สำหรับคนรักรถยนต์แล้ว ความสวยงามของตัวถังและสีรถยนต์นั้นเป็นสิ่งที่จะเชิดหน้าชูตาให้กับตัวรถ แต่ในบางครั้งการจอดรถตากแดดก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ยิ่งเป็นเมืองไทยที่แดดแรงตลอดทั้งปีแบบนี้ การต้องจอดรถตากแดดเป็นประจำเราจะมีวิธีรักษาสภาพสีรถยนต์อย่างไรได้บ้าง?
บทความนี้เงินติดล้อจะขอแนะนำเคล็ดลับ 6 วิธีเพื่อดูแลสีรถยนต์สำหรับผู้ที่ต้องจอดรถตากแดดเป็นประจำ มาดูกันเลยครับว่ามีวิธีการอย่างไรบ้าง
จอดรถกลางแดดเป็นประจำส่งผลต่อรถยนต์อย่างไร?
เจ้าของรถยนต์หลายคนอาจสงสัยว่าจอดรถกลางแดดเป็นประจำแล้วส่งผลเสียอย่างไรต่อตัวรถ? เงินติดล้อจะอธิบายให้ฟังเองครับ
หลาย ๆ คนมักจะต้องเผชิญกับปัญหาที่จอดรถอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะคนที่ต้องขับรถออกไปข้างนอกบ่อย ๆ หรือทำงานประจำ อาจจำเป็นจะต้องจอดรถทิ้งไว้กลางแดดเป็นเวลานาน ซึ่งการทำแบบนี้จะส่งผลเสียต่อสีรถยนต์โดยตรง ทำให้ผิวเคลือบรถยนต์ถูกทำลาย สีภายในเริ่มซีดไม่สดใสเหมือนเดิม
นอกจากนี้อุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในตัวรถที่เป็นยางหรือพลาสติกก็จะเริ่มเสื่อมสภาพ แห้งกรอบ ใช้การไม่ได้ อย่างเช่นยางที่ปัดน้ำฝน คอนโซลหน้ารถ รวมถึงเบาะหนังด้วยเช่นกัน
โดยผลเสียเหล่านี้ยังไม่แสดงอาการหลังการจอดรถตากแดดเพียงไม่กี่ครั้งหรอกครับ แต่ในระยะยาวผลเสียเหล่านี้จะตามมาพร้อม ๆ กัน ทั้งสีรถยนต์ซีดและการเสื่อมสภาพภายใน ซึ่งในตอนนั้นคุณอาจจำเป็นจะต้องจ่ายค่าเสื่อมสภาพเหล่านี้เป็นเงินก้อนใหญ่อย่างแน่นอน
ถ้าไม่อยากต้องเจอกับปัญหานี้ในภายหลัง เรามาดูวิธีป้องกันสำหรับรถยนต์ที่ตากแดดเป็นประจำกันเลยดีกว่าครับ
6 วิธีดูแลสีรถยนต์สำหรับผู้จอดรถตากแดดเป็นประจำ
เข้าสู่ประเด็นสำคัญที่ว่า สำหรับผู้ที่จำเป็นต้องจอดรถตากแดดเป็นประจำนั้น จะต้องทำการดูแลรักษาอย่างไรไม่ให้สีรถยนต์ซีด เงินติดล้อได้ทำการรวบรวมมาให้ 6 วิธี ดังนี้เลยครับ!
-
ผ้าคลุมรถ
หนึ่งในวิธีการที่ดีที่สุดในการลดผลกระทบจากแสงแดดนั่นก็คือ ป้องกันไม่ให้แสงแดดเข้ามาโดน ซึ่งผ้าคลุมรถถือว่าเป็นตัวเลือกชั้นดีที่จะทำให้แดดไม่ทำอันตรายต่อสีรถยนต์ของคุณโดยตรง
ควรเลือกใช้ผ้าคลุมชนิดที่ได้มาตรฐาน มีคุณสมบัติทนความร้อน ต้านรังสี UV และมีสายรัดรอบคัน จะช่วยป้องกันสีรถยนต์ของคุณจากแสงแดดได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยรักษาความสะอาดไม่ให้มีคราบฝุ่น ขี้นก หรือแม้แต่ตอนฝนตกได้อีกด้วย เรียกได้ว่าผ้าคลุมผืนเดียวป้องกันได้ครบจบทุกปัญหา
-
ล้างรถสม่ำเสมอ
การจอดรถไว้กลางแดดหรือกลางแจ้งเป็นเวลานาน ๆ นั้นนอกจากจะทำให้ตัวถังรถ และสีรถยนต์สะสมความร้อนจนเกิดการเสื่อมสภาพแล้ว ยังเป็นการรวมคราบสกปรกต่าง ๆ ที่จะคอยกัดกร่อนสีอยู่ตลอดเวลา
เพราะฉะนั้น การล้างรถอย่างสม่ำเสมอจะช่วยคลายความร้อนภายในตัวรถ และชำระล้างความสกปรก ช่วยให้สีรถยนต์ยังคงสะอาด สดใสเหมือนเดิม และที่สำคัญต้องไม่ลืมใช้ผ้าเช็ดรถที่สะอาด เช็ดให้แห้ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดคราบ
-
เคลือบรถ
การเคลือบแวกซ์หลังล้างรถจะช่วยรักษาคุณภาพของสีรถยนต์ให้สวยสดงดงามอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าหากคุณอยากรักษาคุณภาพสีให้ดีกว่าเดิม แนะนำว่าให้ทำการเคลือบแก้ว แม้ว่าจะมีราคาที่สูงกว่า แต่ก็สามารถรักษาคุณภาพสีของตัวรถยนต์เอาไว้ได้ในระยะยาวเลยทีเดียว
-
ขัดสี
การขัดสีจะทำการขัดเอาเนื้อสีรถยนต์ภายนอกที่มีการเสื่อมสภาพออกเพื่อให้เห็นสีภายในที่ยังคงสภาพสมบูรณ์อยู่ ซึ่งการขัดสีนั้นแนะนำว่าไม่ควรทำบ่อย เพราะจะทำให้สีของตัวรถบางลงเรื่อย ๆ 
-
ติดฟิล์มกรองแสง
จากที่ได้กล่าวไปในข้างต้นว่าแสงแดดนั้นสามารถสร้างความเสียหายของอุปกรณ์ภายในรถได้ ไม่ว่าจะเป็นการเสื่อมสภาพของเบาะ อุปกรณ์ส่วนที่เป็นยาง และพลาสติกภายในตัวรถ โดยเฉพาะรถยนต์ที่เป็นเบาะหนัง จะทำให้หนังหุ้มเบาะแห้งกรอบ เสื่อมสภาพโดยเร็ว การติดฟิล์มกรองแสงจะช่วยลดความรุนแรงของแสงแดดที่จะเล็ดรอดเข้าไปในตัวรถได้เป็นอย่างดี
-
พยายามจอดรถในที่ร่ม
ทางที่ดีที่สุดและง่ายต่อการป้องกันสีรถยนต์จากแสงแดดนั่นก็คือ การจอดรถในที่ร่มนั่นเอง เพราะไม่ว่าจะป้องกันอย่างไรแสงแดดก็ยังคงส่งผลกระทบต่อตัวรถไม่มากก็น้อย จึงแนะนำว่าให้พยายามหาที่ร่ม ๆ จอดรถได้จะดีที่สุด
สรุป
การขับขี่ที่ดีควรมาพร้อมกับการดูแลเอาใจใส่สุขภาพรถอย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้ทุกคนก็น่าจะได้ทราบวิธีการดูแลรักษารถยนต์แบบง่าย ๆ เมื่อต้องนำรถไปตากแดดโดยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ คุณก็สามารถจัดการได้ตามวิธีที่เงินติดล้อรวบรวมมา รับรองว่าในอนาคตสภาพรถของคุณก็ยังคงสวยเหมือนใหม่ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องสีซีดหรือสีหลุดลอก