Passive income สร้างอย่างไรให้มีเงินใช้ไม่ขาดสาย

Passive income สร้างอย่างไรให้มีเงินใช้ไม่ขาดสาย
รถของคุณผ่อนหมดแล้วหรือยัง?
หมายเหตุ ผ่อนมาแล้วเกินครึ่ง และไม่มีประวัติค้างชำระ ก็ขอสินเชื่อได้
กรุณากรอกชื่อภาษาไทย
กรุณากรอกเฉพาะตัวเลข

การกดยืนยันข้อมูล แสดงว่าคุณอ่านและรับทราบ นโยบายความเป็นส่วนตัว เรียบร้อยแล้ว

เข้าช่วงบั้นปลายชีวิตหรือเริ่มวัยเกษียณ จะให้มาทำงานไปตลอดแบบทุกวันนี้ก็คงจะไม่ไหว แต่ภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายกลับไม่หายไปตามอายุเลย ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหาร ค่าน้ำค่าไฟ รวมถึงค่ารักษาพยาบาลยามเจ็บป่วยอีก แต่ในเมื่อร่างกายเริ่มทำงานไม่ไหวแล้ว จะวางแผนสร้างรายได้อย่างไรให้ในอนาคตยังมีเงินใช้ไม่ขาดสายกันนะ

วันนี้เงินติดล้อจะพาคุณมารู้จักกับ Passive Income ช่องทางสร้างรายได้แบบ ให้เงินทำงานแทนคุณ หากรู้ถูกจุดจับถูกแหล่ง รับรองว่ามีเงินให้ใช้สบาย ๆ ในระยะยาวแน่นอน มาดูกันเลยดีกว่าว่าเราจะใช้ Passive Income สร้างรายได้อย่างไรให้มีเงินใช้ไม่ขาดสาย

Passive Income คืออะไร?

มาทำความเข้าใจกันก่อนว่าเจ้า Passive Income นี้มันคืออะไร? แล้วมันแตกต่างจากรายได้ที่เรารับมาประจำยังไงล่ะ? ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าวิธีสร้างรายได้นั้นมีอยู่ 2 รูปแบบ ได้แก่

Active Income หมายถึง รายได้ที่เราต้องลงทุนลงแรงในการทำงาน และเมื่อเราหยุดทำ รายได้จากตรงนี้ก็จะหายไป เช่น งานประจำที่คุณกำลังทำ งานค้าขาย หรืองานรับจ้างใด ๆ ก็ตาม

Passive Income หมายถึง รายได้ที่เราลงทุนลงแรงไปในระยะแรก แต่มีรายได้กลับมาอย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่ได้เข้าไปดูแลอะไรมากก็ยังมีรายได้จากส่วนนี้อยู่ หรือเรียกแบบสั้น ๆ ง่าย ๆ ว่า ใช้เงินทำงานแทนคุณ นั่นเอง

ช่องทางสร้าง Passive Income

  1. อสังหาริมทรัพย์

    ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งเช่าที่ดิน สร้างหอพัก หรือปล่อยเช่าบ้าน ก็ถือว่าเป็น Passive Income ที่ทำได้ง่ายและสร้างรายรับได้มาก แต่ต้องแลกมาด้วยการลงทุนที่สูง เพราะอสังหาริมทรัพย์สมัยนี้มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่นั่นก็เป็นผลดีหากคุณรีบซื้อไว้ตั้งแต่ตอนนี้ เมื่ออนาคตต้องการขายก็สามารถสร้างผลกำไรให้คุณได้มากเช่นกัน

    หากคุณศึกษาในเรื่องของทำเลที่พักอาศัยมาเป็นอย่างดี และมีเงินก้อนที่พร้อมจะลงทุนแล้ว รับรองว่าทรัพย์สินอย่างอสังหาริมทรัพย์จะเป็นตัวช่วยที่สร้างรายได้ให้คุณสบาย ๆ ได้ในระยะยาวเลยทีเดียว ถ้าคุณมีบ้านหรือที่นาในต่างจังหวัดไม่ได้ใช้งาน ก็สามารถนำไปปล่อยเช่าได้ อย่าปล่อยให้เป็นพื้นที่ว่าง ๆ จนเราเสียโอกาสสร้างรายได้จะดีกว่านั่นเอง

  2. สร้างสื่อออนไลน์

    สร้างสื่อออนไลน์

    ทุก ๆ คนน่าจะรู้จักเว็บไซต์อย่าง Facebook หรือ Youtube กันอยู่แล้ว หากลองสังเกตให้ดี ๆ จะเห็นว่าทั้งวีดีโอหรือสื่อต่าง ๆ จะมีโฆษณาสอดแทรกอยู่เต็มไปหมด โดยโฆษณาเหล่านี้มาจากบริษัทต่าง ๆ จ้างให้ผู้ผลิตสื่อแทรกลงไป โดยจะให้เงินตอบแทนตามจำนวนผู้เข้าชม ซึ่งคุณก็สามารถมี Passive Income จากการสร้างสื่อออนไลน์เหล่านี้ได้เช่นกัน

    ถ้าคุณมั่นใจว่าตัวเองมีความคิด ความสามารถ! มีเรื่องราวมากมายที่นำมาทำเป็นวีดีโอสนุก ๆ ให้ผู้อื่นรับชมได้ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว การโชว์ทักษะทำอาหาร เกมส์ กีฬา ฯลฯ อย่ารอช้า รีบสร้างมันขึ้นมาเลย!

    เพียงแค่คุณสร้างชาแนลหรือ “ช่อง” ของคุณในเว็บไซต์ และทำการอัพโหลดวีดีโอของคุณลงไปโดยยินยอมในเงื่อนไขที่จะมีโฆษณาสอดแทรกในวีดีโอของคุณ เท่านี้คุณก็สามารถสร้างรายได้จากสื่อออนไลน์เหล่านี้ได้แล้ว

    ยิ่งมีคนดูวีดีโอของคุณมากเท่าไหร่ รายได้ของคุณก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้วีดีโอที่คุณอัพโหลดไว้จะไม่หายไปไหน ทำให้มีรายได้จากช่องทางนี้เข้ามาได้เรื่อย ๆ แต่อย่าลืมว่าการที่วีดีโอของคุณจะมีผู้เข้าชมเยอะได้นั้นก็ต้องมีความสนุกและน่าดึงดูดด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นอย่าลืมศึกษาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการเพิ่มยอดผู้เข้าชมของคุณนั่นเอง

  3. ผลตอบแทนจากกองทุนหุ้น / กองทุนรวม

    หากคุณมีเวลาศึกษาหาความรู้มากพอ ผลตอบแทนจากกองทุนหุ้น และกองทุนรวมนับว่าเป็นที่น่าสนใจมากเช่นกัน โดยจะมีเงินปันผลแบ่งให้คุณทุก ๆ ปี ถ้าคุณสามารถเลือกลงทุนได้ถูกจุด เงินปันผลรายปีนั้นก็มีเพียงพอให้คุณจับจ่ายใช้สอยได้อย่างไม่ขัดสนเลยทีเดียว

    โดยกองทุนประเภทนี้จะมีเงินปันผลของแต่ละปีเป็นเปอร์เซ็นต์ สมมติว่าคุณตั้งเป้าหมายว่าอยากมีรายรับเข้ามาเดือนละ 10,000 บาท เท่ากับปีละ 120,000 บาท หากกองทุนของคุณมีอัตราปันผลรายปีอยู่ที่ 10% เท่ากับว่าคุณต้องมีเงินต้นอยู่ในกองทุนทั้งหมด 1,200,000 บาทจึงจะได้ตามที่ตั้งไว้

    แต่อย่าเพิ่งตกใจไปว่าจะต้องจ่ายทีเดียว 1,200,000 บาทเลย ซึ่งคุณสามารถทยอยลงทุนเรื่อย ๆ ตามจำนวนที่คุณจ่ายไหว โดยอาจจะเป็นสัปดาห์ละครั้ง หรือเดือนละครั้ง โดยหากคุณเลือกกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ ก็เหมือนกับการฝากเงินเข้าธนาคารเป็นประจำ ไม่ต้องกังวลว่าเงินที่มีตรงนี้จะหายไป แถมยังได้ผลตอบแทนสูงด้วย! นับว่าเป็น Passive Income ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน

  4. ขายรูปออนไลน์

    ปัจจุบันในการทำการตลาดของบริษัทต่าง ๆ นั้นต้องใช้รูปภาพจากหลากหลายแหล่งเพื่อสร้างเป็นโฆษณา ทำให้เปิดโอกาสในการสร้างรายได้ใหม่ขึ้นมานั่นก็คือ การขายรูปภาพออนไลน์

    แต่อย่าเพิ่งคิดว่าจะต้องเป็นภาพสวยหรูอย่างภูเขาไฟฟูจิ หรือคฤหาสน์ใหญ่โต แต่เราจะบอกให้ว่า ภาพแบบไหนก็สามารถขายได้ ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ใบหญ้า หมาแมว หรือแม้แต่ข้าวผัดกะเพราที่คุณสั่งมากิน ก็สามารถสร้างรายได้ให้กับคุณอย่างแน่นอน

    เริ่มต้นง่าย ๆ เพียงแค่คุณสมัครสมาชิกและระบุว่าเป็นช่างภาพในเว็บขายภาพอย่าง ShutterStock หรือ iStock จากนั้นก็จัดการลงภาพที่คุณถ่ายมา รอการตรวจสอบจากทางเว็บไซต์ เมื่อผ่านเรียบร้อยภาพของคุณก็สามารถทำการซื้อขายได้แล้ว!

    ซึ่งภาพที่ถูกขายได้นั้นจะถูกนำไปใช้ในการสร้างโฆษณา หรือประกอบบทความตามเว็บต่าง ๆ (แม้แต่เงินติดล้อก็ซื้อภาพจากเว็บเหล่านี้เหมือนกันนะ) โดยภาพที่คุณลงขายนั้นจะคงอยู่ตลอดไม่หายไปไหน ทำให้คุณสามารถสร้างรายได้จากช่องทางนี้ไปได้เรื่อย ๆ บอกเลยว่ายิ่งลงขายมากเท่าไหร่โอกาสที่จะมีรายได้จากช่องทางนี้ก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

    หากคุณมีงานอดิเรกชอบถ่ายรูปตามสถานที่ต่าง ๆ นี่อาจจะเป็นช่องทางสร้าง Passive Income ที่เหมาะสำหรับคุณ

  5. ขายสินค้าแบบ Drop shipping

    ขายสินค้าแบบ Drop shipping

    การขายสินค้าแบบ Drop shipping หมายถึง การที่คุณมีหน้าร้านสำหรับขายสินค้า โดยไม่ต้องลงทุนซื้อของมาสต็อคไว้สักชิ้น ซึ่งคุณจะทำหน้าที่เป็นเหมือนพ่อค้าคนกลางระหว่างผู้ซื้อสินค้า กับผู้จัดจำหน่าย

    เมื่อมีลูกค้าเข้ามาสั่งสินค้า สิ่งที่คุณต้องทำก็คือจัดการเก็บเงิน ขอทราบข้อมูลชื่อ-ที่อยู่ในการจัดส่งของลูกค้า และส่งข้อมูลเหล่านี้ไปยังผู้จัดจำหน่ายและจะดำเนินการส่งสินค้าให้ โดยคุณจะได้กำไรจากค่านายหน้าที่ทางผู้จัดจำหน่ายจะให้คุณ

    โดยค่าธรรมเนียมของสินค้าแต่ละชิ้นจะไม่เท่ากัน ซึ่งสินค้าเล็ก ๆ อย่างรองเท้า หรือเสื้อผ้าอาจได้ค่านายหน้าเพียง 30-40 บาทต่อชิ้น แต่สำหรับสินค้าขนาดใหญ่อย่างเครื่องใช้ไฟฟ้า อาจได้มากถึง 200-300 บาทต่อชิ้นเลยทีเดียว ซึ่งถ้าคุณมีทักษะการเจรจาที่ดีคุณอาจสร้างรายได้ 600-700 บาทต่อวันได้สบาย ๆ

    แต่การขายสินค้าแบบ Drop Shipping นั้นอาจจะต้องลงทุนลงแรงมากกว่า Passive Income ในรูปแบบอื่นเล็กน้อย เพราะคุณจะต้องสร้างหน้าร้าน และพูดคุยกับลูกค้าด้วยตัวเอง แต่ข้อดีก็คือไม่ต้องเสียเงินแม้แต่บาทเดียวก็สามารถเริ่มทำได้ ไม่ต้องห่วงเรื่องขาดทุนอย่างแน่นอน

    หากคุณมั่นใจในทักษะการขาย และอยากมีร้านเป็นของตัวเอง สิ่งนี้เหมาะกับคุณแน่นอน ลองดูก็ไม่เสียหาย เผลอ ๆอาจจะขายดีเหมือนเทน้ำเทท่าก็เป็นได้

สรุป

เท่านี้ทุกท่านก็คงจะทราบกันดีแล้วว่า Passive Income นั้นมีรูปแบบยังไงบ้าง อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ก่อนที่จะเริ่มลงทุนก็ควรศึกษาและวางแผนการต่าง ๆ ให้ดี และถ้ายังไม่แน่ใจว่าการลงทุนนี้จะประสบผลสำเร็จมาก การทำงานประจำควบคู่ไปกับรายได้เสริมอื่น ๆ และ Passive Income จะเป็นการดีที่สุด

รถของคุณผ่อนหมดแล้วหรือยัง?
หมายเหตุ ผ่อนมาแล้วเกินครึ่ง และไม่มีประวัติค้างชำระ ก็ขอสินเชื่อได้
กรุณากรอกชื่อภาษาไทย
กรุณากรอกเฉพาะตัวเลข

การกดยืนยันข้อมูล แสดงว่าคุณอ่านและรับทราบ นโยบายความเป็นส่วนตัว เรียบร้อยแล้ว

เงินติดล้อ

บทความโดย

เงินติดล้อ

ผู้มุ่งหวังให้สังคมไทยมีสุขภาพทางการเงินที่ดีขึ้น