รถแบบไหนต้องขับ 120 กม./ชม. ตามกฎหมายความเร็วฉบับใหม่ล่าสุด?

ข่าวเกี่ยวกับอุบัติเหตุรถชนมีให้เห็นกันอยู่ทุกวัน เช่น ขับรถชนคน; ขับรถชนท้าย ขับรถชนเสาไฟฟ้า; ขับรถชนแบบริเออร์ เมาแล้วขับ; ขับรถเสียหลัก ขับรถตกเขา หรืออีกล้านเหตุผลที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ปัจจัยในการเกิดอุบัติเหตุรถชนคือความเร็วในการขับรถ เลยเป็นเหตุผลว่ามีกฎหมายความเร็วใหม่ล่าสุดออกมาให้ผู้ใช้รถใช้ถนนได้ปฏิบัติตามกันแล้ว เพื่อลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น โดยกฎหมายความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเหมาะกับรถแบบไหนบ้าง แล้วทำไมความเร็วถึงทำให้เกิดอุบัติเหตุ บทความนี้มีคำตอบให้แล้วครับ

 

ถนนแบบไหนที่ต้องทำตาม กฎหมายความเร็วใหม่ล่าสุด 2564

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเกี่ยวกับกฎหมายความเร็วใหม่ล่าสุด 2564 บนถนนทางหลวงแผ่นดินและทางหลวงชนบท กำหนดให้ความเร็วรถยนต์​สูงสุดขับได้ที่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่เป็นถนนบางสายเท่านั้น โดยถนนที่ถูกระบุเอาไว้ในกฎหมายความเร็วใหม่ตามพระราชกิจจานุเบกษาคือ

  • ถนนที่มีช่องเดินรถในทิศทางเดียวกันตั้งแต่ 2 ช่องเดินรถ
  • มีเกาะกลางเฉพาะแบบกำแพงกั้น หรือแบริเออร์
  • ไม่มีจุดกลับรถที่เสมอกับระดับถนน

แต่ไม่ได้หมายความว่าจะนำช่องโหว่ตรงนี้ไปขับรถเร็วเหมือนเดิมเมื่อเจอถนนที่ไม่ได้เขียนเอาไว้ในกฎหมายฉบับล่าสุด โปรดอย่าลืมว่าความเร็วนำมาซึ่งความอุบัติเหตุที่ใหญ่หลวง การปฏิบัติตามกฎหมายที่ถูกเขียนไว้เป็นสิ่งที่สมควรทำอย่างยิ่งเพื่อให้ท้องถนนสงบสุข และเกิดอุบัติเหตุน้อยที่สุด

 

กฎหมายความเร็วใหม่ล่าสุด 2564 รถประเภทไหนควรขับความเร็วเท่าไหร่

กฎหมายความเร็วใหม่ล่าสุด 2564 รถแบบนี้ขับความเร็วเท่าไหร่?

เรื่องนี้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ได้ประกาศว่าการปรับนโยบายอัตราความเร็วสูงสุดที่รถแต่ละประเภทสามารถขับได้นั้นเพราะต้องการสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน โดยพิจารณาจากความปลอดภัยทางกายภาพ พื้นที่ที่อยู่และการอยู่อาศัย โดยจำแนกประเภทรถกับความเร็วที่ขับได้ไว้ในกฎหมายความเร็ว ดังนี้

  • รถยนต์ส่วนบุคคล ความเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม. แต่ถ้าอยู่เลนขวาไม่ต่ำกว่า 100 กม./ชม.
  • รถโดยสาร 5-7 คน ความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม
  • รถบรรทุกโดยสารที่โดยสารเกิน 15 คน ความเร็วไม่เกิน 90 กม./ชม
  • รถโรงเรียน ความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม
  • รถมอเตอร์ไซค์ ความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม
  • รถมอเตอร์ไซค์ 400 ซีซีขึ้นไป ความเร็วไม่เกิน 110 กม./ชม
  • รถลากจูง รถสามล้อ รถยนต์สี่ล้อเล็ก ความเร็วไม่เกิน 65 กม./ชม
  • รถแทรกเตอร์ รถบดถนน รถที่ใช้ในการเกษตร ความเร็วไม่เกิน 45 กม./ชม

 

กฎหมายความเร็วใหม่ล่าสุด ป้องกันอุบัติเหตุรถชน

ทำไมกฎหมายความเร็วจึงมีไว้ป้องกันอุบัติเหตุรถชน?

อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าความเร็วในการขับรถเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุรถชน คุณเลยคิดว่าเหตุผลอื่น ๆ สมควรถูกหยิบยกมาพูดถึงมากกว่า เช่น รถชนเพราะอะไหล่พัง รถชนเพราะเบรคแตก รถชนเพราะไม่มีคาร์ซีท หรือรถชนเพราะไม่คาดเข็มขัด ซึ่งเหตุผลที่ยกตัวอย่างมานี้คือเรื่องจริง แต่ในการขับรถความเร็วคือตัวแปรหลักนะครับ ดังนั้น ประกันติดโล่จะขอแจกแจงว่าทำไมความเร็วถึงทำให้เกิดอุบัติเหตุ คือ

วิสัยทัศน์อุโมงค์ คือคำตอบว่าทำไมควรขับรถตามกฎหมายความเร็ว

ถ้าคิดว่าจะขับรถเกินกว่าที่กฎหมายความเร็วกำหนด เพราะมั่นใจในตัวเองสุด ๆ ว่าปลายเท้าจะเหยียบเบรคได้ทันใจหากเกิดเหตุการณ์ตรงหน้า ประกันติดโล่อยากให้คุณนึกถึงทฤษฎีวิสัยทัศน์อุโมงค์กันก่อนว่าคืออะไรในการขับรถเร็วบนท้องถนน เผื่อว่าจะเปลี่ยนใจไม่ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนดแล้ว

โดยปกติแล้วเวลาขับรถสายตาจะเห็นวิสัยทัศน์ได้ 180 องศา แต่ถ้าความเร็วมากเท่าไหร่วิสัยทัศน์ที่มองเห็นบนถนนแบบ 180 องศาจะแคบลงทันที เช่น ขับรถเร็ว 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง องศาการมองเห็นจะเหลือ 50 องศา ทำให้มองไม่เห็นว่าข้างทางจะมีวัตถุหรือสิ่งมีชีวิตอะไรลอยมาตัดหน้าบนถนนหรือไม่

ดังนั้น การขับรถเร็วจึงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนอยู่บ่อย ๆ ครับ เพราะถูกบดบังวิสัยทัศน์ ต่อให้เท้าไวแค่ไหนก็ไม่อาจจะไปแตะเบรคได้ทันใจอย่างที่คิดแน่นอน และความสามารถในการมองเห็นจะลดลงถ้าขับรถตอนกลางคืน อันตรายก็จะเพิ่มมากขึ้น การขับรถตามกฎหมายความเร็วเลยจำเป็นอย่างยิ่ง

เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ภายในเสี้ยววินาทีถ้าเหยียบเบรคไม่ทัน

ที่ตั้งชื่อหัวข้อแบบนี้ ไม่ได้จะชี้นำให้คุณไปฝึกเหยียบเบรคให้ไวขึ้นเพื่อที่จะได้ขับรถด้วยความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด แต่ประกันติดโล่อยากเตือนใจให้คุณรู้เสมอว่าอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เพียงแค่เสี้ยววินาที บางครั้งไม่ทันตั้งตัวเลยด้วยซ้ำ พอเหยียบเบรคไม่ทันก็ทำให้เกิดอุบัติเหตุรถชนขึ้นไปตามระเบียบ

ยิ่งขับรถเร็วมากเท่าไหร่ ระยะเวลาในการเหยียบเบรคก็น้อยลงไปเป็นเท่าตัว สมมติว่า คุณขับรถด้วยความเร็วที่ 50 กิโลเมตร/ชั่วโมงจะมีระยะเบรคที่ 27 เมตร ถ้าขับเร็วขึ้นกว่านี้ระยะในการเหยียบเบรคก็เหลือจำนวนน้อยลง หากเกิดอุบัติเหตุก็เสียหายทั้งทรัพย์สินและชีวิตเลยนะครับ

ต่อให้มีประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองก็ตาม แต่จะดีกว่าไหมครับ ถ้าลดโอกาสการสร้างอุบัติเหตุบนท้องถนนให้น้อยลง ลดการสูญเสีย ลดความเสียใจต่อคนที่ยังอยู่ ทุกคนสามารถช่วยกันลดอุบัติเหตุได้ หากทำตามกฎหมายจราจร ซึ่งกฎหมายความเร็วไปสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามจริง ๆ นะครับ

 

สรุป

ความเร็วรถยนต์เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ เพราะในขณะที่ขับรถที่เกินกว่ากฎหมายความเร็วกำหนด คุณจะมองเห็นทางข้างหน้าด้วยทฤษฎีวิสัยทัศน์อุโมงค์จากที่มองเห็นหนทางได้แบบ 180 องศาจะถูกบีบให้แคบลงเพราะความเร็วเป็นตัวเร่งจนไม่รู้ว่าข้างหน้าจะมีวัตถุหรือสิ่งมีชีวิตอะไรตัดหน้าจนทำให้รถเสียการทรงตัวรถอาจชนท้ายคันหน้า รถแหกโค้ง หรือรถชนสัตว์ ทำให้เกิดความสูญเสียตั้งแต่ทรัพย์สินและชีวิต ดังนั้น ต่อให้มีประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครอง ก็ควรที่จะปฏิบัติตามกฎหมายความเร็วนะครับ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th;, ราชกิจจานุเบกษา

 



สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
สนใจ ประกันรถยนต์

กรอกข้อมูลติดต่อ

นอกจากประกันรถยนต์ อยากได้อะไรเพิ่ม?
การกดส่งข้อมูลแสดงว่าคุณอ่านและรับทราบ
นโยบายความเป็นส่วนตัว เรียบร้อยแล้ว

บทความแนะนำ

  • ข้อสอบใบขับขี่พร้อมเฉลย ล่าสุด 2567

    รวมเฉลยข้อสอบใบขับขี่ 2566 อย่างละเอียด ไม่อยากสอบหลายรอบมาเตรียมตัวให้พร้อมก่อนสอบจริงกับแนวข้อสอบใบขับขี่ภาคทฤษฎี 50 ข้อพร้อมเฉลย
    39,455
  • 7 รุ่น มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 2024 น่าสนใจ ขายในไทย จดทะเบียนได้

    รวม 7 รุ่น มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจดทะเบียนได้ มีขายในไทย 2023 พร้อมแนะนำวิธีเลือกมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าให้ตอบโจทย์การใช้งาน และการทำประกันรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
    11,477
  • วางแผนต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้กี่เดือน และต้องเตรียมอะไรบ้าง?

    ไม่อยากขาดต่อใบขับขี่ ทำความเข้าใจการต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้กี่เดือน เพื่อวางแผนและเตรียมเอกสารต่าง ๆ ให้พร้อม ป้องกันการทำผิดกฎหมายจราจร
    7,179