สมัยก่อนมนุษย์ไหว้ฟ้าดินและบูชาสิ่งเร้นลับเพื่อให้ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข แม้เวลาผ่านไปจะมีเทคโนโลยีเข้ามา แต่ความเชื่อเหล่านี้ยังคงมีอยู่เพราะทำให้ผู้คนที่กราบไหว้รู้สึกอุ่นใจว่ายังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยคุ้มครอง ซึ่งหนึ่งในพิธีกรรมที่ว่าคือ “การเจิมรถใหม่” เป็นความเชื่อที่ส่งต่อกันมาว่าถ้าสวดคาถาเจิมรถใหม่ แปะยันต์เจิมรถ ท่องคาถาไหว้รถ จะทำให้การเดินทางราบรื่น แต่เดี๋ยวก่อนครับ เงินติดล้อไม่ได้จะชักชวนให้คุณคล้อยตามเรื่องความเชื่อแต่อย่างใด แต่ถ้าต้องการที่พึ่งทางใจ การรู้เรื่องเกี่ยวกับการเจิมรถเอาไว้ก็ไม่เสียหาย!
การเจิมรถคืออะไร ซื้อรถมือสอง ต้องเจิมรถด้วยไหม?
การเจิมรถ คือ การทำพิธีต้อนรับรถใหม่เพื่อเพิ่มสิริมงคล หรือไหว้วอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้มาดูแลรักษาทั้งรถยนต์และเจ้าของรถยนต์คันใหม่ มาสิงสถิตอยู่ในยานพาหนะหรือวนเวียนอยู่ข้างกาย จึงจำเป็นต้องท่องคาถาไหว้รถ สวดคาถาเจิมรถพร้อมยันต์เจิมรถใหม่เพื่อให้เกิดพลังอันยิ่งใหญ่ในขณะทำพิธีเจิมรถ
ซื้อรถมือสองต้องเจิมรถด้วยไหม?
รถมือสองคันที่ซื้อต่อมาอาจมีการเจิมรถมาก่อนหน้าแล้ว ยังคงมีความขลังหลงเหลืออยู่ก็จริง แต่ถ้าอยากเจิมรถซ้ำอีกครั้งในฐานะเจ้าของรถคนใหม่ก็สามารถทำได้ เรื่องความเชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้มีกฎตายตัว ว่าห้ามเจิมรถซ้ำครั้งที่สอง ดังนั้น ถ้าทำแล้วจะสบายใจขึ้นก็ทำได้เลย
ซื้อรถใหม่ไม่เจิมรถจะได้หรือเปล่า?
การเจิมรถ ท่องคาถาเจิมรถ หรือสวดคาถาไหว้รถเป็นการเพิ่มสิริมงคลก็จริง แต่ถ้าคนไม่เชื่อเรื่องสิ่งลี้ลับหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพราะคิดว่าเรื่องอุบัติเหตุเกิดขึ้น เช่น ขับรถหลับใน ขับรถชนเสาไฟฟ้า ที่มาจากความประมาท ในกรณีนี้ประกันรถยนต์จะเป็นสิ่งคุ้มครองอุบัติเหตุมากกว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้น ถ้าจะไม่เจิมรถยนต์ก็ไม่มีใครว่าครับ เพราะจะเจิมรถหรือไม่เจิมรถเป็นเรื่องความเชื่อส่วนบุคคลทั้งสิ้น
เจิมรถวัดไหนดีถึงขลัง ต้องเตรียมอะไรบ้างก่อนเริ่มพิธีเจิมรถ
การมีประกันรถยนต์เพื่อคุ้มครองความเสี่ยงเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วครับ แต่ถ้าอยากเพิ่มความอุ่นใจให้มากขึ้นอย่างการเจิมรถยนต์เพื่อเป็นสิริมงคล หรือท่องคาถาไหว้รถเพิ่มความขลังก็ไม่ใช่เรื่องผิด โดยขั้นตอนการเจิมรถยนต์สามารถแบ่งเป็น 2 ขั้นตอนใหญ่ๆ คือ นิมนต์พระให้เจิมรถ กับการเตรียมอุปกรณ์เจิมรถ
ออกรถใหม่ป้ายแดง เจิมรถวัดไหนดี เพื่อเสริมสิริมงคล
จะงานมงคลหรืองานเศร้าสลดต้องมี “พระ” เป็นตัวละครหลักที่ปรากฏอยู่ในเหตุการณ์เสมอ ดังนั้น การเจิมรถต้องไปที่วัด หรือนิมนต์มาที่บ้านก็ได้หากพระท่านไม่ติดกิจของสงฆ์อื่นๆ โดยจุดที่จะเจิมรถยนต์มีทั้งฝากระโปรงหน้ารถ เพดานห้องโดยสารรถ ที่บังแดดของรถ พวงมาลัยรถ ซึ่งจะเจิมรถวัดไหนดีที่เป็นวัดดังๆ คือ
- เจิมรถวัดยานนาวา กรุงเทพ
- เจิมรถวัดสายไหม ปทุมธานี
- เจิมรถวัดหลวงพ่อโสธร ฉะเชิงเทรา
- เจิมรถวัดท่าไม้ สมุทรสาคร
- เจิมรถวัดบางหญ้าแพรก สมุทรสาคร
- เจิมรถวัดไผ่ล้อม นครปฐม
- เจิมรถวัดสว่างอารมณ์ นครปฐม
- เจิมรถวัดหูช้าง นนทบุรี
- เจิมรถวัดป้อมรามัญ อยุธยา
- เจิมรถวัดหนองโพ นครสวรรค์
- เจิมรถวัดช้างไห้ ปัตตานี
- เจิมรถวัดฉลอง ภูเก็ต
- เจิมรถวัดดับภัย เชียงใหม่
ทั้งนี้ ถ้าคุณอยู่จังหวัดไกลๆ ไม่สามารถไปเจิมรถวัดดังได้เหมือนคนอื่น ก็สามารถนิมนต์พระวัดที่นับถือ หรือวัดใกล้ๆ บ้านให้ท่านทำพิธีเจิมรถ ท่องคาถาไหว้รถ หรือสวดคาถาเจิมรถได้เหมือนกัน
เจิมรถต้องเตรียมอะไรบ้าง เจิมรถวันไหนดีให้ศักดิ์สิทธิ์
หลังจากที่นิมนต์หลวงพ่อให้เจิมรถแล้ว ก็ต้องเริ่มเตรียมอุปกรณ์เจิมรถว่าใช้อะไรบ้าง เพื่อให้การเจิมรถยนต์ผ่านไปได้อย่างราบรื่น ซึ่งส่วนมากแล้วพระลูกวัดหรือลูกศิษย์ของหลวงพ่อก็จะแจ้งให้ในเบื้องต้นก่อนจะถึงฤกษ์เจิมรถหรือวันเจิมรถ ซึ่งอุปกรณ์เจิมรถ คือ
- พานใส่ของไหว้ ถ้าไม่มีใช้จานทดแทนกันได้
- เน้นของคู่เป็นหลัก เช่น ธูป 5 คู่ เทียน 5 คู่ และ พวงมาลัยดอกไม้ 1 พวง
- น้ำอบและแป้งดินสอพอง เป็นสิ่งสำคัญมากเพราะใช้เจิมรถยนต์
- แผ่นทองคำเปลว ใช้เจิมคู่กันกับแป้งดินสอพอง
- ซองปัจจัยถวายพระ ไม่มีวงเงินกำหนดแล้วแต่จิตศรัทธา
ฤกษ์ของการเจิมรถสามารถใช้สูตรเดียวกันกับฤกษ์วันออกรถใหม่ได้เลย ซึ่งพระท่านที่ทำหน้าที่เจิมรถยนต์ก็จะเป็นคนดูฤกษ์ยามให้คุณเอง หรือจะใช้ฤกษ์เจิมรถเป็นฤกษ์สะดวก เพราะฤกษ์สะดวกคือวันที่คุณสะดวก ไม่มีอะไรติดค้างคาใจ ไม่มีเรื่องเร่งด่วน ไม่ต้องมีอะไรให้ห่วง พิธีเจิมรถยนต์ก็จะผ่านไปได้ด้วยดี
ชวนท่องคาถาไหว้รถ สวดคาถาเจิมรถ ให้แคล้วคลาดปลอดภัย
คาถาไหว้รถ หรือบทสวดคาถาเจิมรถ เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้การเจิมรถขลังขึ้นไปอีกระดับ ซึ่งพระแต่ละรูปก็จะมีลีลาจังหวะจะโคนในการท่องคาถาไหว้รถหรือสวดคาถาเจิมรถที่ต่างกัน บ้างก็เพิ่มคาถาเมตตามหานิยมเข้าไปด้วยเพื่อเสริมเรื่องความรักความเอ็นดูให้กับรถยนต์คันนั้น แต่เมื่อหลังจากที่พระท่านได้บริกรรมคาถาจนเสร็จพิธีเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของเจ้าของรถแล้วครับที่จะต้องสวดคาถาไหว้รถต่อ ดังนี้
คาถาเจิมรถตอนออกรถใหม่ๆ เพื่อไหว้แม่ย่านางให้คุ้มครอง
แม่ย่านาง เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกกราบไหว้บูชาเพื่อให้มาปกปักรักษาเจ้าของรถ ถูกอัญเชิญมาสิงสถิตในรถเพื่อคุ้มครอง ไม่ว่าจะขับรถไปที่ไหนแม่ย่านางก็จะไปกับคุณในทุกที่ ซึ่งการบริกรรมคาถาไหว้รถใหม่ให้กับแม่ย่านางเป็นการบอกให้แม่ย่านางรู้ ว่ารถคันนี้กำลังจะมีเจ้าของใหม่แล้ว เชิญมาคุ้มครองลูกที และนี่คือนี่คือคาถาไหว้แม่ย่านางรถครับ หรือที่เรียกว่าคาถาพระเจ้า 5 องค์ หรือแม่ธาตุใหญ่
“อิติ สุคะโต อาระหังพุธโท นโมพุทธายะ ปัตถวีคงคา ภุมมะเทวา ขมามิหัง สุจิโต พุทธัง แคล้วคลาด ธรรมมัง แคล้วคลาด สังฆัง แคล้วคลาด”
คาถาไหว้รถแก่แม่ย่านางหลังจากใช้รถไปแล้ว
คาถาไหว้รถแก่แม่ย่านางไม่ใช่ไหว้ทีเดียวแล้วจบไป ตามความเชื่อแม่ย่านางคือผู้ปกปักรักษาผู้ใช้รถ เปรียบเสมือนเป็นญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่งของเรา ดังนั้น ในทุกปีที่มีวันสำคัญ เช่น วันขึ้นปีใหม่ หรือวันสงกรานต์ ควรบริกรรมคาถาไหว้รถแก่แม่ย่านางด้วย หรือจะเลือกในวันที่สะดวกก็ได้ ให้แม่ย่านางรู้ว่ายังระลึกถึงเสมอ
เตรียมของไหว้แม่ย่านาง ก่อนท่องคาถาไหว้รถ
- ธูป 9 ดอก
- ข้าวสวย 1 ถ้วย
- น้ำเปล่า 1 ขวด (ต้องเป็นขวดใหม่)
- หมาก พลู และยาเส้นสีฟัน 3 คำ
- ยาสูบ 3 มวน
- กล้วย 2 หวี
- ผลไม้อีก 4 ชนิดจะเป็นอะไรก็ได้ที่หาได้สะดวกๆ
บริกรรมคาถาไหว้แม่ย่านางรถประจำปี
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)
ต่อด้วย
สุทินนัง วัตถุทานัง อาสะวะ ขะยะวะหัง โหตุ
ทุติยัมปิ สุทินนัง วัตถุทานัง อาสะวะ ขะยาวะหัง โหตุ
ตะติยัม สุทินนัง วัตถุทานัง อาสะวะ ขะยาวะหัง โหตุ
และต่อด้วย
“ขอลูกถวายสิ่งของเหล่านี้แก่แม่ย่านางรถ ขอท่านจงรับซึ่งสิ่งของเหล่านี้เพื่อประโยชน์และความสุขแก่ลูกหลานทั้งหลายเทอญ สาธุ”
สวดคาถาไหว้แม่ย่านางลาของไหว้
นะโม ตัสสั ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (3 จบ)
ต่อด้วย
พุทธังลส ธัมมังลา สังฆังลา ข้าพเจ้าขอลาสิ่งของเหล่านี้เพื่อให้เป็นทานต่อไป เป็นยารักษาโรค อย่าให้เกิดโทษเลย เสสัง มังคะลา ยาจามะ
คุณต้องไปลามาไหว้ต่อท่าน เมื่อสวดคาถาไหว้รถแก่แม่ย่านางประจำปีแล้ว ให้รอจนกว่าธูปจะหมดดอก ค่อยไปสวดคาถาไหว้แม่ย่านางเพื่อลาของไหว้อีกครั้ง เป็นอันเสร็จการไหว้แม่ย่านางประจำปี
ท่องคาถาเจิมรถยนต์ไปแล้วยังต้องซื้อประกันรถยนต์อยู่ไหม
การเจิมรถยนต์ทำเพื่อให้เกิดสิริมงคลแก่ผู้ที่ถอยรถคันใหม่ เป็นการสร้างความขลังให้กับการใช้รถ และสร้างความอุ่นใจให้กับผู้ขับรถ แต่เงินติดล้อต้องบอกตรงๆ ว่า ความเชื่อไม่สามารถตีตราเป็นเม็ดเงินได้ แต่หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจริงๆ ก็มีแต่ประกันรถยนต์ ที่จะชดใช้ค่าเสียหายให้กับคุณและคู่กรณี
เงินติดล้อ ไม่ได้บอกว่าความเชื่อนั้นงมงาย แต่การมีทั้งประกันรถยนต์ที่เอาไว้คุ้มครองในภาคปฏิบัติจริง และการเจิมรถยนต์พร้อมสวดคาถาให้รถยนต์ในภาคทฤษฎี ก็เหมือนเป็นการรวมพลังความแข็งแกร่งเอาไว้ให้ทวีคูณขึ้นไปอีกขั้น ไม่จำเป็นต้องทิ้งสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เพราะการมีประกันรถยนต์ยังจำเป็นเสมอ
สรุป
การเจิมรถยนต์จะยังมีอยู่ไปเรื่อยๆ เพราะเป็นเรื่องความเชื่อส่วนบุคคล โดยพระมีหน้าที่ตอบสนองความต้องการได้แค่พิธีกรรมเจิมรถเท่านั้น เช่น บริกรรมคาถาเจิมรถใหม่ ใส่ยันต์เจิมรถให้เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับผู้ใช้รถ แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ “ประกันรถยนต์” ที่จะเป็นอีกพลังงานด้านบวกคอยสนับสนุนคุณในวันที่คุณเกิดอุบัติเหตุรถชนแล้วต้องใช้สิทธิ์เคลมประกัน หมายความว่าถ้าขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ การเจิมรถยนต์และการซื้อประกันรถยนต์ ควรมีควบคู่กันไปเพราะทั้ง 2 สิ่งต่างทำหน้าที่ของตนเอง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เราพร้อมบริการคุณตลอด 24 ชั่วโมง!