คู่มือปิดหนี้ กยศ. เช็กเอกสารให้พร้อมและข้อควรรู้ก่อนจ่ายคืน

กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. คือโอกาสสำคัญที่ช่วยให้หลายคนได้ศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น และเมื่อถึงเวลาเริ่มต้นชีวิตการทำงาน การวางแผนปิดหนี้ กยศ. ก็คืออีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญเพื่อสร้างอนาคตทางการเงินที่มั่นคง การชำระหนี้คืนไม่เพียงแต่เป็นการสร้างวินัยทางการเงินที่ดีให้กับตัวเอง แต่ยังเป็นการส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้กับน้องๆ รุ่นต่อไปอีกด้วย ในบทความนี้ เงินติดล้อจะมาเป็นคู่มือฉบับสมบูรณ์ ช่วยให้คุณเข้าใจทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเช็กยอดหนี้ วิธีการชำระคืน ไปจนถึงเอกสารที่ต้องใช้ เพื่อให้การปลดหนี้ของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุดครับ

เริ่มต้นชำระหนี้ กยศ. เมื่อไหร่?

หลังจากเรียนจบ หลายคนอาจยังมีคำถามว่าต้องเริ่มจ่ายหนี้ กยศ. ตอนไหน เพื่อจะได้เตรียมตัวและวางแผนการเงินได้ทันท่วงที ซึ่งกองทุนฯ ได้กำหนดหลักเกณฑ์ไว้ชัดเจนดังนี้ครับ

ระยะเวลาปลอดหนี้ 2 ปีหลังสำเร็จการศึกษา

กองทุนฯ เข้าใจดีว่าบัณฑิตจบใหม่อาจต้องใช้เวลาในการหางานและปรับตัวสร้างความมั่นคงทางการเงิน จึงมี “ระยะเวลาปลอดหนี้” ให้เป็นเวลา 2 ปี นับจากวันที่สำเร็จการศึกษา ซึ่งในช่วงเวลานี้ ผู้กู้ยืมจะยังไม่ถูกเรียกเก็บเงินต้นและดอกเบี้ยใดๆ ครับ

วันครบกำหนดชำระหนี้งวดแรก : 5 กรกฎาคม

เมื่อพ้นระยะเวลาปลอดหนี้ 2 ปีไปแล้ว ผู้กู้ยืมจะต้องเริ่มชำระหนี้งวดแรกภายในวันที่ 5 กรกฎาคม ของปีถัดไป และจะต้องชำระภายในวันเดียวกันของทุกๆ ปีหลังจากนั้น จนกว่าจะชำระหนี้ครบถ้วนตามสัญญา ซึ่งมีระยะเวลาผ่อนชำระคืนสูงสุด 15 ปีครับ

“เช็กยอดหนี้ กยศ.” สิ่งแรกที่ต้องทำก่อนวางแผนปิดหนี้

ก่อนที่จะวางแผนการชำระหนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือการทราบยอดหนี้ที่แท้จริงของตัวเอง ทั้งเงินต้นคงค้าง ดอกเบี้ย และเบี้ยปรับ (ถ้ามี) เพื่อให้สามารถวางแผนการเงินได้อย่างแม่นยำ ปัจจุบันการตรวจสอบยอดหนี้ทำได้สะดวกและรวดเร็วมากผ่านช่องทางออนไลน์ โดยผู้กู้สามารถลงทะเบียนและล็อกอินเข้าระบบได้ที่แอปพลิเคชัน “กยศ. Connect” หรือผ่านเว็บไซต์ของกองทุนฯโดยตรงครับ

แนะนำ 3 วิธีปิดหนี้ กยศ. แบบไหนเหมาะกับคุณที่สุด

กองทุนฯ เปิดโอกาสให้ผู้กู้สามารถเลือกวิธีการชำระหนี้ได้หลากหลายรูปแบบ เพื่อให้สอดคล้องกับความพร้อมทางการเงินของแต่ละคน มาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้างครับ

1. การชำระคืนตามปกติ (รายปี)

เป็นวิธีมาตรฐานที่ผู้กู้ส่วนใหญ่ใช้ คือการชำระหนี้ปีละ 1 ครั้ง ตามยอดที่กองทุนฯ แจ้งมาในแต่ละปี โดยมีกำหนดชำระภายในวันที่ 5 กรกฎาคมของทุกปี วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผ่อนชำระไปเรื่อยๆ ตามแผนที่กำหนดไว้ และมีกระแสเงินสดที่สอดคล้องกับการจ่ายหนี้เป็นรายปีครับ

2. การชำระเพื่อปิดยอดทั้งหมด (จ่ายโปะ)

สำหรับผู้ที่มีความพร้อมทางการเงิน หรือมีเงินก้อน การเลือกชำระหนี้ทั้งหมดเพื่อปิดบัญชีในครั้งเดียวเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากครับ เพราะนอกจากจะช่วยปลดภาระหนี้สินให้หมดไปอย่างรวดเร็วแล้ว กองทุนฯ ยังมีโปรโมชันมอบส่วนลดเงินต้นให้ 3% (เงื่อนไขเป็นไปตามที่กองทุนฯ ประกาศ) ณ วันที่ชำระหนี้เพื่อปิดบัญชี ซึ่งช่วยให้คุณประหยัดเงินได้มากขึ้นไปอีกครับ

3. การขอหักเงินเดือน (สำหรับพนักงานบริษัท)

เป็นวิธีที่สะดวกสบายที่สุดสำหรับพนักงานบริษัทหรือข้าราชการ โดยกองทุนฯ จะประสานงานกับนายจ้างเพื่อหักเงินเดือนของผู้กู้เป็นรายเดือนเพื่อนำไปชำระหนี้โดยอัตโนมัติ วิธีนี้ช่วยลดความกังวลเรื่องการลืมจ่ายหนี้ และช่วยสร้างวินัยในการชำระหนี้ได้อย่างสม่ำเสมอ ทำให้หนี้ลดลงทุกเดือนอย่างต่อเนื่องครับ

รวมช่องทางและเอกสารที่ต้องใช้ในการชำระหนี้ กยศ.

เพื่ออำนวยความสะดวกสูงสุด กองทุนฯ ได้เตรียมช่องทางการชำระเงินที่หลากหลายและเข้าถึงง่าย การเตรียมข้อมูลให้พร้อมก็จะช่วยให้การจ่ายหนี้ของคุณรวดเร็วยิ่งขึ้นครับ

ช่องทางการชำระหนี้ กยศ.

• ผ่านธนาคาร : เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย, ตู้ ATM, หรือผ่าน Mobile Banking (แอปฯ Krungthai NEXT, เป๋าตัง)
• เคาน์เตอร์เซอร์วิส : ที่ร้าน 7-Eleven หรือจุดบริการที่มีสัญลักษณ์เคาน์เตอร์เซอร์วิสทั่วประเทศ
• ชำระด้วย QR Code : สร้าง QR Code ผ่านแอปฯ กยศ. Connect แล้วนำไปสแกนจ่ายผ่าน Mobile Banking ของธนาคารใดก็ได้
• หักบัญชีเงินฝาก : ทำเรื่องขอหักบัญชีออมทรัพย์อัตโนมัติกับธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ

เอกสารและข้อมูลที่ต้องเตรียม

• เลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลักของผู้กู้ : เป็นข้อมูลสำคัญที่สุดที่ต้องใช้ในการระบุตัวตน
• เลขที่บัญชีเงินกู้ (Loan Account Number) : สามารถตรวจสอบได้จากแอปฯ กยศ. Connect หรือเอกสารแจ้งหนี้
• จำนวนเงินที่ต้องการชำระ : เตรียมยอดเงินที่ต้องการจ่ายให้ชัดเจน

ยังไม่พร้อมจ่าย สามารถขอผ่อนผันการชำระหนี้ กยศ. ได้ไหม?

ในกรณีที่ผู้กู้ประสบปัญหาทางการเงิน หรือมีเหตุจำเป็นทำให้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด กองทุนฯ ก็มีมาตรการช่วยเหลือโดยสามารถยื่นเรื่องขอผ่อนผันการชำระหนี้ได้ครับ

ใครบ้างที่สามารถขอผ่อนผันได้

• ผู้ที่ยังไม่มีรายได้ หรือมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 8,008 บาท
• ผู้ที่เป็นผู้พิการ หรือทุพพลภาพจนไม่สามารถประกอบอาชีพได้
• ผู้ที่กำลังศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น (เช่น ปริญญาโท)

ขั้นตอนและเอกสารในการยื่นเรื่องขอผ่อนผัน

ผู้กู้ที่เข้าเงื่อนไข สามารถยื่นคำขอผ่อนผันผ่านทางแอปพลิเคชัน กยศ. Connect หรือเว็บไซต์ของกองทุนฯ ได้เลยครับ โดยมีขั้นตอนและเอกสารเบื้องต้นดังนี้

ขั้นตอนยื่นเรื่องขอผ่อนผัน

1. ล็อกอินเข้าระบบ DSL ผ่านแอปฯ หรือเว็บไซต์
2. เลือกเมนู “ขอผ่อนผัน/ลดหย่อนหนี้” และกรอกข้อมูลตามความเป็นจริง
3. อัปโหลดเอกสารประกอบการพิจารณา
4. รอการแจ้งผลการอนุมัติจากกองทุนฯ

เอกสารประกอบ

• หนังสือรับรองเงินเดือน
• หนังสือรับรองสถานภาพการเป็นนักศึกษา หรือใบรับรองแพทย์ แล้วแต่กรณี

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการปิดหนี้ กยศ.

เพื่อคลายข้อสงสัยยอดฮิต เงินติดล้อได้รวบรวมคำตอบมาให้แล้วครับ

1. จ่ายหนี้ กยศ. เกินกว่ายอดที่กำหนดได้หรือไม่ เงินจะไปไหน?

สามารถทำได้ครับ เงินส่วนที่เกินจากยอดที่ต้องชำระในงวดนั้นๆ ระบบจะนำไปตัดเงินต้นคงค้างโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยให้ยอดหนี้ทั้งหมดของคุณลดลงเร็วขึ้นและเสียดอกเบี้ยน้อยลงในระยะยาวครับ

2. หากจ่ายหนี้ล่าช้า จะมีค่าปรับหรือไม่?

มีครับ กรณีผิดนัดชำระหนี้ กองทุนฯ จะมีการคิดเบี้ยปรับตามอัตราที่กฎหมายกำหนด ซึ่งคำนวณจากเงินต้นที่ค้างชำระ ดังนั้น การชำระหนี้ให้ตรงเวลาจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นครับ

3. เรียนจบแล้ว แต่เรียนต่อปริญญาโททันที ต้องเริ่มจ่ายหนี้ กยศ. หรือไม่?

ยังไม่ต้องชำระครับ แต่ผู้กู้จะต้องยื่นเรื่องขอผ่อนผันการชำระหนี้ พร้อมแนบหลักฐานการเป็นนักศึกษาให้กับกองทุนฯ เพื่อรักษาสถานะและรับสิทธิ์ผ่อนผันจนกว่าจะสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโทครับ

สรุป วางแผนปิดหนี้ กยศ. อย่างเข้าใจ เพื่ออนาคตทางการเงินที่สดใส

การปิดหนี้ กยศ. ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลหากเรามีความเข้าใจและวางแผนอย่างเป็นระบบ การชำระหนี้คืนตามกำหนดไม่เพียงแต่จะช่วยสร้างประวัติทางการเงินที่ดีให้กับตัวคุณเอง แต่ยังถือเป็นการส่งมอบโอกาสทางการศึกษาอันมีค่าให้กับนักเรียนนักศึกษารุ่นต่อๆ ไป การเริ่มต้นวางแผนตั้งแต่วันนี้ คือก้าวสำคัญสู่อิสรภาพทางการเงินในอนาคตครับ

การวางแผนชำระหนี้ กยศ. เป็นเรื่องสำคัญ และบางครั้งการชำระหนี้ก้อนใหญ่อาจทำให้คุณต้องการสภาพคล่องเพิ่มเติมเพื่อจัดการค่าใช้จ่ายจำเป็นอื่นๆ ในเดือนนั้นๆ สำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของรถยนต์และกำลังมองหาเงินทุนสำรองฉุกเฉิน สินเชื่อทะเบียนรถยนต์จากเงินติดล้อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยคุณได้ครับ ไม่ต้องโอนเล่มทะเบียน ยังมีรถไว้ใช้ขับเหมือนเดิม อนุมัติไว ช่วยเสริมสภาพคล่องให้คุณจัดการค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้อย่างสบายใจ และเดินหน้าสู่อิสรภาพทางการเงินได้อย่างมั่นคงครับ

ที่มา: กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)