ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง (Buy Now Pay Later) คืออะไร ควรรู้อะไรบ้าง

ในยุคที่เทรนด์การชำระเงินออนไลน์เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บริการซื้อก่อนจ่ายทีหลัง” หรือที่เรียกกันติดปากว่า Buy Now Pay Later (BNPL) ได้กลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจและมาแรงสุดๆ สำหรับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความคล่องตัวในการใช้จ่าย แต่ถึงแม้จะสะดวกสบายแค่ไหน ก็มีรายละเอียดและข้อควรระวังที่ต้องทำความเข้าใจให้ดีก่อนตัดสินใจใช้บริการครับ เงินติดล้อจึงได้รวบรวมข้อมูลสำคัญทั้งหมดมาให้แล้วในบทความนี้

ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง (Buy Now Pay Later) คืออะไร

บริการซื้อก่อนจ่ายทีหลัง หรือ BNPL (Buy Now Pay Later) คือ รูปแบบการชำระเงินที่เปิดโอกาสให้เราสามารถซื้อสินค้าหรือบริการที่ต้องการได้ทันที โดยยังไม่ต้องชำระเงินเต็มจำนวนในครั้งเดียว แต่สามารถแบ่งชำระเป็นงวดๆ ในภายหลังได้ ส่วนใหญ่มักจะเป็นการผ่อนชำระระยะสั้นๆ เช่น 3-4 เดือน โดยมีจุดเด่นคือมักจะไม่มีดอกเบี้ยหากชำระคืนครบถ้วนและตรงตามกำหนดเวลา ถือเป็นบริการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การช้อปก่อนจ่ายทีหลังในยุคดิจิทัลและสามารถเข้าถึงบริการได้ทุกคน 

ข้อดีของบริการ ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง (BNPL)

ใช้ก่อนจ่ายทีหลัง ถือเป็นบริการที่ให้ความสะดวกในการใช้จ่ายสำหรับทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ไม่มีบัตรเครดิต โดยบริการซื้อก่อนจ่ายทีหลังมีข้อดีดังนี้

สมัครอนุมัติง่ายและเร็วกว่าบัตรเครดิต 

ขั้นตอนการสมัครไม่ซับซ้อน ส่วนใหญ่ทำผ่านแอปพลิเคชันโดยใช้เอกสารเพียงไม่กี่อย่าง เช่น บัตรประชาชน และไม่ต้องใช้สลิปเงินเดือนหรือรายการเดินบัญชีเหมือนบัตรเครดิต ทำให้ขั้นตอนการอนุมัติรวดเร็วมากขึ้น บางครั้งทราบผลแทบจะในทันที เหมาะสำหรับผู้ที่อาจจะยังไม่มีรายได้ประจำหรือฟรีแลนซ์ที่เข้าไม่ถึงบริการบัตรเครดิต

ช่วยให้ซื้อของที่ต้องการได้ทันที แม้เงินสดยังไม่พร้อม 

เคยไหมครับที่เจอของที่จำเป็นต้องใช้ด่วนๆ หรือโปรโมชันลดราคาแบบจำกัดเวลา แต่เงินสดในมือยังไม่พอ บริการนี้จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ทำให้เราไม่พลาดโอกาสสำคัญ สามารถซื้อสินค้าชิ้นนั้นได้เลยทันที แล้วค่อยวางแผนบริหารจัดการเงินเพื่อชำระคืนในงวดถัดไป ช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินได้เป็นอย่างดี

แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ให้เป็นยอดเล็กๆ 

สำหรับสินค้าที่มีราคาสูง เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ หรือเฟอร์นิเจอร์ การต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่ในครั้งเดียวอาจกระทบกับสภาพคล่องได้ บริการซื้อก่อนจ่ายทีหลังจะช่วยแบ่งภาระค่าใช้จ่ายก้อนโตนั้นให้กลายเป็นยอดผ่อนชำระเล็กๆ ที่สามารถจัดการได้ง่ายขึ้น ทำให้การวางแผนการเงินในแต่ละเดือนไม่ตึงเครียดจนเกินไป

ไม่มีดอกเบี้ย หากชำระคืนตรงเวลา 

อีกจุดเด่นของบริการซื้อก่อนจ่ายทีหลังคือ การผ่อนสินค้า 0% หรือปลอดดอกเบี้ย แต่สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้เสมอคือ เงื่อนไขนี้จะมีผลก็ต่อเมื่อเราชำระหนี้คืนครบถ้วนและตรงตามเวลาที่กำหนดเท่านั้น หากผิดนัดชำระแม้แต่งวดเดียว อาจต้องเจอกับดอกเบี้ยและค่าปรับในอัตราที่สูงได้ครับ

ข้อจำกัดและข้อควรระวังของการซื้อก่อนจ่ายทีหลัง (BNPL)

เมื่อมีข้อดีแล้ว ก็ย่อมมีข้อจำกัดและข้อควรระวังที่ต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพื่อให้การใช้บริการซื้อก่อนจ่ายทีหลังไม่สร้างปัญหาหนี้สินให้เราในอนาคตครับ

ความเสี่ยงในการสร้างหนี้โดยไม่รู้ตัว 

เพราะความสะดวกสบาย สมัครง่าย ใช้วงเงินได้ทันที อาจทำให้หลายคนเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งจนลืมตัว เผลอใช้จ่ายเกินความสามารถในการชำระคืนได้ง่ายๆ การมีหลายยอดผ่อนจากหลายผู้ให้บริการในเวลาเดียวกัน อาจนำไปสู่การเป็นหนี้ก้อนโตโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นจึงต้องมีวินัยในการใช้จ่ายอย่างสูง

อัตราดอกเบี้ยและค่าปรับที่สูงหากผิดนัดชำระ 

อย่างที่เน้นย้ำไปก่อนหน้า หากคุณไม่สามารถชำระคืนได้ตามกำหนดเวลา ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมในการทวงถามหนี้จะถูกคิดในอัตราที่ค่อนข้างสูง ซึ่งอาจสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยของบัตรเครดิตเสียอีก จากข้อดีที่ปลอดดอกเบี้ย อาจกลายเป็นภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้ทันที

อาจไม่สามารถใช้ได้กับทุกร้านค้า

บริการซื้อก่อนจ่ายทีหลังไม่สามารถใช้ได้กับทุกร้านค้าทั่วไปเหมือนบัตรเครดิต แต่จะจำกัดอยู่เฉพาะร้านค้าหรือแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการนั้นๆ เท่านั้น ก่อนจะตัดสินใจซื้อสินค้า ควรตรวจสอบก่อนว่าร้านค้านั้นๆ รองรับบริการซื้อก่อนจ่ายทีหลัง หรือ Buy Now Pay Later ที่คุณต้องการใช้หรือไม่ เพื่อไม่ให้เสียเวลาครับ

วงเงินที่ได้อาจไม่สูงเท่าบัตรเครดิต 

โดยทั่วไปแล้ว วงเงินที่อนุมัติจากบริการซื้อก่อนจ่ายทีหลังมักจะไม่สูงมากนัก และอาจได้วงเงินเริ่มต้นที่ไม่เพียงพอสำหรับสินค้าที่มีราคาสูงมากๆ ซึ่งแตกต่างจากบัตรเครดิตที่มักจะให้วงเงินสูงกว่า โดยพิจารณาจากฐานรายได้และประวัติทางการเงินของผู้สมัครเป็นหลัก

ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง (BNPL) ต่างจากการผ่อนบัตรเครดิตยังไง

หลายคนอาจสงสัยว่า แล้วบริการซื้อก่อนจ่ายทีหลังแตกต่างจากการผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิตที่เราคุ้นเคยกันยังไง? เราได้สรุปประเด็นสำคัญๆ มาให้เห็นภาพชัดขึ้นครับ

การสมัคร ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง

สมัครง่ายผ่านแอปพลิเคชัน ใช้เอกสารน้อยมาก ส่วนใหญ่แค่บัตรประชาชนใบเดียว ไม่ต้องยื่นเอกสารแสดงรายได้ ทำให้เข้าถึงง่ายกว่ามาก ในขณะที่บัตรเครดิตต้องยื่นเอกสารหลายอย่าง เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน เอกสารแสดงรายได้ (สลิปเงินเดือน, หนังสือรับรองเงินเดือน) และรายการเดินบัญชีย้อนหลัง

การอนุมัติ ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง

อนุมัติรวดเร็วมาก บางครั้งใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที ทำให้สามารถใช้งานได้เกือบทันทีหลังสมัคร ส่วนบัตรเครดิตใช้ระยะเวลาในการพิจารณาอนุมัตินานกว่า อาจใช้เวลาตั้งแต่ 7-14 วันทำการ หรือนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละสถาบันการเงิน

วงเงิน ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง

โดยทั่วไปให้วงเงินเริ่มต้นไม่สูงมากนัก และวงเงินอาจปรับเปลี่ยนตามประวัติการใช้งานและการชำระเงิน ส่วนบัตรเครดิตมักจะให้วงเงินที่สูงกว่า โดยพิจารณาจากฐานรายได้และภาระหนี้สินของผู้สมัคร ซึ่งอาจสูงถึง 5 เท่าของรายได้

อัตราดอกเบี้ย ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง

จุดเด่นคือผ่อน 0% ในระยะเวลาสั้นๆ ที่กำหนด แต่หากผิดนัดจะมีค่าปรับและดอกเบี้ยที่สูง โดยที่บัตรเครดิตก็มีโปรโมชันผ่อน 0% กับร้านค้าที่ร่วมรายการเช่นกัน แต่หากเป็นการผ่อนชำระปกติจะมีอัตราดอกเบี้ยตามที่ธนาคารกำหนด ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย

ระยะเวลาการผ่อน ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง

บริการซื้อก่อนจ่ายทีหลังเน้นการผ่อนชำระในระยะเวลาสั้นๆ เช่น 3-4 เดือน ในขณะที่บัตรเครดิตมีตัวเลือกระยะเวลาการผ่อนที่หลากหลายและยาวนานกว่ามาก ตั้งแต่ 3 เดือน ไปจนถึง 10, 24 หรือ 36 เดือน แล้วแต่โปรโมชันและเงื่อนไขของร้านค้า

ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง (BNPL) ใช้อย่างไรไม่ให้เกินตัว

เพื่อให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากบริการนี้และหลีกเลี่ยงการเป็นหนี้โดยไม่จำเป็น เงินติดล้อมีเทคนิคง่ายๆ มาฝากครับ

1. วางแผนก่อนซื้อเสมอ ถามตัวเองทุกครั้งว่าของชิ้นนั้น "จำเป็น" หรือเป็นแค่ "ของที่อยากได้" การวางแผนจะช่วยให้คุณใช้จ่ายอย่างมีเหตุผลมากขึ้น
2. เช็กยอดผ่อนของตัวเอง ก่อนจะสร้างยอดผ่อนใหม่ ควรเช็กให้แน่ใจว่าคุณยังสามารถรับภาระค่าใช้จ่ายรายเดือนที่เพิ่มขึ้นได้โดยไม่กระทบกับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอื่นๆ
3. อ่านเงื่อนไขและข้อตกลงให้ละเอียด อย่ามองข้ามเด็ดขาด! ทำความเข้าใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยกรณีผิดนัดชำระ ค่าปรับ และค่าธรรมเนียมต่างๆ ให้ชัดเจน
4. ตั้งการแจ้งเตือนวันครบกำหนดชำระ ใช้วิธีตั้งเตือนในปฏิทินมือถือ หรือตั้งค่าตัดบัญชีอัตโนมัติ เพื่อป้องกันการลืมจ่าย และหลีกเลี่ยงค่าปรับโดยไม่จำเป็น
5. จำกัดจำนวนผู้ให้บริการ พยายามอย่าใช้บริการซื้อก่อนจ่ายทีหลังหลายเจ้าพร้อมๆ กัน เพราะจะทำให้คุณสับสนและจัดการยอดชำระได้ยาก อาจทำให้จ่ายไม่ไหวในที่สุด

สรุปความหมายของการซื้อก่อนจ่ายทีหลัง (Buy Now Pay Later)

บริการซื้อก่อนจ่ายทีหลังถือเป็นเครื่องมือทางการเงินที่มอบความสะดวกสบายและความคล่องตัวในการใช้จ่ายอย่างมาก ช่วยให้เราสามารถเป็นเจ้าของสิ่งของที่จำเป็นได้ง่ายขึ้น แต่ก็ยังเป็นเหมือนดาบสองคมที่ต้องใช้อย่างมีสติและมีวินัยทางการเงินเป็นอย่างดี เพื่อหลีกเลี่ยงการหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้จ่ายเกินตัว แม้จะเป็นยอดเล็กน้อย แต่ถ้านำมาหลายยอดมารวมกันก็อาจสร้างปัญหาในระยะยาวได้ หากจัดการได้ไม่ดีพอครับ

อย่างไรก็ตาม บริการ BNPL อาจไม่ครอบคลุมในทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะในยามฉุกเฉินที่ต้องการใช้เงินก้อนเพื่อประเด็นสำคัญอื่นๆ เช่น ค่ารักษาพยาบาล หรือค่าใช้จ่ายเร่งด่วนในครอบครัว เงินติดล้อเข้าใจทุกความจำเป็น เราจึงมีบริการสินเชื่อทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ ที่พร้อมเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเข้าถึงเงินทุนยามฉุกเฉิน ช่วยให้คุณวางแผนการเงินได้อย่างมั่นใจและก้าวผ่านทุกสถานการณ์ไปได้ด้วยดีครับ

ที่มา: Nesdc (สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ)