ตอบทุกข้อสงสัยการทำพาสปอร์ต จองคิวต่อพาสปอร์ตออนไลน์ 2567

หนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ต ถือเป็นข้อบังคับทางกฎหมายสำหรับทุกคนที่ต้องเดินทางระหว่างประเทศ หากไม่มีพาสปอร์ตจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้า หรือออกจากประเทศนั้นๆ ดังนั้น ก่อนเดินทางไปต่างประเทศ เตรียมตัวก่อนขึ้นเครื่องบินให้เรียบร้อย เช็กพาสปอร์ตของคุณให้ดีว่าหมดอายุหรือยัง แต่ทางที่ดีอย่าปล่อยให้พาสปอร์ตหมดอายุแล้วค่อยไปต่อ คุณสามารถต่อพาสปอร์ตก่อนหมดอายุกี่เดือนก็ได้โดยไม่มีข้อจำกัดใด ๆ เงินติดล้อจะมาตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับการต่อพาสปอร์ต พร้อมแนะนำขั้นตอนการจองคิวต่อพาสปอร์ตออนไลน์ที่สะดวกสุด ๆ

ต่ออายุพาสปอร์ตออนไลน์ได้หรือไม่?

การทำหรือการต่อพาสปอร์ตไม่สามารถทำทุกขั้นตอนผ่านช่องทางออนไลน์ได้ แต่คุณสามารถจองคิวต่ออายุพาสปอร์ตออนไลน์ได้เท่านั้น โดยจองคิวออนไลน์ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 30 วัน ถือเป็นช่องทางที่ช่วยอำนวยความสะดวกและประหยัดเวลาให้กับประชาชนได้เป็นอย่างมาก การทําพาสปอร์ตกี่วันได้เล่มจริงจะขึ้นอยู่กับสถานที่รับ หากเป็นกรุงเทพฯ และปริมณฑลจะจัดส่งทางไปรษณีย์ 2-3 วันทำการ ต่างจังหวัดจะจัดส่งทางไปรษณีย์ 3-5 วันทำการ และถ้าเป็นแบบด่วนพิเศษสามารถรับเล่มภายในวันนั้นเลย

พาสปอร์ตหมดอายุต่อที่ไหนได้บ้าง

สำนักงานที่เปิดให้บริการทำหนังสือเดินทางในกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีอยู่ 8 แห่ง โดยสำนักงานหนังสือเดินทางสาขาปทุมวัน (MBK Center ชั้น 5 โซน A) และสาขาบางใหญ่ (เซ็นทรัล เวสต์เกต) จะเปิดให้บริการทุกวันจันทร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10:00 - 17:45 

1. กรมการกงสุล (จันทร์-ศุกร์ 08:30 - 16:15)
2. มีนบุรี หรือ บิ๊กซีสุวินทวงศ์ (จันทร์-ศุกร์ 08:30 - 16:15)
3. MRT คลองเตย (จันทร์-ศุกร์ 08:30 - 16:15)
4. ธัญญาพาร์ค โซน C ชั้น 1 (ศรีนครินทร์) (จันทร์-ศุกร์ 08:30 - 16:15)
5. สายใต้ใหม่ – ตลิ่งชัน หรือ SC Plaza สถานีขนส่งกรุงเทพ (จันทร์-ศุกร์ 08:30 - 16:15)
6. ธัญบุรี หรือ ห้างฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ชั้น 3 (จันทร์-ศุกร์ 10:00 - 17:45)
7. ปทุมวัน หรือ MBK Center ชั้น 5 โซน A (จันทร์-อาทิตย์ 10:00 - 17:45) 
8. บางใหญ่ หรือ เซ็นทรัล เวสต์เกต (จันทร์-อาทิตย์ 10:00 - 17:45)

วิธีจองคิวต่อพาสปอร์ตออนไลน์

1. จองคิวต่อพาสปอร์ตออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของกรมการกงสุล www.qpassport.in.th
2. กดจองคิว
3. เลือกพื้นที่ที่ต้องการเข้าไปรับบริการ กดเลือกประเทศไทย
4. กดยินยอมเงื่อนไขการให้บริการ
5. กรอกข้อมูลบุคคลตามบัตรประชาชน และที่อยู่ปัจจุบันที่สามารถติดต่อได้
6. เลือกสำนักงานหนังสือเดินทางที่ต้องการเข้าไปใช้บริการ
7. เลือกลักษณะการจอง จองคิวสำหรับตนเองหรือจองคิวเป็นกลุ่ม 
8. เลือกวันที่ต้องการเข้าไปใช้บริการ จากนั้นระบบจะทำการตรวจสอบว่าวันที่คุณเลือกไปนั้น แต่ละช่วงเวลาเหลือคิวว่างอยู่อีกกี่คิว 
9. กดยืนยันการจองคิวต่อพาสปอร์ตออนไลน์
10. เลือกวิธีรับเล่มพาสปอร์ตตัวจริงว่าต้องการรับทางไปรษณีย์ หรือเดินทางมารับด้วยตัวเอง

เอกสารที่ต้องใช้ทำพาสปอร์ต

กรณีอายุ 20 ปีขึ้นไป

• บัตรประชาชนตัวจริง 
• พาสปอร์ตเล่มเก่า (ถ้ามี)
• ใบแจ้งความฉบับจริง (กรณีพาสปอร์ตหาย)

กรณีอายุต่ำกว่า 20 ปี (กรณีบิดา-มารดาอยู่ด้วยกัน)

• สูติบัตรตัวจริง
• บัตรประชาชนตัวจริง (อายุ 7 ปีขึ้นไป)
• พาสปอร์ตเล่มเก่า (ถ้ามี)
• บัตรประชาชนตัวจริงของบิดา-มารดา
• เอกสารแสดงความเกี่ยวพัน และอำนาจปกครองบุตร

กรณีอายุต่ำกว่า 20 ปี (กรณีบิดา-มารดาหย่าร้าง)

• สูติบัตรตัวจริง
• บัตรประชาชนตัวจริง (อายุ 7 ปีขึ้นไป)
• พาสปอร์ตเล่มเก่า (ถ้ามี)
• บัตรประชาชนตัวจริงของบิดา-มารดา ผู้ที่มีอำนาจปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียว
• เอกสารแสดงความเกี่ยวพัน และอำนาจปกครองบุตร
• ทะเบียนหย่าและบันทึกการหย่าที่ระบุว่าผู้ใดมีอำนาจปกครองบุตร

*สำหรับเอกสารที่ต้องใช้ทำพาสปอร์ตกรณีอายุต่ำกว่า 20 ปี (ยังไม่บรรลุนิติภาวะ) ยังมีอีกหลายกรณี สามารถดูรายละเอียดต่อได้ที่ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ

ค่าธรรมเนียมทำพาสปอร์ต

• ค่าธรรมเนียมพาสปอร์ตแบบ 5 ปี = 1,000 บาท 
• ค่าธรรมเนียมพาสปอร์ตแบบ 10 ปี = 1,500 บาท 
• ค่าธรรมเนียมพาสปอร์ตแบบด่วนพิเศษ (รับเล่มในวันเดียวกัน) = 3,000 บาท

ต้องทําพาสปอร์ตก่อนเดินทางกี่วัน

ก่อนเดินทางไปต่างประเทศอายุพาสปอร์ตของคุณต้องเหลืออย่างน้อย 6 เดือนก่อนออกเดินทาง ถ้าอายุพาสปอร์ตเหลือน้อยกว่า 6 เดือนแนะนำให้ไปต่อพาสปอร์ตใหม่ โดยคุณสามารถต่อพาสปอร์ตก่อนหมดอายุกี่เดือนก็ได้โดยไม่มีข้อจำกัดใด ๆ เพื่อให้คุณสามารถเดินทางเข้าออกประเทศต่าง ๆ ได้อย่างราบรื่นมากที่สุด

เนื่องจากแต่ละประเทศอาจมีข้อบังคับที่แตกต่างกันออกไปได้ บางประเทศกำหนดให้พาสปอร์ตต้องมีอายุ 6 เดือนนับจากวันที่เดินทางเข้าประเทศ หรือบางประเทศอาจกำหนดให้มีอายุอย่างน้อย 3 เดือน ดังนั้น เพื่อความสบายใจเราแนะนำให้ต่อใหม่ หากอายุพาสปอร์ตเหลือประมาณ 6-7 เดือน

สรุป การจองคิวต่อพาสปอร์ตออนไลน์

พาสปอร์ต ถือเป็นเอกสารที่ใช้ยืนยันตัวตนและได้รับการยอมรับทั่วโลก นอกจากจะมีข้อมูลสำคัญอย่างรูปถ่าย วันเกิด สัญชาติ และหมายเลขประจำตัวของแต่ละคน ปัจจุบันยังมีข้อมูลไบโอเมตริกซ์อย่างลายนิ้วมือ หรือข้อมูลการจดจำใบหน้าอีกด้วย และที่สำคัญถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นระหว่างที่คุณอยู่ต่างประเทศ พาสปอร์ตจะช่วยให้คุณได้รับความช่วยเหลือและได้รับความคุ้มครองจากสถานทูตหรือสถานกงสุลของไทยประจำประเทศนั้น ๆ อีกด้วย การเดินทางไปต่างประเทศมีเรื่องให้ต้องวางแผน และเตรียมตัวมากมาย นอกจากเรื่องพาสปอร์ตแล้ว อย่าลืมวางแผนเรื่องประกันการเดินทางต่างประเทศ เพิ่มความสบายใจตลอดทริป และเตรียมเงินที่จำเป็นต้องใช้ให้ดีด้วยนะครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก: กรมการกงสุล กระทรวงต่างประเทศ