กู้เงินกับบัตรกดเงินสด ต้องรู้อะไรก่อนตัดสินใจสมัครบ้าง?

พกบัตรใบเดียว เบิกถอนเงินสดได้ทันทีเน้นได้เงินสดมาถือในมือ ไม่ต้องพกเงินสดติดกระเป๋าเป็นจำนวนมากให้หนักใจ อยากได้อะไรที่สะดวกสบาย ใช้ง่าย สินเชื่อบัตรกดเงินสด อาจเป็นหนึ่งในสิ่งที่คุณตามหา

นอกจากเรื่องความสะดวกสบาย บัตรกดเงินสดเงินติดล้อยังเป็นแหล่งกู้เงินด่วนที่ปลอดภัยและถูกกฎหมาย ซึ่งบัตรกดเงินสดส่วนใหญ่มักมาพร้อมสิทธิประโยชน์และบริการพิเศษต่าง ๆ ที่หากวางแผนใช้งานอย่างเหมาะสม ก็จะทำให้คุณใช้บัตรได้อย่างคุ้มค่า แต่หากใช้อย่างผิดวิธีหรือไม่วางแผนการใช้บัตรให้ดี ๆ ก็จะทำให้กลายเป็นปัญหาในอนาคตได้เช่นกัน ดังนั้นก่อนสมัครบัตรกดเงินสด ควรทำความเข้าใจสิ่งเหล่านี้ก่อนเสมอ

5 ข้อควรรู้ก่อนสมัครบัตรกดเงินสด

บัตรกดเงินสดถือเป็นสินเชื่อประเภทหนึ่งของสินเชื่อส่วนบุคคล (Personal Loan) เป็นการกู้เงินในอนาคตมาใช้ เพราะฉะนั้นเมื่อกดเงินออกมาผู้ให้บริการสินเชื่อก็จะเริ่มคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่ทำรายการทันที ดังนั้น ต้องทำความเข้าใจให้ดี ๆ ว่าคุณพร้อมจะใช้บัตรกดเงินสดแล้วหรือไม่?

1. บัตรกดเงินสดและบัตรเครดิตไม่เหมือนกัน

หลายท่านอาจมีความสับสนระหว่างสองสิ่งนี้ แม้จะมีหลักการทำงานคล้ายกัน แต่แท้จริงแล้วทั้งบัตรกดเงินสดและบัตรเครดิตกลับมีความแตกต่างกันอย่างมาก เนื่องจากจุดประสงค์หลักของบัตรกดเงินสดคือการ “กดเงิน” ออกมาใช้ คล้ายกับการขอสินเชื่อเงินสด โดยไม่ต้องมีเงินในบัญชี หรือทรัพย์สินใดๆ เพื่อเป็นหลักประกัน

ซึ่งบัตรกดเงินสดส่วนใหญ่จะสามารถถอนเงินออกมาในวงเงินที่มากกว่าบัตรเครดิต บางครั้งเมื่อมีเหตุให้ต้องใช้เงิน ต้องการยืมเงินฉุกเฉินแบบเร่งด่วน บัตรกดเงินสดจึงตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้มากกว่า เพราะสามารถกดเงินออกมาได้ทันทีแม้ไม่มีเงินในบัญชีก็ตาม

บัตรเครดิต มีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มความสะดวกให้ผู้ถือบัตร ไม่จำเป็นต้องพกหรือเบิกเงินสดออกมา แต่จะใช้การตัดวงเงินในบัตรสำหรับการรูดซื้อสินค้าและบริการ โดยแต่ละคนจะได้วงเงินบัตรเครดิตแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับฐานรายได้และประวัติเครดิตบูโร หลายคนอาจสงสัยว่า บัตรเครดิตสามารถกดเงินสดได้ไหม? คำตอบคือ “ได้” เช่นกัน

2. วงเงิน ดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียม

สำหรับวงเงินบัตรกดเงินสดโดยทั่วไปจะให้วงเงินสูงสุด 5 เท่าของเงินเดือน หรือตามที่สถาบันการเงินนั้น ๆ ระบุเอาไว้โดยไม่จำเป็นต้องมีเงินฝากในธนาคาร หากคุณได้รับอนุมัติวงเงินบัตรกดเงินสดสูง ก็อย่าเพิ่งดีใจจนเกินไปหรือกดใช้กันอย่างเพลิดเพลิน เพราะคุณจำเป็นต้องวางแผนการใช้บัตรกดเงินสดให้ดี ๆ ทั้งการคำนวณดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมบัตร

ดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดจะมีอัตราสูงสุดไม่เกิน 28% ต่อปี โดยเริ่มคิดดอกเบี้ยตั้งแต่กดเงินสดครั้งแรก ซึ่งดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมเหล่านั้นจะมีอัตราที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสถาบันการเงินหรือผู้ให้บริการสินเชื่อแต่ละเจ้า บางครั้งอาจมีการโฆษณาว่าฟรี ค่าธรรมเนียม แต่ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้อาจแฝงอยู่ในบริการรูปแบบอื่น ดังนั้นต้องคำนวณค่าใช้จ่ายโดยรวมให้ดีด้วย

3. ทำได้มากกว่าการกดเงิน

นอกจากการกดเงินสดออกมาใช้แล้ว อาจพิจารณาเพิ่มเติมว่าบัตรกดเงินสดใบนั้นสามารถนำไปใช้บริการในด้านอื่น ๆ ได้ด้วยหรือไม่ เช่น บริการสั่งสินค้าออนไลน์ เพิ่มวงเงินในการใช้จ่าย หรือการใช้บัตรกดเงินสดเพื่อชำระค่าบริการสาธารณูปโภคต่าง ๆ ทั้งนี้การใช้งานอื่น ๆ ของสินเชื่อบัตรกดเงินสดจะขึ้นอยู่กับโปรโมชันของสถาบันการเงินหรือผู้ให้บริการสินเชื่อแต่ละเจ้า ศึกษารายละเอียดและวางแผนการเงินให้ดีเพื่อความคุ้มค่าในการใช้บัตร

4. เงื่อนไข สิทธิประโยชน์

สถาบันการเงินหรือผู้ให้บริการสินเชื่อแต่ละเจ้า จะมีบัตรกดเงินสดหลากหลายประเภทให้คุณเลือกใช้บริการ โดยส่วนมากจะนำเสนอสิทธิประโยชน์เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย เช่น ผ่อน 0% สูงสุด 12 เดือน เงื่อนไขเกี่ยวกับระยะเวลาการผ่อนชำระ หรือวงเงินอนุมัติ แนะนำให้พิจารณาเงื่อนไข สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของบัตรแต่ละประเภทให้ตอบโจทย์ความต้องการในการใช้งาน เพื่อให้คุณได้รับความคุ้มค่ามากที่สุด สำหรับสิทธิประโยชน์ของบัตรกดเงินสดหลายเจ้ามักให้เวลาผ่อนชำระมากกว่าบัตรเครดิต ทำให้โดยรวมแล้วผู้ใช้บัตรกดเงินสดเสียเงินต่องวดน้อยกว่า แต่การเสียดอกเบี้ยอาจจะมากกว่าการใช้บัตรเครดิตได้

5. ความพร้อมในการชำระหนี้

ไม่ว่าจะเป็นบัตรกดเงินสด บัตรเครดิต หรือสินเชื่อประเภทใดก็ตาม ต่างก็มอบความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต การทำธุรกิจ และช่วยให้มีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีขึ้น ดังนั้น อย่าลืมพิจารณาความพร้อมของตัวคุณเอง ว่ามีความพร้อมในการชำระหนี้คืนด้วยหรือไม่ สามารถบริหารจัดการหนี้ต่าง ๆ เหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ หรือควรมีวิธีปลดหนี้ให้เร็วที่สุดก็จะทำให้คุณไม่ต้องเผชิญกับปัญหาทางการเงินในอนาคต

1. มีความสามารถในการชำระหนี้ พิจารณาตัวเองก่อนว่าคุณมีความพร้อมในการชำระหนี้มากน้อยแค่ไหน เนื่องจากดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดนั้นสูงถึง 28% ทำให้ผู้ที่ต้องการสมัครบัตรกดเงินสด ควรเช็คสภาพคล่องทางการเงินก่อน ว่าในแต่ละเดือนรายรับรายจ่ายของคุณอยู่ที่เท่าไหร่ หลังจากชำระแล้วมีเงินเหลือออมหรือไม่

   ทางที่ดีหลังชำระทุกอย่างรวมถึงหนี้บัตรแล้ว ควรเหลือเงินออมอย่างน้อย 20% ของรายรับแต่ละเดือน เพื่อเป็นเงินออมฉุกเฉิน ในยามที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินมากกว่าปกติ

2. ต้องการกู้เงินด้วยบัตรกดเงินสดจริงๆ หรือเปล่า

   มีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน ดังที่เกริ่นไว้ว่าบัตรกดเงินสดต้องมีการจ่ายดอกเบี้ยสูงในระดับหนึ่ง ดังนั้นต้องพินิจพิจารณาว่า คุณจำต้องใช้บัตรกดเงินสดหรือไม่ และใช้เป็นไปในทิศทางใด เป็นการชดใช้หนี้สินหรือว่าต่อยอดการลงทุน สามารถชำระเงินสดในแต่ละงวดได้หรือไม่ คาดว่าจะมีการใช้งานบัตรบ่อยขนาดไหน

   เพราะยิ่งคุณรูดชำระหรือใช้งานบัตรมากแค่ไหน ดอกเบี้ยที่ต้องแบกรับก็สูงตามไปเท่านั่น ถ้าคุณสามารถรับจำนวนดอกเบี้ยในส่วนนี้ได้แล้วคิดว่าไม่ส่งผลกระทบต่อตัวเอง การมีบัตรเงินสดติดตัวอาจเป็นเรื่องดีก็ได้

3. มีการวางแผนการใช้เงินในแต่ละเดือน

   หากคุณใช้เป็นและใช้ได้อย่างฉลาด ก็จะหมดปัญหาทางการเงิน ลองคิดคำนวณแบบง่ายๆ ว่าหากได้บัตรกดเงินสด คุณจะกดเงินออกมาใช้เดือนละเท่าไหร่ มากน้อยแค่ไหน หรือจะกดจนสุดวงเงินแล้วค่อยๆ ผ่อนไปเรื่อยๆ เสียดอกเบี้ยไปแบบไม่คิดอะไร ไม่มีการจัดสรรปันส่วนการใช้เงิน จนทำให้เกิดเป็นปัญหาหนี้สิน

   หากคำนึงถึงการจัดการเงินแบบมีคุณภาพ ไม่ใช้เงินเกินตัวจนกลายเป็นการสร้างภาระให้กับตัวเอง บัตรกดเงินสดก็จะเป็นอีกเครื่องมือในการจัดการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สรุป ทำไมต้องบัตรกดเงินสดเงินติดล้อ

บัตรกดเงินสดเงินติดล้อ หรือบัตรเงินติดล้อเป็นบัตรที่มาพร้อมกับสินเชื่อทะเบียนรถทุกประเภทของเงินติดล้อ ช่วยลดขั้นตอนการยื่นเอกสารขอสินเชื่อใหม่ ให้คุณมีบัตรกดเงินสดพกติดตัวไว้ตลอดเวลา ต้องการใช้เงินฉุกเฉินเมื่อไหร่ก็สามารถกดเงินได้ด้วยตัวเองที่ตู้ ATM ของธนาคารพาณิชย์ชั้นนำทั่วประเทศ

และอย่าลืมว่าบัตรกดเงิน บัตรเครดิต เป็นการยืมเงินในอนาคตของเราเองมาใช้ก่อน ไม่ว่าอย่างไรคุณก็จะต้องชำระเงินจำนวนนั้นคืนอยู่ดี ดังนั้น ต้องวางแผนการใช้บัตรต่าง ๆ เหล่านั้นอย่างรอบคอบ อาจเริ่มต้นพิจารณาจาก 5 ข้อที่เงินติดล้อได้แนะนำไปข้างต้น เพื่อให้คุณใช้บัตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่กลายเป็นภาระชีวิตในอนาคตนะครับ