รัฐบาลได้ออกมาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า เพื่อแบ่งเบาค่าครองชีพของประชาชน สำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) หรือผู้ที่ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแล้วผ่านคุณสมบัติโครงการ สามารถลงทะเบียนค่าไฟฟรีเพื่อขอรับสิทธิ์ได้ 1 ครัวเรือนต่อ 1 สิทธิ์ต่อ 1 รหัสประจำบ้าน มาทำความเข้าใจโครงการนี้ว่ามีเงื่อนไข และขั้นตอนการลงทะเบียนใช้ไฟฟ้าฟรียังไงบ้าง เพื่อให้คุณเข้าถึงสิทธิประโยชน์ได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน
เงื่อนไขมาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า 2567
มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า 2567 นี้ เป็นมาตรการที่รัฐช่วยสนับสนุนค่าไฟให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน ผู้ได้รับสิทธิ์จะต้องลงทะเบียนกับการไฟฟ้านครหลวง (MEA) หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ตามพื้นที่ของตัวเอง โดยเลือกลงทะเบียนเพียงหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง กรณีมีหลายบ้านภายใต้ชื่อเดียวกัน สามารถลงสิทธิ์ได้เพียง 1 ครัวเรือนเท่านั้น โดยแต่ละหน่วยงานมีเงื่อนไขการใช้สิทธิ์ ดังนี้
การไฟฟ้านครหลวง (MEA)
การไฟฟ้านครหลวง (MEA) รับผิดชอบการจำหน่ายไฟฟ้าให้กับประชาชนในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ มีเงื่อนไขการใช้สิทธิ์ ดังนี้
- ผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือน ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือน จะได้รับสิทธิ์ใช้ไฟฟ้าฟรี ตามโครงสร้างค่าไฟฟ้า
- ผู้ใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วยต่อเดือน แต่ไม่เกิน 315 บาท จะได้รับสนับสนุนค่าไฟฟ้า 315 บาทต่อครัวเรือน ต่อเดือน
- ผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีการใช้ไฟฟ้าเกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน ผู้มีบัตรฯ จะต้องเป็นผู้รับภาระค่าไฟฟ้าทั้งหมด
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA)
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับผิดชอบการจำหน่ายไฟฟ้าให้กับประชาชนในส่วนภูมิภาคทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย ยกเว้น กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ มีเงื่อนไขการใช้สิทธิ์ ดังนี้
- ผู้มีบัตรฯ ต้องลงทะเบียนกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อขอรับสิทธิ์ช่วยเหลือค่าไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อเดือนต่อครัวเรือนต่อสิทธิ์
- การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จะดำเนินการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าตามสถานที่ใช้ไฟฟ้าที่ได้ลงทะเบียนไว้ และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด
- ถ้าใช้ไฟฟ้าจำนวนเงินเกินกว่า 315 บาทต่อเดือน จะไม่ได้รับสิทธิ์ และต้องชำระค่าไฟฟ้าภายในระยะเวลาที่กำหนด
- กรณีลงทะเบียนกับการใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย ที่ติดตั้งมิเตอร์ไม่เกิน 5 แอมป์ และไม่เป็นนิติบุคคล ถ้าใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือน ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือน จะได้รับสิทธิ์ค่าไฟฟ้าฟรี 50 หน่วย ตั้งแต่ค่าไฟฟ้าประจำเดือนพฤษภาคม 2566 เป็นต้นไป
ขั้นตอนลงทะเบียนค่าไฟฟรีกับการไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
- เข้าเว็บไซต์เพื่อลงทะเบียนค่าไฟฟรี และกรอกข้อมูลตามที่ระบบแจ้ง
- กรณีลงทะเบียนใช้ไฟฟ้าฟรีกับการไฟฟ้านครหลวง (MEA) ในส่วนข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้าให้กรอกดังนี้
- กรอกรหัสเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้า (เลขมิเตอร์ไฟฟ้า) ที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ (หมายเลข 8 หลัก) ถ้าหมายเลขเครื่องวัดฯ 7 หลัก ให้ใส่ 0 ข้างหน้า
- กรอกบัญชีแสดงสัญญา (หมายเลข 9 หลัก) ถ้าหมายเลขบัญชีแสดงสัญญาไม่ครบ 9 หลัก ให้ใส่ 0 ข้างหน้า
- กรณีลงทะเบียนใช้ไฟฟ้าฟรีกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ให้กรอกข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้า ดังนี้
- กรอกหมายเลขผู้ใช้ไฟฟ้า (หมายเลข 9 หลัก)
- กรอกรหัสเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้า (เลขมิเตอร์ไฟฟ้า) ที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ (หมายเลข 6 หลัก)
- กรอกข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ โดยข้อมูลหมายเลขบัตรประชาชน จะต้องตรงตามที่ระบุในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (หมายเลข 13 หลัก)
- กดลงทะเบียน
ลงทะเบียนค่าไฟฟรีได้ตอนไหนบ้าง?
เริ่มลงทะเบียนใช้ไฟฟ้าฟรีได้ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป กรณีลงทะเบียนเรียบร้อยภายในวันที่ 8 เมษายน 2566 เวลา 17.00 น. จะได้รับสิทธิ์เดือนแรก คือ “ใบแจ้งค่าไฟฟ้าเดือนเมษายน 2566” สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนหลังวันและเวลาดังกล่าว จะต้องลงทะเบียนให้เสร็จภายในวันที่ 8 เวลา 17.00 น. ของแต่ละเดือน จึงจะได้รับสิทธิ์สำหรับใบแจ้งค่าไฟฟ้าประจำเดือนนั้น ๆ แต่ถ้าลงทะเบียนหลังจากวันที่ 8 เวลา 17.00 น. ของแต่ละเดือน จะได้รับสิทธิ์สำหรับใบแจ้งค่าไฟฟ้าเดือนถัดไป และจะไม่ได้รับสิทธิ์ย้อนหลัง ถ้าคุณลงทะเบียนใช้ไฟฟ้าฟรีสำเร็จ บิลค่าไฟจะแสดงยอดเงินเป็น 0 บาท
สรุป ลงทะเบียนค่าไฟฟรีสำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
การลงทะเบียนค่าไฟฟรีตามมาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้านี้ นอกจากจะแบ่งเบาภาระให้แก่ครัวเรือนที่มีรายได้น้อยแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากอีกทางหนึ่ง การลงทะเบียนค่าไฟ 315 บาท ก็ช่วยให้ครัวเรือนมีกำลังในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นได้ แต่ถ้าคุณรู้สึกว่ายังขาดสภาพคล่องทางการเงินอยู่ กำลังหาแหล่งกู้เงินด่วน ที่เงินติดล้อเรามีบริการสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ ให้คุณนำเล่มทะเบียนรถเก๋ง รถกระบะ มาเปลี่ยนเป็นเงินทุนสำรองสำหรับใช้จ่ายฉุกเฉิน ช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินได้อย่างแน่นอน