ช่วงเวลาที่ค่าครองชีพสูงขึ้นแบบทุกวันนี้ การทำงานล่วงเวลาหรือที่เรียกกันติดปากว่า "ทำ OT" ก็เป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยให้เรามีรายได้เพิ่มขึ้นตามความขยัน แต่เคยสงสัยไหมครับว่าค่าล่วงเวลาที่เราควรจะได้นั้น จริงๆ แล้วคิดยังไง? แล้วถ้าต้องสละวันหยุดมาทำงาน เราควรได้เงินกี่เท่า? เงินติดล้อจะมาไขข้อข้องใจทั้งหมด อธิบายให้ทุกคนเข้าใจเรื่องค่าล่วงเวลาและค่าทำงานประเภทต่างๆ ที่ลูกจ้างทุกคนควรรู้ในบทความนี้กันครับ
ค่าล่วงเวลา (OT) และค่าทำงานในวันหยุด คืออะไร
ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ได้กำหนดความหมายของค่าตอบแทนจากการทำงานนอกเวลาไว้ชัดเจน เพื่อปกป้องสิทธิของลูกจ้างทุกคนครับ การทำความเข้าใจความหมายเหล่านี้จะช่วยให้เรารู้ว่านายจ้างจ่ายเงินให้เราถูกต้องหรือไม่ ซึ่งโดยหลักแล้วจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ดังนี้
- ค่าล่วงเวลา คือ เงินค่าตอบแทนที่นายจ้างต้องจ่ายให้ลูกจ้างเพิ่ม เมื่อลูกจ้างทำงานเกินเวลาทำงานปกติของวันทำงาน (เช่น ปกติทำงาน 8 ชั่วโมง แต่วันนี้ทำไป 10 ชั่วโมง 2 ชั่วโมงที่เกินมาจะถูกคิดเป็นค่าล่วงเวลา)
- ค่าทำงานในวันหยุด คือ เงินค่าตอบแทนสำหรับลูกจ้างที่ถูกเรียกให้มาทำงานในวันหยุดประจำสัปดาห์ วันหยุดตามประเพณี หรือวันหยุดพักผ่อนประจำปี ซึ่งเป็นวันที่ตามปกติแล้วลูกจ้างมีสิทธิ์ได้หยุดพัก
- ค่าล่วงเวลาในวันหยุด คือ เงินค่าตอบแทนในกรณีที่ลูกจ้างทำงานในวันหยุด และยังทำงานเกินชั่วโมงทำงานปกติของวันนั้นๆ อีกด้วย พูดง่ายๆ คือ เป็นการทำโอทีในวันหยุดนั่นเองครับ
อัตราค่าตอบแทนและค่าล่วงเวลาต่างๆ
เมื่อรู้จักความหมายกันไปแล้ว ทีนี้มาดูกันครับว่าอัตราค่าตอบแทนในแต่ละสถานการณ์นั้นกฎหมายกำหนดไว้อย่างไรบ้าง เพื่อให้คุณสามารถตรวจสอบสิทธิของตัวเองได้อย่างแม่นยำครับ
- ค่าล่วงเวลาในวันทำงานปกติ
- ลูกจ้างทั้งรายวันและรายเดือน รับค่าตอบแทน 1.5 เท่าของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมง
- ค่าล่วงเวลาในวันหยุด
- ลูกจ้างทั้งรายวันและรายเดือน รับค่าตอบแทน 3 เท่าของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมง
- ค่าทำงานในวันหยุดประจำสัปดาห์
- ลูกจ้างรายเดือน รับค่าตอบแทนเพิ่มอีก 1 เท่าของค่าจ้างต่อชั่วโมง
- ลูกจ้างรายวัน รับค่าตอบแทนไม่น้อยกว่า 2 เท่าของค่าจ้างต่อชั่วโมง
- ค่าทำงานในวันหยุดตามประเพณีหรือวันหยุดพักร้อนประจำปี
- ลูกจ้างทั้งรายวันและรายเดือน รับค่าตอบ 1 เท่าของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมง
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น เงินติดล้อได้สรุปอัตราค่าตอบแทนทั้งหมดไว้ในตารางด้านล่างนี้ครับ
ประเภทค่าตอบแทน
|
ลูกจ้างรายเดือน
|
ลูกจ้างรายวัน
|
ค่าล่วงเวลาในวันทำงานปกติ
|
1.5 เท่า
|
1.5 เท่า
|
ค่าทำงานในวันหยุด
|
1 เท่า
|
2 เท่า
|
ค่าล่วงเวลาในวันหยุด (OT วันหยุด)
|
3 เท่า
|
3 เท่า
|
วิธีคิดอัตราค่าล่วงเวลา (OT) ตามประเภท
เมื่อรู้จักประเภทและอัตราค่าตอบแทนแล้ว หลายคนคงอยากรู้ว่ามีวิธีการคิดคำนวณเบื้องต้นอย่างไร เพื่อให้ลูกจ้างอย่างเราสามารถคำนวณรายรับของตัวเองได้ก่อนเงินเดือนออก และตรวจสอบความถูกต้องได้ด้วยตัวเอง มาดูกันเลยครับ
ก่อนอื่น เราต้องคำนวณ “ค่าจ้างรายชั่วโมง” ของเราให้ได้ก่อน ซึ่งมีวิธีคิดที่แตกต่างกันระหว่างลูกจ้างรายวันและรายเดือน
- ลูกจ้างรายเดือน (เงินเดือน / 30 วัน) / จำนวนชั่วโมงทำงานปกติ (ส่วนใหญ่คือ 8 ชั่วโมง)
- ลูกจ้างรายวัน ค่าจ้างรายวัน / จำนวนชั่วโมงทำงานปกติ (ส่วนใหญ่คือ 8 ชั่วโมง)
ตัวอย่าง
- นาย A เป็นลูกจ้างรายเดือน เงินเดือน 18,000 บาท
- ค่าจ้างรายวัน 18,000 / 30 = 600 บาท/วัน
- ค่าจ้างรายชั่วโมง 600 / 8 = 75 บาท/ชั่วโมง
- นาย B เป็นลูกจ้างรายวัน ค่าจ้าง 480 บาท/วัน
- ค่าจ้างรายชั่วโมง 480 / 8 = 60 บาท/ชั่วโมง
เมื่อได้ค่าจ้างรายชั่วโมงแล้ว เราก็จะนำตัวเลขนี้ไปคำนวณหาค่าล่วงเวลาประเภทต่างๆ ต่อไปครับ
วิธีคิดค่าล่วงเวลา (OT) ทั้งรายวันและรายเดือน
ค่าล่วงเวลาหรือ OT ในวันทำงานปกติจะมีสูตรการคำนวณดังนี้
(ค่าจ้างรายชั่วโมง x 1.5) x จำนวนชั่วโมงที่ทำ OT
- ตัวอย่าง (รายเดือน) นาย A ทำ OT ในวันทำงานปกติ 3 ชั่วโมง
- จะได้ค่าล่วงเวลา = (75 บาท x 1.5) x 3 ชั่วโมง = 337.5 บาท
- ตัวอย่าง (รายวัน) นาย B ทำ OT ในวันทำงานปกติ 3 ชั่วโมง
- จะได้ค่าล่วงเวลา = (60 บาท x 1.5) x 3 ชั่วโมง = 270 บาท
วิธีคิดค่าทำงานในวันหยุด
สำหรับค่าแรงวันหยุดจะมีวิธีคิดแยกตามประเภทลูกจ้างดังนี้ครับ
- ลูกจ้างรายเดือน ได้ค่าจ้างในวันหยุดเพิ่มอีก 1 เท่า มีสูตรคิดดังนี้
ค่าจ้างรายชั่วโมง x จำนวนชั่วโมงที่ทำงานในวันหยุด
- ตัวอย่าง นาย A (รายเดือน) มาทำงานในวันหยุด 8 ชั่วโมง
- จะได้ค่าแรงวันหยุดเพิ่ม = 75 บาท x 8 ชั่วโมง = 600 บาท (นอกเหนือจากเงินเดือนปกติ)
- ลูกจ้างรายวัน ปกติไม่ได้ค่าจ้างในวันหยุดจึงได้เพิ่ม 2 เท่า มีสูตร
(ค่าจ้างรายชั่วโมง x 2) x จำนวนชั่วโมงที่ทำงานในวันหยุด
- ตัวอย่าง นาย B (รายวัน) มาทำงานในวันหยุด 8 ชั่วโมง
- จะได้ค่าแรงวันหยุด = (60 บาท x 2) x 8 ชั่วโมง = 960 บาท
วิธีคิดค่าล่วงเวลา (OT) ในวันหยุด
การคิดค่าล่วงเวลาในวันหยุด หรือ OT วันหยุด จะได้รับค่าตอบแทนสูงที่สุด คือ 3 เท่าของค่าจ้างรายชั่วโมงโดยมีสูตรดังนี้
(ค่าจ้างรายชั่วโมง x 3) x จำนวนชั่วโมงที่ทำ OT ในวันหยุด
- ตัวอย่าง ลูกจ้างรายเดือน นาย A ทำงานในวันหยุดไปแล้ว 8 ชั่วโมง และทำ OT ต่ออีก 2 ชั่วโมง
- ค่าทำงานในวันหยุด 8 ชั่วโมงแรก = 600 บาท
- ค่า OT วันหยุด 2 ชั่วโมง = (75 บาท x 3) x 2 ชั่วโมง = 450 บาท
- รวมรายรับในวันนั้น = 600 + 450 = 1,050 บาท
- ตัวอย่าง ลูกจ้างรายวัน นาย B ทำงานในวันหยุดไปแล้ว 8 ชั่วโมง และทำ OT ต่ออีก 2 ชั่วโมง
- ค่าทำงานในวันหยุด 8 ชั่วโมงแรก = 960 บาท
- ค่า OT วันหยุด 2 ชั่วโมง = (60 บาท x 3) x 2 ชั่วโมง = 360 บาท
- รวมรายรับในวันนั้น = 960 + 360 = 1,320 บาท
สรุป
การทำความเข้าใจเรื่องค่าล่วงเวลาและค่าทำงานในวันหยุด ถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ลูกจ้างทุกคนควรรู้ เพื่อรักษาสิทธิประโยชน์และมั่นใจได้ว่าได้รับค่าตอบแทนที่ถูกต้องและเป็นธรรมตามกฎหมายแรงงาน การคำนวณที่แม่นยำไม่เพียงแต่ช่วยให้เราวางแผนการเงินได้ดีขึ้น แต่ยังสะท้อนถึงความใส่ใจในรายละเอียดทางการเงินของตัวเองอีกด้วยครับ
สำหรับใครที่ต้องการเงินก้อนฉุกเฉินเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน เงินติดล้อมีบริการสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ที่จะช่วยเปลี่ยนทรัพย์สินของคุณให้เป็นเงินทุนสำรองได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็ว โดยที่คุณยังสามารถใช้รถทำมาหากินได้ตามปกติ อนุมัติไว รับเงินก้อนไปใช้จ่ายยามจำเป็น พร้อมเงื่อนไขการผ่อนชำระที่เข้าใจง่ายและเหมาะสมกับความสามารถของคุณครับ
ที่มา: iTAX, Humansoft