ลูกเรียนพิเศษช่วงปิดเทอม พ่อแม่ต้องเตรียมอะไรบ้าง

ช่วงปิดเทอมใหญ่หรือแม้แต่ช่วงปิดซัมเมอร์ การส่งลูกไปเรียนพิเศษ เป็นอีกทางเลือกยอดฮิตของคุณพ่อคุณแม่สมัยใหม่ แต่จะให้ลูกเรียนพิเศษหรือทำกิจกรรมเสริมประสบการณ์หรือทักษะแบบไหนดีที่จะช่วยให้ลูกใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์มากที่สุด และเหมาะสมกับลูกรักของคุณ

สิ่งหนึ่งที่กำลังเป็นที่นิยมกันในกลุ่มเด็กนักเรียน ก็คงหนีไม่พ้นการเรียนพิเศษ ที่สามารถช่วยเพิ่มความถนัดและทักษะด้านต่าง ๆ ในช่วงปิดเทอม ในบทความนี้มาดูกันว่าคุณจะช่วยลูกเตรียมตัวก่อนเรียนพิเศษในช่วงปิดเทอมได้อย่างไร และพ่อแม่จะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

ทำไมต้องเรียนพิเศษในช่วงปิดเทอม

เหตุผลที่ดีที่สุดว่าทำไมต้องให้ลูกเรียนพิเศษในช่วงปิดเทอมก็คือ การใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดยพ่อแม่อาจไม่ต้องวางแผนให้ลูกต้องเรียน 5 วัน เหมือนปกติที่โรงเรียนก็ได้ เพื่อให้ลูกได้มีเวลาพักผ่อนหรือทำกิจกรรมอย่างอื่นบ้าง

3 เหตุผลที่เด็กสมัยนี้เลือกเรียนพิเศษ

1. สไตล์การสอนของติวเตอร์ที่เลือกได้

   ยุคนี้นอกจากการแข่งขันในเรื่องการเรียนแล้ว ติวเตอร์หรือสถาบันสอนก็มีการแข่งขันเช่นเดียวกัน เพราะแม้จะสอนเรื่องเดียวกัน แต่วิธีการสอนของแต่ละที่ก็ไม่เหมือนกันแน่นอน เด็กมักเลือกติวเตอร์ที่มีคุณสมบัติ ดังนี้

   • สอนสนุก
   • มีเทคนิคที่ทำให้จดจำได้ดี
   • สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายในการเรียนได้

2. ข้อสอบแข่งขันที่ยากกว่าเนื้อหาในห้องเรียน

   ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าข้อสอบแข่งขัน หรือสอบเพื่อเรียนต่อ ข้อสอบส่วนกลางที่ทำออกมานั้นเนื้อหายากกว่าที่เด็กเจอในห้องเรียนอยู่พอสมควร ถ้าเด็กขาดความเข้าใจในเนื้อหา อาจจะส่งผลถึงคะแนนสอบเป็นอย่างมาก

   เด็กส่วนใหญ่จึงเลือกเรียนพิเศษกับติวเตอร์ เพราะนอกจากจะทำให้เข้าใจในเนื้อหาที่ออกสอบแล้ว ยังช่วยลดระยะเวลาการเรียนรู้ด้วยตัวเองอีกด้วย

   

3. การแข่งขันเริ่มสูงขึ้น ต้องอาศัยความสามารถมากขึ้น

   ปัจจุบันการแข่งขันเรื่องการเรียนมีอัตราที่สูงมาก แม้ว่าเด็กจะเรียนเนื้อหาเดียวกัน มีความถนัดที่สูสีกัน แต่เด็กบางคนมีความโดดเด่นที่สามารถชนะเด็กคนอื่นได้ เช่น มีทักษะภาษาต่างประเทศที่ดีกว่า ข้อดีแบบนี้ทำให้เด็กที่มีทักษะสูงได้เปรียบเมื่อต้องสอบแข่งขัน หรือแม้แต่การสมัครงานในอนาคต

เรียนพิเศษช่วงปิดเทอมมีอะไรบ้าง

ก่อนจะให้ลูกเรียนพิเศษในช่วงปิดเทอม อยากให้พ่อแม่หลายคนเข้าใจก่อนว่า การเรียนพิเศษในแต่ละที่นั้นมีวัตถุประสงค์แตกต่างกัน ซึ่งเด็กที่ไปเรียนจะได้ความรู้หรือความสามารถที่แตกต่างกันออกไปตามเรื่องที่เรียน

1. เรียนเพื่อเตรียมตัวในปีการศึกษาถัดไป

   หลายโรงเรียนมีการเปิดหลักสูตรปรับพื้นฐานในช่วงปิดเทอมให้กับเด็กนักเรียน สำหรับเตรียมความพร้อมก่อนเปิดเรียน โดยเฉพาะเด็กที่กำลังอยู่ในช่วงเลื่อนลำดับชั้นเรียน เช่น จากอนุบาลเข้าประถม จากประถมเข้ามัธยม จะต้องมีการปูพื้นฐานให้เตรียมพร้อมก่อนการเปิดเทอมที่จะถึงนั่นเอง

2. เรียนเพื่อเตรียมสอบแข่งขัน

   สำหรับการเข้าเรียนที่ต้องใช้การสอบแข่งขัน จะมีข้อสอบที่ออกจากหน่วยงานหลากหลาย ซึ่งจะต้องใช้สถาบันที่เชี่ยวชาญหรือติวเตอร์เฉพาะทางในการสอนทำข้อสอบ เพราะเนื้อหาที่จะออกสอบนั้นค่อนข้างเฉพาะทาง เช่น

   • สอบเข้ามัธยม
   • สอบเตรียมทหาร / ตำรวจ
   • สอบแข่งขันเข้ามหาลัย

3. เรียนเพื่อพัฒนาทักษะที่ถนัด

   การเรียนพิเศษเพื่อพัฒนาทักษะที่ถนัด อาจจะไม่เกี่ยวกับเนื้อหาที่ลูกของคุณเรียนในโรงเรียน แต่เป็นสิ่งที่พวกเขาชื่นชอบและอยากทำให้ได้ ทางเราเองก็ควรสนับสนุนให้เขาทำในสิ่งที่ใฝ่ฝัน ซึ่งในอนาคตอาจจะเป็นความสามารถพิเศษก็เป็นได้ เช่น

   • เรียนว่ายน้ำ
   • เรียนร้องเพลง
   • เรียนเต้น
   • เรียนกีฬา
   • เรียนการแสดง
   

4. เรียนเพื่อเพิ่มทักษะอื่น ๆ ที่นำไปใช้ในอนาคต

   สำหรับที่เรียนเพื่อพัฒนาทักษะอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากการเรียน สิ่งนี้จะเป็นเหมือนคุณสมบัติติดตัวพวกเขาไปจนถึงวัยทำงานได้เช่นกัน ถ้าพวกเขาได้เรียนและฝึกฝนอย่างเพียงพอ เช่น

   • เรียนภาษาต่างประเทศ
   • เรียนเทคนิคการคำนวณ
   • เรียนศิลปะ

จะช่วยเตรียมตัวให้ลูกอย่างไรดี

เมื่อเข้าใจเหตุผลแล้วว่าทำไมลูกถึงควรเรียนพิเศษในช่วงปิดเทอม สิ่งต่อไปคือการช่วยลูกเตรียมตัว เพื่อให้พวกเข้าได้เรียนในสิ่งที่ต้องการ ได้แก่

พูดคุยถึงความต้องการที่พวกเขาอยากเรียน

ก่อนอื่นเริ่มจากพูดคุยก่อนว่าเขาอยากเรียนอะไรในช่วงปิดเทอม อยากเรียนเพราะเป็นความชอบหรืออยากเรียนตามเพื่อน โดยพูดคุยให้เข้าใจกันทั้ง 2 ฝ่าย เพราะถ้าหากเขาไปเรียนพิเศษแล้วกลับไม่ชอบขึ้นมา คุณอาจจะเสียค่าใช้จ่ายโดยเปล่าประโยชน์

หาข้อมูลสถานที่เรียนพิเศษ

เมื่อได้คำตอบที่ชัดเจนแล้วว่าเขาอยากเรียนอะไร ก็มาดูข้อมูลของสถานที่เรียนว่าที่ไหนสะดวกต่อการเดินทางไปเรียน มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ถ้าต้องไปรับไปส่งเองจะต้องจัดตารางเวลาอย่างไร เพื่อจะได้เอามาวิเคราะห์ว่าคุ้มค่าหรือไม่

จัดการค่าเรียนพิเศษ

สำหรับเรื่องค่าเรียนพิเศษในแต่ละสถาบันจะมีค่าใช้จ่ายที่ไม่เท่ากัน เรทราคาแต่ละที่ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของเนื้อหาที่สอน บางที่อาจมีราคาสูงมากจนคุณรู้สึกว่าจ่ายไม่ไหว แต่เพื่อลูกแล้วก็อยากจะส่งเสริมให้เขาได้เรียน ก็อาจจะต้องหาเงินจากช่องทางอื่น

หากเกิดกรณีแบบนี้ เงินติดล้อช่วยคุณหาค่าเรียนพิเศษให้กับลูกของคุณได้ กับสินเชื่อทะเบียนรถไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ก็สามารถขอสินเชื่อกับเงินติดล้อได้ทุกสาขา ไม่ต้องมีคนค้ำ ไม่ต้องโอนเล่ม รับเงินสดไปจ่ายค่าเรียนพิเศษลูกได้ทันที สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรอกข้อมูลได้ที่ด้านล่างนี้