หน้าแรก บทความ ไลฟ์สไตล์ กินเที่ยว เติมลมยางรถยนต์ เท่าไหร่ดี? เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง

เติมลมยางรถยนต์ เท่าไหร่ดี? เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง

View 138,972 คน
เติมลมยางรถยนต์ เท่าไหร่ดี? เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง
กรุณากรอกชื่อภาษาไทย
กรุณากรอกนามสกุลภาษาไทย
กรุณากรอกเฉพาะตัวเลข
 
 
 
1 ปีที่ผ่านมา คุณเคยซื้อประกันรถยนต์กับเงินติดล้อหรือไม่?

การกดยืนยันข้อมูล ถือว่าคุณอ่านและรับทราบ นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ติดต่อเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัย

ส่วนประกอบสำคัญที่สุดของรถยนต์ก็คือ ยางรถยนต์ เพราะเป็นส่วนที่สัมผัสกับพื้นถนนอยู่ตลอดเวลา หากมีความเสียหายหรือไม่ได้เติมลมยางจนยางแบน อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังทำให้ยางรถเสื่อมสภาพเร็วกว่าเดิมอีกด้วย ซึ่งการเติมลมยางรถยนต์เท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับประเภทของรถ น้ำหนักที่บรรทุก และความเร็วในการขับขี่เป็นสำคัญ

เติมลมยางรถยนต์แต่ละประเภท

เติมลมยางรถยนต์แต่ละประเภท

  • รถยนต์ขนาดเล็ก ควรเติมลมยางประมาณ 25-30 PSI 
  • รถยนต์ขนาดกลาง ควรเติมลมยางประมาณ 30-35 PSI
  • รถกระบะ (ไม่บรรทุก) ควรเติมลมยางประมาณ 35-40 PSI
  • รถตู้ (บรรทุก 7-10 คน) ควรเติมลมยางประมาณ 43-55 PSI
การเติมลมยาง

เติมลมยางควรเติมเท่าไหร่จึงจะดีที่สุด?

สิ่งสำคัญของการเติมลมยางรถยนต์คือ ควรเติมลมยางตามแรงดันที่แนะนำของรถแต่ละประเภท เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อการควบคุมรถ การเบรก ไปจนถึงน้ำมันรถ และหากคุณบรรทุกคนหรือของที่มากขึ้น อาจจะต้องเพิ่มแรงดันลมยางเพื่อชดเชยน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นนั้นด้วยเช่นกัน แนะนำให้สอบถามจากผู้เชี่ยวชาญโดยตรงเพื่อความสบายใจในการขับขี่

แรงดันลมยางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเติมลมยางรถเก๋งนั้น จะอยู่ที่ประมาณ 30-32 PSI (ปอนด์ต่อตารางนิ้ว) สำหรับล้อหน้าและล้อหลัง แต่ถ้าหากต้องบรรทุกน้ำหนักมาก เช่น กรณีที่มีผู้โดยสารเต็มทั้ง 5 ที่นั่ง หรือบรรทุกของด้านหลังจนเต็ม อาจเพิ่มปริมาณการเติมได้ถึง 33-35 PSI เนื่องจากน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น

ส่วนแรงดันลมยางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับรถกระบะนั้น จะค่อนข้างใช้ลมยางที่มากกว่ารถเก๋งโดยสารตามปกติ โดยสำหรับล้อหน้าแรงดันยางจะอยู่ที่ประมาณ 36-38 PSI และล้อหลังที่ 40-42 PSI แต่ถ้าหากบรรทุกของเต็มท้ายรถ ก็สามารถเพิ่มปริมาณการเติมลมเพื่อรองรับน้ำหนักได้มากถึง 47-51 PSI เลยทีเดียว
ในกรณีที่ต้องขับรถระยะทางไกล ควรเพิ่มลมยางอีกประมาณ 3-5 PSI และหากคุณต้องการทราบว่าควรเติมลมยางรถยนต์ในปริมาณเท่าไหร่จะดีที่สุด ก็สามารถทำการตรวจสอบได้ที่มุมของประตูฝั่งคนขับเลยครับ โดยจะมีสติกเกอร์แสดงแรงดันลมที่เหมาะสมแปะเอาไว้ ดังรูปนี้เลยครับ

สติกเกอร์แสดงแรงดันลม

ข้อเสียของการเติมลมยางรถยนต์ไม่ถูกต้อง

อย่างที่ได้กล่าวไปว่าการเติมลมยางนั้นส่งผลเป็นอย่างมากต่อความปลอดภัยบนท้องถนน เรามาดูกันว่าข้อเสียของการเติมลมยางไม่ถูกต้อง หรือมีปริมาณแรงดันในยางที่ไม่ปกตินั้น จะส่งผลอย่างไรต่อการขับขี่บนท้องถนนบ้าง

  • กรณีเติมลมยางน้อยเกินไป

หากคุณเติมลมยางน้อยเกินไป หรือขับไปเรื่อย ๆ จนลมยางเริ่มอ่อนจะส่งผลให้ความเสี่ยงที่ยางจะระเบิดมีมากขึ้น เนื่องจากยางที่อ่อนอาจมีการย้วยหรือผิดรูป ทำให้มีโอกาสเสียดสีกับพื้นถนนได้มากกว่า จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ยางอ่อนมีโอกาสระเบิดมากขึ้น อีกทั้งยังทำให้รถกินน้ำมันมากขึ้นอีกด้วย

  • กรณีเติมลมยางมากเกินไป

หากคุณเติมลมยางมากเกินไป จะทำให้ยางตึงและแข็งกระด้าง ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนของยางจะลดลง เสี่ยงต่ออันตรายที่จะทำให้รถเบรกไม่อยู่หรือลื่นไถลได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันฝนตก อีกทั้งการเติมลมยางมากเกินไปอาจทำให้ยางสึกเร็วขึ้นบริเวณกลางดอกยาง ส่งผลต่ออายุการใช้งานที่สั้นลง เพราะฉะนั้นจึงควรเติมลมยางเอาไว้ให้พอดิบพอดีจะปลอดภัยที่สุดครับ

วิธีสังเกตลมยางรถยนต์ เงินติดล้อสรุปให้!

สามารถสังเกตยางรถยนต์ว่าอ่อนหรือแข็งเกินไปขณะขับรถ หากรู้สึกว่าพวงมาลัยหนักหมายความว่ายางอ่อนหรือเติมลมยางรถยนต์น้อยเกินไป ให้เติมเพิ่มอีกประมาณ 2-3 PSI และหากรู้สึกว่าขับแล้วรถไม่นิ่มโดยเฉพาะตอนเจอกับพื้นถนนที่ไม่เรียบ หมายความว่ายางแข็งหรือเติมลมยางรถยนต์มากเกินไป ให้ลดลงประมาณ 2-3 PSI

ควรเติมยางรถยนต์บ่อยแค่ไหน?

สำหรับคำถามที่ว่า “ควรเติมยางรถยนต์บ่อยแค่ไหน?” นั้น ไม่สามารถระบุระยะเวลาแน่นอนได้ว่าควรต้องเติมบ่อยแค่ไหน เนื่องจากขึ้นอยู่กับปริมาณการขับขี่ของเจ้าของรถยนต์

แต่โดยปกติแล้ว แรงดันยางจะลดลงเฉลี่ย 2-3 PSI ใน 1 เดือน เพราะฉะนั้นเจ้าของรถจึงควรทำการตรวจสอบปริมาณของแรงดันยางเฉลี่ยเดือนละครั้ง หรือ 2 เดือนครั้งหากไม่ได้ทำการขับขี่บ่อย ๆ

ลมยางรถยนต์

สรุป ควนเติมลมยางรถยนต์เท่าไหร่ดี?

การเติมลมยางรถยนต์นั้นถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาดสำหรับการขับขี่รถยนต์ การมีปริมาณแรงดันในยางที่เหมาะสมนั้นนอกจากจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยแล้ว ยังช่วยรักษาคุณภาพยางให้อยู่ได้นาน ๆ อีกด้วย เงินติดล้ออยากให้ทุกคนใส่ใจดูแลเรื่องยางให้ดี ๆ เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนในอนาคตนะครับ

อย่างไรก็ตาม นอกจากใส่ใจกับยางรถยนต์เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่แล้ว เพิ่มความสบายใจให้กับการใช้รถใช้ถนนได้มากยิ่งขึ้นด้วยประกันรถยนต์ที่จะช่วยดูแลคุณไม่ว่าจะเป็น ประกันรถชั้น 1 ประกันชั้น 2+ หรือ ประกันชั้น 3+

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

  • ติดต่อโดยตรงได้ที่เงินติดล้อทุกสาขาใกล้บ้านท่าน
  • Facebook Inbox เงินติดล้อ: facebook.com/messages/t/ngerntidlor
  • โทรเข้า Call Center เงินติดล้อ: 088-088-0880
  • หรือกรอกข้อมูลด้านล่างเพื่อรอการติดต่อกลับจากเจ้าหน้าที่

เราพร้อมบริการคุณตลอด 24 ชั่วโมง!

ขอบคุณข้อมูลจาก : ปตท.

กรุณากรอกชื่อภาษาไทย
กรุณากรอกนามสกุลภาษาไทย
กรุณากรอกเฉพาะตัวเลข
 
 
 
1 ปีที่ผ่านมา คุณเคยซื้อประกันรถยนต์กับเงินติดล้อหรือไม่?

การกดยืนยันข้อมูล ถือว่าคุณอ่านและรับทราบ นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ติดต่อเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัย

เงินติดล้อ

บทความโดย

เงินติดล้อ

ผู้มุ่งหวังให้สังคมไทยมีสุขภาพทางเงินที่ดีขึ้น