคนควรได้รับ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานในภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ หรือข้าราชการ โดยมีระยะเวลาลาคลอดสูงสุด 98 วันตามกฎหมาย ซึ่งช่วยให้คุณแม่มีเวลาพักฟื้นร่างกายหลังคลอด และมีเวลาดูแลลูกน้อยในช่วงแรกเกิดได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการสูญเสียรายได้มากนัก เนื่องจากมีการชดเชยจากนายจ้างและประกันสังคม

นอกจากนี้ ยังมีสิทธิประโยชน์อื่นๆ จากประกันสังคม เช่น เงินช่วยเหลือการคลอดบุตร ค่าตรวจครรภ์ และค่ารักษาพยาบาลในการคลอด ซึ่งช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในช่วงของการตั้งครรภ์และการคลอดได้มาก

สำหรับคุณแม่ที่กำลังมองหาแหล่งเงินทุนเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนคลอด หรือมีความจำเป็นต้องใช้เงินในช่วงลาคลอด สินเชื่อทะเบียนรถยนต์จากเงินติดล้ออาจเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ ด้วยการใช้เล่มทะเบียนรถเป็นหลักประกัน คุณสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างรวดเร็ว โดยยังสามารถใช้รถได้ตามปกติ ช่วยให้คุณมีเงินสำรองไว้ใช้จ่ายในช่วงที่มีรายได้ลดลงจากการลาคลอด หรือมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากการดูแลลูกน้อยครับ

รถของคุณผ่อนหมดแล้วหรือยัง?
หมายเหตุ ผ่อนมาแล้วเกินครึ่ง และไม่มีประวัติค้างชำระ ก็ขอสินเชื่อได้
กรุณากรอกชื่อภาษาไทย
กรุณากรอกเฉพาะตัวเลข

การกดยืนยันข้อมูล แสดงว่าคุณอ่านและรับทราบ นโยบายความเป็นส่วนตัว เรียบร้อยแล้ว

เงินติดล้อ

บทความโดย

เงินติดล้อ

ผู้มุ่งหวังให้สังคมไทยมีสุขภาพทางการเงินที่ดีขึ้น