การมี “ใบขับขี่ตลอดชีพ” ถือเป็นของหายากที่หลายคนภาคภูมิใจ เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องการต่ออายุ แต่เคยสงสัยไหมครับว่า ถ้าวันหนึ่งเราขับรถพลาดพลั้งไป หรือร่างกายไม่พร้อมเหมือนเดิม ใบขับขี่ที่เรียกว่า “ตลอดชีพ” นี้จะถูกยึดหรือเพิกถอนได้หรือไม่? บทความนี้ เงินติดล้อจะมาไขทุกข้อข้องใจ ตั้งแต่ที่มาของใบขับขี่ในตำนาน ไปจนถึงเงื่อนไขสำคัญที่อาจทำให้ถูกเพิกถอนใบขับขี่ตลอดชีพได้ เพื่อให้ทุกคนขับขี่ได้อย่างสบายใจและปลอดภัยบนท้องถนนครับ
ใบขับขี่ตลอดชีพคืออะไร ต่างจากใบขับขี่ทั่วไปยังไง?
ก่อนจะไปดูเงื่อนไขการเพิกถอน เรามาทำความรู้จักที่มาที่ไปของใบขับขี่ในตำนานประเภทนี้กันก่อนครับ ว่ามีความเป็นมาอย่างไร และแตกต่างจากใบขับขี่ที่เราใช้กันในปัจจุบันแค่ไหน
ที่มาของใบขับขี่ในตำนาน และเหตุผลที่ถูกยกเลิกไป
ในอดีต กรมการขนส่งทางบกเคยมีการออกใบอนุญาตขับขี่ประเภท “ตลอดชีพ” เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน ไม่ต้องเสียเวลามาต่ออายุบ่อย ๆ แต่หลังจากวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 เป็นต้นมา ก็ได้มีการยกเลิกการออกใบขับขี่ประเภทนี้ไป ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยเป็นหลัก เนื่องจากสมรรถภาพทางร่างกายของผู้ขับขี่ เช่น สายตา การตัดสินใจ และการตอบสนอง อาจเปลี่ยนแปลงไปตามอายุที่มากขึ้น การกำหนดให้มีการต่ออายุใบขับขี่ทุก 5 ปีแบบในปัจจุบัน จึงเป็นเหมือนการประเมินความพร้อมในการขับขี่เป็นระยะๆ นั่นเองครับ
สิทธิประโยชน์และความเข้าใจที่ถูกต้องของผู้ถือใบขับขี่ตลอดชีพ
สำหรับผู้ที่ถือใบขับขี่ตลอดชีพอยู่ ไม่ว่าจะเป็นแบบกระดาษรุ่นเก่า หรือแบบสมาร์ตการ์ด ยังสามารถใช้งานได้ตามกฎหมายทุกประการ และมีสถานะเทียบเท่าใบขับขี่ปกติ หากทำบัตรชำรุดหรือสูญหาย ก็สามารถติดต่อสำนักงานขนส่งเพื่อทำใบใหม่ได้ โดยจะยังคงได้รับเป็นใบขับขี่ตลอดชีพเช่นเดิม และที่สำคัญ กรมการขนส่งทางบก ไม่มีนโยบายเรียกผู้ถือใบขับขี่ตลอดชีพมาทดสอบสมรรถภาพร่างกายใหม่ เพียงเพราะอายุมากขึ้นแต่อย่างใดครับ
เพิกถอนใบขับขี่คืออะไร ต่างจากการพักใช้ใบขับขี่แค่ไหน?
หลายคนอาจยังสับสนระหว่างคำว่า “พักใช้” กับ “เพิกถอน” ซึ่งเป็นการลงโทษคนละระดับกันเลยครับ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง เรามาดูกันว่าสองคำนี้มีความหมายแตกต่างกันยังไง
การพักใช้ใบขับขี่
การพักใช้ใบขับขี่ คือ การลงโทษชั่วคราว โดยผู้ขับขี่จะถูกห้ามขับรถตามระยะเวลาที่กำหนด เช่น 30, 60 หรือ 90 วัน เมื่อพ้นกำหนดเวลาแล้ว ก็สามารถกลับมาใช้ใบขับขี่และขับรถได้ตามปกติเหมือนเดิม ถือเป็นการลงโทษเพื่อให้ผู้ขับขี่ได้ปรับปรุงพฤติกรรมครับ
การเพิกถอนใบขับขี่
การเพิกถอนใบขับขี่ คือ การตัดสิทธิ์ในการขับขี่ยานพาหนะอย่างถาวรหรือในระยะยาว ซึ่งผู้ขับขี่จะไม่สามารถขับรถได้อีกต่อไปจนกว่าจะพ้นกำหนดโทษ (ซึ่งอาจนานหลายปีหรือตลอดไป) และต้องไปเริ่มกระบวนการขอทำใบขับขี่ใหม่ทั้งหมด โดยผู้ที่มีอำนาจสั่งเพิกถอนใบขับขี่ตลอดชีพ หรือใบขับขี่ประเภทอื่น ๆ ได้นั้น คือ “ศาล” เท่านั้นครับ
5 พฤติกรรมเสี่ยง ขับรถแบบไหนที่ศาลสั่งเพิกถอนใบขับขี่ตลอดชีพได้
แม้จะขึ้นชื่อว่าตลอดชีพ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นเกราะป้องกันการทำผิดกฎจราจรได้นะครับ เพราะหากมีพฤติกรรมที่เป็นอันตรายร้ายแรง ศาลก็มีอำนาจสั่งเพิกถอนได้ทันที มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
1. เมาแล้วขับ หรือใช้สารเสพติดขณะขับรถ
นี่คือสาเหตุอันดับต้น ๆ ที่นำไปสู่การสูญเสียมากมาย การขับรถขณะมึนเมาหรือเสพยาเสพติดถือเป็นความผิดร้ายแรง หากถูกจับกุมครั้งแรก โทษอาจเป็นการปรับ จำคุก และมีโอกาสที่ศาลสั่งพักใบขับขี่ 6 เดือน หรือมากกว่านั้น แต่หากพฤติกรรมดังกล่าวก่อให้เกิดอุบัติเหตุจนมีผู้บาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต ศาลสามารถสั่งเพิกถอนใบขับขี่ได้ทันที
2. ขับรถโดยประมาทจนทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต
อุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกิดจากความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของผู้ขับขี่ เช่น ขับรถเร็วเกินกำหนด ฝ่าไฟแดง หรือใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นต้องบาดเจ็บสาหัสหรือถึงแก่ความตาย นอกจากผู้ขับขี่จะต้องรับโทษทางอาญาแล้ว ศาลยังมีอำนาจสั่งเพิกถอนใบขับขี่เพื่อไม่ให้ไปก่ออันตรายกับใครได้อีก
3. ใช้รถยนต์ในการก่ออาชญากรรมร้ายแรง
หากมีการนำรถยนต์ไปใช้เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุอาชญากรรมที่ร้ายแรง เช่น ใช้ในการปล้นทรัพย์ ชิงทรัพย์ ขนส่งยาเสพติด หรือใช้หลบหนีหลังก่อเหตุ เมื่อคดีถึงที่สุดและศาลพิจารณาว่าเป็นภัยต่อสังคมอย่างร้ายแรง ก็สามารถสั่งเพิกถอนใบขับขี่เพิ่มเติมจากโทษทางคดีอาญาได้
4. ขับรถในระหว่างถูกสั่งพักใช้ใบขับขี่
การไม่เคารพคำสั่งของเจ้าหน้าที่หรือคำสั่งศาลถือเป็นความผิดซ้ำซ้อน หากคุณถูกสั่งพักใช้ใบขับขี่อยู่ แต่ยังฝ่าฝืนนำรถออกมาขับ และถูกจับกุมได้อีกครั้ง ศาลอาจพิจารณาเพิ่มโทษจากพักใช้เป็นการเพิกถอนใบขับขี่ได้ เพราะถือว่าไม่มีความรับผิดชอบและไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย
5. ขาดคุณสมบัติการเป็นผู้ขับขี่ตามกฎหมาย
กรณีนี้หมายถึงการที่ผู้ขับขี่มีสภาวะร่างกายหรือจิตใจที่ไม่เหมาะสมกับการขับขี่อย่างปลอดภัย เช่น มีโรคประจำตัวร้ายแรงที่เป็นอุปสรรคต่อการควบคุมรถ หรือเป็นบุคคลวิกลจริต จิตฟั่นเฟือน ซึ่งการจะเพิกถอนด้วยเหตุผลนี้จะต้องผ่านกระบวนการพิสูจน์ทางการแพทย์และทางกฎหมายอย่างชัดเจน ไม่สามารถกล่าวอ้างขึ้นมาลอยๆ ได้
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับใบขับขี่ตลอดชีพ
เงินติดล้อได้รวบรวมคำถามยอดฮิตที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับใบขับขี่ตลอดชีพมาให้แล้วครับ มาดูคำตอบที่ชัดเจนและเข้าใจง่ายกันได้เลยครับ
อายุมากขึ้น จะถูกเรียกตัวไปสอบสมรรถภาพใหม่หรือไม่?
ไม่มีการเรียกผู้ถือใบขับขี่ตลอดชีพมาทดสอบสมรรถภาพตามอายุ แต่หากมีพฤติกรรมขับขี่อันตรายจนเกิดคดี ก็อาจถูกเพิกถอนได้จากคำสั่งศาล
ทำใบขับขี่ตลอดชีพแบบกระดาษหาย ต้องทำยังไง จะได้บัตรตลอดชีพคืนไหม?
สามารถติดต่อกรมการขนส่งเพื่อทำใหม่ได้เลย และจะยังคงได้รับเป็นใบขับขี่ตลอดชีพเช่นเดิมครับ
ถ้าถูกเพิกถอนใบขับขี่ไปแล้ว จะมีโอกาสกลับมาทำใหม่ได้อีกหรือไม่?
โดยทั่วไป การเพิกถอนถือเป็นการสิ้นสุดสิทธิ์ แต่ในบางกรณีอาจยื่นคำร้องขอใบขับขี่ใหม่ได้หลังพ้นกำหนดเวลาไปแล้ว ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลและนายทะเบียน
สรุป ใบขับขี่ตลอดชีพ ไม่มีวันหมดอายุ แต่สิทธิ์ในการขับขี่อาจสิ้นสุดได้
การมีใบขับขี่ตลอดชีพถือเป็นสิทธิพิเศษ แต่ความรับผิดชอบและความปลอดภัยบนท้องถนนยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดครับ แม้จะไม่มีการบังคับให้ทดสอบสมรรถภาพตามอายุ แต่หากมีพฤติกรรมการขับขี่ที่เสี่ยงและเป็นอันตรายจนเข้าเงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด สิทธิ์ในการขับขี่ก็สามารถถูกเพิกถอนโดยคำสั่งศาลได้เช่นกัน ดังนั้น การขับรถอย่างมีสติและเคารพกฎจราจรจึงเป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุดครับ
หากเกิดเหตุไม่คาดฝันบนท้องถนน จนต้องใช้เงินด่วนเพื่อจัดการปัญหาเฉพาะหน้า เงินติดล้อพร้อมอยู่เคียงข้างคุณ ด้วยบริการสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ ที่ให้วงเงินสูง อนุมัติไว ไม่ต้องโอนเล่ม ช่วยเสริมสภาพคล่องให้คุณผ่านทุกสถานการณ์ไปได้อย่างราบรื่น
ที่มา: Sanook, แนวหน้า