หน้าแรก บทความ การเงินน่ารู้ การบริหารหนี้ ชวนรู้จัก 4 ศัตรูตัวร้าย คอยทำลายการออมเงินของคุณ

ชวนรู้จัก 4 ศัตรูตัวร้าย คอยทำลายการออมเงินของคุณ

ชวนรู้จัก 4 ศัตรูตัวร้าย คอยทำลายการออมเงินของคุณ
รถของคุณผ่อนหมดแล้วหรือยัง?
หมายเหตุ ผ่อนรถอยู่ก็ขอกู้ได้ เพียงคุณมีประวัติชำระที่ดี … เงินติดล้อก็รับ
กรุณากรอกชื่อภาษาไทย
กรุณากรอกนามสกุลภาษาไทย
กรุณากรอกเฉพาะตัวเลข

การกดยืนยันข้อมูล แสดงว่าคุณอ่านและรับทราบ นโยบายความเป็นส่วนตัว เรียบร้อยแล้ว กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 14 - 24% ต่อปี

คิดจะทำอะไรสักอย่างย่อมมีอุปสรรคมาขัดขวางเสมอ ซึ่งการออมเงินมักมีศัตรูตัวร้ายทำให้คุณไปไม่ถึงเป้าหมายการเงินที่ตั้งเอาไว้สักที เช่น อยากมีเงินเก็บตอนเกษียณ หรืออยากมีเงินสำรองไว้เพื่อจ่ายค่ารักษาพยาบาล ดังนั้น เพื่อเคลียร์ให้เส้นทางการออมเงินของคุณโรยด้วยกลีบกุหลาบ เงินติดล้ออยากบอกต่อให้คุณรู้ว่านี่คือศัตรูตัวฉกาจของการออมเงินที่ต้องระวังเอาไว้ให้ดี

ไม่มีเงินเก็บ เงินไม่พอใช้ เพราะเจอศัตรูตัวร้ายคอยรังควาญ

เพื่อให้การออมเงินของคุณมีประสิทธิภาพและไปถึงฝันมากขึ้น ก่อนอื่นเงินติดล้อขอให้คุณจิตแข็งกับศัตรูที่กำลังจะรังควาญการออมเงินของคุณก่อนเลยนะครับ เพราะบางอย่างก็สามารถหลอกล่อให้คุณละหลวมในการออมเงินจนเลยเถิดไปได้ด้วย และนี่คือ 4 ศัตรูตัวร้ายที่จะทำให้คุณไม่มีเงินเก็บหรือเงินไม่พอใช้ครับ

  1. ไม่มีวินัยในการออมเงิน

    ไม่มีวินัยในการออม จนส่งผลให้ไม่มีเงินเก็บ นั่นก็คือตัวคุณเอง ดังนั้น ต้องเริ่มปรับพฤติกรรมการออมเงินก่อน จากที่เคยใช้ไปก่อน ค่อยออมทีหลัง ไม่ได้แล้วครับ

    ต้องเปลี่ยนวิธีการใหม่แล้ว เช่น เริ่มออมเดี๋ยวนี้ วันนี้ หรือตอนนี้ บวกกับการตั้งเป้าหมายในการออมเงินเพื่อเป็นแรงผลักดันให้ไปถึงเป้าหมายด้วย

    ถ้ายังนึกภาพไม่ออก ลองคิดว่าตอนแก่ตัวไปไม่มีเงินเก็บก็ได้ครับ แค่นี้ก็พอจะเดาสิ่งที่จะเกิดในอนาคตว่าต้องอยู่แบบไม่มีเงินใช้ตอนเกษียณ ไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาล คงไม่ใช่เรื่องดีแน่

    และวิธีที่จะช่วยสร้างวิธีเก็บเงินได้มีประสิทธิภาพอีกวิธีหนึ่งคือใช้วิธีฝากเงินแบบประจำ 24 เดือนที่จะต้องฝากเงินเท่ากันทุก ๆ เดือน เดือนละ 1 ครั้ง เพื่อเป็นการบังคับการออมเงินของตัวเองก็เป็นอีกวิธีที่ดีมาก ๆ

    เงินไม่พอใช้
  2. ความโลภเป็นเหตุ

    เงินติดล้อเข้าใจดีว่าระหว่างทางจะมีกิเลสตัณหามาหลอกล่อให้เสียสมาธิในการเก็บเงินเสมอ บ้างก็เรื่องสินค้ากระแสนิยมที่กำลังมาแรง หรือการลงทุนเพื่อหวังกอบโกยผลกำไร

    ในด้านของกระแสนิยมมาแรง คือสินค้าล่อตาล่อใจที่ออกมากระตุ้นความอยากให้รู้สึกว่า “ของมันต้องมี” สุดท้ายแล้วก็หลวมตัวด้วยการจ่ายเงินไปโดยไม่คำนึกถึงการออมเงินเพื่อเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้

    หรือการลงทุนหวังรวยทางลัด นำเงินที่มีอยู่เทหมดหน้าตักหวังกอบโกยกำไร ถ้าโชคเข้าข้างก็เป็นการดี แต่ถ้าโชคไม่เข้าข้างมีแต่เสียกับเสีย ซึ่งการลงทุนเป็นความเสี่ยงที่สามารถจัดการได้หากศึกษาให้ดีก่อน

    ดังนั้น ประเมินความเสี่ยงที่มีว่าสามารถรับไหวไหม และคิดจะลงทุนต้องลงทุนอย่างมีสติ ศึกษาข้อมูลทุกอย่างให้ละเอียด หากอยากลงเรื่องหุ้นก็สามารถอ่านข้อมูลฟรี ๆ ได้ที่ set.or.th

    อย่าให้ความโลภทำให้หน้ามืดตามัว เพราะความโลภจะทำให้คุณนำเงินออมที่มีอยู่มาเดิมพัน ซึ่งสุดท้ายแล้วอาจจะไม่เหลือเงินสักบาทเลยก็ได้ครับ

  3. เงินเฟ้อ

    เงินเฟ้อจะส่งผลให้สินค้าและบริการแพงขึ้น ทำให้เงินที่มีอยู่มีคุณค่าน้อยลง สิ่งนี้เราไม่สามารถจัดการเองได้ เพราะเกิดขึ้นจากระบบเศรษฐกิจ ณ ขณะนั้น แต่จะมีหน่วยงานเข้าไปควบคุม คือ

    ต่อให้มีหน่วยงานเข้ามาดูแลว่าการขึ้นราคาสินค้าและบริการสมเหตุสมผลหรือไม่ ถ้าในกรณีที่ผลออกมาว่าควรขึ้นราคาจริง ๆ ก็ต้องยอมจำนนไปโดยปริยาย

    ดังนั้น เงินเฟ้อก็ยังส่งผลให้การออมเงินมีปัญหาอยู่ดีครับ เพราะรายได้เท่าเดิม แต่รายจ่ายมากขึ้น ทั้งค่าวัตถุดิบ ค่าแรง ฯลฯ​ ถ้านึกภาพไม่ออกก็เช่น

    เมื่อก่อนข้าวราดแกง 2 อย่าง 40 บาท แต่เดี๋ยวนี้ราคาพุ่งขึ้นเป็น 60 บาท เมื่อมีต้นทุนในการผลิตที่สูงขึ้น เช่น ค่าแรง ค่าวัตถุดิบ ทำให้ค่าสินค้าและบริการต้องขึ้นตามมาด้วย

    ไม่มีเงินเก็บ
  4. เหตุการณ์ไม่คาดฝัน

    เหตุการณ์ไม่คาดฝันจะเกิดขึ้นแบบที่คุณไม่ได้ตั้งตัวเลยครับ เพราะอยู่นอกเหนือแผนที่วางเอาไว้ทั้งหมด เช่น โดนรถชน เจ็บป่วยด้วยโรค หรือไฟไหม้ ซึ่งเหตุการณ์ฉุกเฉินเหล่านี้จะทำให้การออมเงินของคุณไปไม่ถึงฝัน

    หรือถ้ามีการออมเงินไว้อยู่แล้วก็ต้องถอนเงินที่สะสมไว้มาจ่ายค่ารักษาพยาบาล ซ่อมแซม หรือชดเชยค่าเสียหายให้กับเหตุการณ์ที่ว่า ทำให้เงินสะสมที่ตั้งใจเก็บมาตั้งแต่แรกมีโอกาสหมดอยู่ดี

    นี่เป็นศัตรูตัวร้ายกาจที่เลวร้ายที่สุด ดังนั้น คุณต้องจิตแข็ง ตั้งสติให้ดี แล้วหาหนทางเอาตัวรอดครับ ซึ่งส่วนมากแล้วก็จะแก้ไขปัญหาด้วยการทำประกันชีวิต ประกันสุขภาพ หรือประกันรถยนต์ เพื่อรองรับค่าเสียหาย

    แต่ถ้ามีเครื่องมือกระจายความเสี่ยงเหล่านี้แล้ว และยังรู้สึกว่าเงินยังไม่พอใช้ และยังเก็บเงินไม่ได้เหมือนเดิม คงต้องแก้ไขปัญหาด้วยการขอสินเชื่อเพิ่มเติม เพื่อให้การหมุนเงินคล่องตัวมากยิ่งขึ้นครับ

เงินไม่พอใช้ สินเชื่อทะเบียนรถ

สินเชื่อทะเบียนรถยนต์​ ตัวช่วยที่ดีให้เงินหมุนต่อได้

สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ เป็นอีกสินเชื่อที่จะทำให้การเงินคล่องตัวมากยิ่งขึ้น เพราะในกรณีที่คุณไม่มีเงินออมเพียงพอจริง ๆ หรือต้องการเงินด่วนเงินก้อนแต่ไม่อยากไปยุ่งกับการออมเงิน ก็สามารถนำทรัยพ์สินที่มีอยู่อย่าง “รถยนต์” มาขอสินเชื่อทะเบียนรถยนต์กับเงินติดล้อได้ โดยข้อดีที่คุณจะได้รับคือ

  • ไม่ต้องโอนเล่มทะเบียน
  • ไม่ต้องมีคนค้ำประกัน
  • ได้วงเงินสูง และได้รับเงินสดทันที
  • ผ่อนจ่ายได้นานสูงสุด 60 เดือน
  • อัตราดอกเบี้ยสูงสุด 24% ต่อปี (ตามกำหนดของธนาคารแห่งประเทศไทย)

การขอสินเชื่อทะเบียนรถยนต์กับเงินติดล้อ หมายถึงว่าคุณไม่ต้องขายรถ ยังมีรถขับเหมือนเดิม ไม่ต้องหาคนค้ำประกันให้ยุ่งยาก เลือกการผ่อนจ่ายให้สัมพันธ์กับเงินในกระเป๋า และได้รับดอกเบี้ยที่เป็นธรรมอีกด้วย

สรุป

คิดจะออมเงินเพื่ออนาคต เพราะไม่อยากตกอยู่ในสถานการณ์เงินไม่พอใช้ ต้องจิตแข็งกับกิเลสตัณหาที่หลอกล่อให้หลวมตัวใช้เงินเก็บนะครับ แต่ก็เข้าใจดีว่าบางอย่างก็เกิดขึ้นอย่างฉุกละหุก เช่น อุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน ดังนั้น เพื่อให้การออมเงินผ่านไปด้วยดี ไม่ต้องนำเงินเก็บมาใช้ หรือต้องการเงินก้อนจริง ๆ คุณสามารถขอสินเชื่อทะเบียนรถยนต์จากเงินติดล้อให้ชีวิตหมุนต่อไปได้ จะไม่กระทบกับการออมเงินแน่นอน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

  • ติดต่อโดยตรงได้ที่เงินติดล้อทุกสาขาใกล้บ้านท่าน
  • Facebook Inbox เงินติดล้อ: facebook.com/messages/t/ngerntidlor
  • โทรเข้า Call Center เงินติดล้อ: 088-088-0880
  • หรือกรอกข้อมูลด้านล่างเพื่อรอการติดต่อกลับจากเจ้าหน้าที่

เราพร้อมบริการคุณตลอด 24 ชั่วโมง!

รถของคุณผ่อนหมดแล้วหรือยัง?
หมายเหตุ ผ่อนรถอยู่ก็ขอกู้ได้ เพียงคุณมีประวัติชำระที่ดี … เงินติดล้อก็รับ
กรุณากรอกชื่อภาษาไทย
กรุณากรอกนามสกุลภาษาไทย
กรุณากรอกเฉพาะตัวเลข

การกดยืนยันข้อมูล แสดงว่าคุณอ่านและรับทราบ นโยบายความเป็นส่วนตัว เรียบร้อยแล้ว กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 14 - 24% ต่อปี

เงินติดล้อ

บทความโดย

เงินติดล้อ

ผู้มุ่งหวังให้สังคมไทยมีสุขภาพทางการเงินที่ดีขึ้น