หน้าแรก ติดล้อสตอรี่ เส้นทางแห่งโอกาสที่สร้างเองได้ที่เงินติดล้อ

เส้นทางแห่งโอกาสที่สร้างเองได้ที่เงินติดล้อ

28 มกราคม 2565
เส้นทางแห่งโอกาสที่สร้างเองได้ที่เงินติดล้อ

“ผมคิดว่าค่านิยมเงินติดล้อที่สะท้อนความเป็นตัวผมได้ชัดเจนที่สุดคือ…ความกล้าที่จะลองผิดลองถูก ซึ่งทำให้ผมไม่เคยกลัวที่จะล้มเหลว คือถ้าล้มเหลวก็แค่เรียนรู้จากความล้มเหลวนั้นและเริ่มต้นใหม่ก็เท่านั้นเอง ทำให้ผมพร้อมที่จะเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ ๆ ได้เสมอ”

‘เงินติดล้อ’ เชื่อว่าเส้นทางการเติบโตของคนในองค์กร สามารถสะท้อนถึงค่านิยมองค์กรได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับเส้นทางการเติบโตของ ‘คุณนอร์ธ’ ธีวินท์ จิตรสถาพร ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์ และพัฒนา (Analytics & Development) หรือฝ่าย A&D ของบริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน)

คุณนอร์ธ จบการศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ และใช้เวลาทั้งหมด 13 ปีทำงานในสายวิศวะฯ มาตลอด แต่ด้วยความ ‘กระหายการเรียนรู้’ และ ‘กล้าทดลองสิ่งใหม่’ ที่มีอยู่ในตัวก็สร้างโอกาสให้คุณนอร์ธกล้าที่จะพาตัวเองออกจากกรอบที่เคยอยู่ คือตัดสินใจศึกษาต่อปริญญาโทด้านเศรษฐศาสตร์ธุรกิจ และเปิดโอกาสให้ตัวเองในการเริ่มงานกับเงินติดล้อ ซึ่งทำให้คุณนอร์ธได้รับโอกาสมากมายจนค้นพบศักยภาพของตัวเอง ส่งผลให้เติบโตก้าวหน้าในการทำงาน พร้อมกับมีส่วนร่วมสร้างความเติบโตให้องค์กรเช่นในวันนี้...

โอกาส ‘ค้นพบศักยภาพตนเอง’ จากการได้ทดลองสิ่งใหม่

คุณนอร์ธเล่าย้อนถึงภาพการเริ่มต้นทำงานกับเงินติดล้อเมื่อ 9 ปีก่อนว่า

“ตอนนั้นบริษัทรับผมเข้ามาทำงานขายเชิงรุก เพราะในตอนนั้นบริษัทมีเป้าหมายที่จะขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มโรงงานขนาดย่อม ซึ่งช่วงแรก ๆ ผมต้องปรับตัวและมี Culture Shock จากการเปลี่ยนงานพอสมควร เพราะจากที่เคยทำงานกับบริษัทต่างชาติ และชินกับการใช้ศัพท์วิศวะฯ กับโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ กับลูกค้าต่างชาติ ก็ต้องเปลี่ยนมาเรียนรู้ภาษาไฟแนนซ์เพื่อพูดคุยกับเจ้าของโรงงานขนาดย่อมของคนไทยซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของสินเชื่อรถบรรทุกของเงินติดล้อ เลยทำให้รู้สึกกดดันตัวเอง ทั้งที่ไม่มีใครมากดดัน”

แม้เส้นทางตอนนั้นของคุณนอร์ธจะดูราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นผลงานของทีมงานขายเชิงรุกในการเก็บ Lead สินเชื่อรถบรรทุกที่มีเข้ามาจำนวนไม่น้อย ทั้งยังมีหัวหน้างานและเพื่อนร่วมงานที่ดี แต่คุณนอร์ธกลับรู้สึกว่าสิ่งที่กำลังทำไม่ใช่ตัวตน จนตัดสินใจเตรียมยื่นใบลาออก...

“ช่วงที่ผมตัดสินใจจะลาออก องค์กรก็เกิดการเปลี่ยนแปลงคือ ‘คุณหนุ่ม’ (ปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล) ได้รับการโปรโมทให้ขึ้นมาเป็น MD พอดี ตอนนั้นคุณหนุ่มก็เรียกแต่ละฝ่ายงานมาคุยตัวต่อตัว เพื่อทำความเข้าใจกับสิ่งที่แต่ละทีมทำอยู่ และผมก็เล่าว่าผมเก็บ Lead ด้วยการจดใส่กระดาษ และบันทึกลงในโปรแกรม Excel คุณหนุ่มจึงแนะนำให้ผมศึกษาและลองประสานงานกับทีมงานไอทีร่วมกันออกแบบและสร้าง Lead Management System ที่มีประสิทธิภาพขึ้นมาก่อน เพื่อใช้ในการจัดเก็บข้อมูลลูกค้าอย่างเป็นระบบ ซึ่งน่าจะดีทั้งกับการทำงานของตัวผม ฝ่ายงาน และองค์กรมากกว่า”

คำแนะนำนี้จึงไม่เพียงเป็นจุดเริ่มต้นของโอกาส ที่เปิดทางให้คุณนอร์ธก้าวเข้าสู่โลกของการวิเคราะห์ข้อมูล หากยังเป็นการเริ่มต้นยุคของการเก็บ ‘ข้อมูล’ และการนำข้อมูลมาวิเคราะห์อย่างจริงจังของเงินติดล้อ

โอกาส…เปิดมุมมองให้กว้างไกล และกระชับมิตรภาพให้ใกล้ขึ้น

คุณนอร์ธยังได้รับโอกาสเพื่อเปิดมุมมองให้กว้างขึ้น ผ่านการเดินทางไปศึกษาองค์ความรู้จากองค์กรชั้นนำต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ และที่สำคัญได้เข้าร่วมทีม Warroom ซึ่งเป็นหนึ่งในรูปแบบการทำงานข้ามฝ่ายที่เปิดโอกาสให้ให้คนที่ทำงานต่างฝ่ายได้พูดคุย เข้าใจ และแลกเปลี่ยนความเห็นอย่างตรงไปตรงมาได้ง่ายขึ้น

“คือช่วงแรก ๆ ที่ได้รับมอบหมายงานเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูล ผมอาจจะให้ความสำคัญกับข้อมูลในส่วนที่ฝ่ายของตัวเองเป็นหลัก โดยยังไม่ได้มองไกลไปถึงองค์กร แต่การเข้าไปอยู่ในทีม Warroom ซึ่งเป็นทีมที่เกิดจากการรวมตัวกันชองหัวหน้างานของหลายฝ่ายร่วมกันวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจให้องค์กร ทำให้ได้เรียนรู้และเข้าใจวิธีการทำงานของแต่ละฝ่าย เข้าใจความคิดเห็นของเพื่อนร่วมงาน อีกทั้งผมยังได้พัฒนามุมมองของตัวเองให้รอบด้านมากขึ้นด้วย และทำให้เข้าใจว่าการมองในมุมที่กว้างไกลขึ้นจะสร้างประโยชน์กับองค์กรได้มากขึ้น และช่วยนำพาคนในองค์กรให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืนได้มากกว่า”

เปิดมุมมองให้กว้าง ผ่านการเรียนรู้จากองค์กรชั้นนำ

โอกาส…เสริมเพิ่มทักษะ และส่งต่อความรู้

ค่านิยม ‘กระหายการเรียนรู้’ ที่ตรงกันของคุณนอร์ธและเงินติดล้อ ยังสร้างโอกาสให้คุณนอร์ธได้เดินทางไปเสริมทักษะตัวเองที่ประเทศอเมริกา เพื่อเรียนรู้เรื่อง Lean Six Sigma จนจบระดับ Black Belt หรือ ‘สายดำ’ เพื่อนำความรู้มาประยุกต์ใช้กับการทำงานให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น รวมทั้งยังมีโอกาสนำความรู้ที่เรียนมาถ่ายทอดต่อให้กับคนในองค์กร

“ผมและทีมงาน Lean Six Sigma สอนเรื่อง Lean Six Sigma ให้กับชาวเงินติดล้อมาแล้ว 4 ปี ทุกวันนี้มีคนที่เรียนจบระดับ Yellow Belt แล้วกว่า 400 คน และมีคนที่เรียน Green Belt ภาคทฤษฎีจบไปประมาณ 80 คน นอกจากนี้ยังมีคนที่ทำโปรเจกต์ภาคปฏิบัติจนจบประมาณ 20 คน และอีก 10 คนกำลังทำโปรเจกต์อยู่

ส่วนระดับ Black Belt ตอนนี้ในทีมผมมีอยู่ 4 คน ซึ่งมาช่วยผมเป็นเทรนเนอร์ส่งต่อความรู้ให้ชาวเงินติดล้อที่สนใจและกำลังจะเติบโตขึ้นมาเป็น ‘ผู้นำ’ ในสายงานต่าง ๆ เพื่อให้มีทักษะในการเข้าใจกระบวนการทำงานเดิม วัดผล และวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาสาเหตุของปัญหา และสามารถนำข้อมูลที่ได้มาแก้ไขข้อบกพร่องให้ได้กระบวนการใหม่เพื่อลดการสูญเสียทรัพยากรขององค์กร ตลอดจนควบคุมให้กระบวนการมีเสถียรภาพไปตลอด”

บรรยากาศการเรียน Learn Six Signa

โอกาส…ร่วมสร้างคน เพื่อร่วมสร้างองค์กร

นับตั้งแต่ฝ่าย A&D ได้เกิดขึ้นที่เงินติดล้อ ทั้งคุณนอร์ธและทีมก็ได้รับมอบหมายให้ทำโปรเจกต์ต่าง ๆ ที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งทำให้ทั้งฝ่าย A&D เติบโตขึ้นพร้อม ๆ กับความสำคัญของข้อมูลและจำนวนข้อมูลที่เพิ่มขึ้นทุก ๆ วัน และยังเพิ่มโจทย์ที่ท้าทายให้กับคุณนอร์ธในเรื่องการ ‘สร้างคนและสร้างทีม’ พร้อมกันไปด้วย

“เมื่อก่อนผมทำงานคนเดียวมาตลอด เงินติดล้อเป็นที่แรกที่ให้โอกาสผมมีทีมงาน ซึ่งทำให้ผมเรียนรู้ว่า การทำงานให้ได้ตามความคาดหวังของตัวเองก็ยากแล้ว แต่การทำงานกับทีมยิ่งท้าทายกว่า และที่ท้าทายที่สุดก็คือการผลักดันให้คนในทีมประสบความสำเร็จ และสร้างให้เขาเติบโตจนสามารถเป็นที่ยอมรับจากคนอื่นๆ ได้อีกที”

แต่เพราะเงินติดล้อมีค่านิยมองค์กรซึ่งช่วยคัดกรองคนที่มี DNA เดียวกันให้เข้ามาเป็นชาวเงินติดล้อ และมีวัฒนธรรมองค์กรที่ช่วยหล่อหลอมให้ ‘ชาวเงินติดล้อ’ มีความคิด ความเชื่อและพฤติกรรมเป็นหนึ่งเดียวกัน

‘โอกาส’ ประสบความสำเร็จและเติบโตของคนที่มีค่านิยมเดียวกับองค์กร จึงมีให้คว้าได้ตลอดเส้นทางการทำงานที่เงินติดล้อ

เงินติดล้อ

ติดล้อสตอรี่โดย

เงินติดล้อ

ผู้มุ่งหวังให้สังคมไทยมีสุขภาพทางการเงินที่ดีขึ้น