7 รุ่น มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 2024 น่าสนใจ ขายในไทย จดทะเบียนได้

11,515

“รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า” เป็นยานพาหนะที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ใช่แค่ในกลุ่มแม่บ้านเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกลุ่มหนุ่มสาวและวัยทำงานด้วย นั่นก็เพราะ รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในปัจจุบัน มีการพัฒนาระบบภายในอย่างก้าวกระโดด ทำให้สามารถใช้งานได้เหมือนกับรถมอเตอร์ไซค์ทั่วไป ไม่ต้องเสียค่าเติมน้ำมันรถ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว อีกทั้งพลังงานไฟฟ้ายังเป็นพลังงานสะอาด 100% จึงไม่ก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมในขณะขับขี่ด้วย!

สำหรับใครที่สนใจรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า แต่ยังไม่รู้ว่าจะซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี? ประกันติดโล่ ได้รวบรวม 7 รุ่น รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าน่าสนใจในปี 2023 สามารถหาซื้อได้ในไทย และจดทะเบียนได้ มาให้แล้ว จะน่าสนใจแค่ไหน ไปดูกันเลย!

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า คืออะไร?

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า (EV Bike) คือ รถจักรยานยนต์ที่ใช้มอเตอร์ขับเคลื่อนแทนเครื่องยนต์ ไม่ต้องใช้น้ำมัน ไม่มีการสันดาปภายใน แต่จะใช้กระแสไฟฟ้าที่ถูกเก็บไว้ในแบตเตอรี่เป็นตัวจ่ายไฟไปยังมอเตอร์แทน โดยมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแต่ละรุ่น จะมีขนาดแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้าที่แตกต่างกัน ซึ่งจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการขับขี่ของรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า

แนะนำวิธีเลือกซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าให้ตอบโจทย์การใช้งาน

เพื่อให้คุณสามารถเลือกซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามาใช้งานได้อย่างตอบโจทย์ และมีประสิทธิภาพสูงสุด เรามีทริคในการเลือกซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามาฝาก สามารถพิจารณาได้จาก 5 ข้อนี้เลย!

  • กำลังมอเตอร์ : กำลังมอเตอร์จะส่งผลต่ออัตราความเร็วสูงสุดและอัตราการเร่งเคลื่อน ถ้าหากคุณต้องการขับขี่บนท้องถนน ขับขี่ในระยะไกล ก็ควรที่จะเลือกรถที่มีกำลังมอเตอร์สูง เพื่อให้สามารถเร่งเครื่องแซงและหลบหลีกได้คล่องตัวกว่า
  • ระยะทางการวิ่งต่อการชาร์จ 1 ครั้ง : คุณจะต้องประเมินว่าระยะทางการวิ่งต่อการชาร์จ 1 ครั้ง สามารถครอบคลุมการใช้งานหรือไม่ เพื่อที่จะได้วางแผนการขับขี่อย่างต่อเนื่อง และหาจุดชาร์จนอกบ้านได้
  • ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ : แบตเตอรี่จะแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ แบตเตอรี่กรดตะกั่ว เป็นแบตเตอรี่แบบเก่าที่มีราคาถูก และ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน เป็นแบตเตอรี่แบบใหม่ที่เก็บไฟฟ้าได้มากกว่า และชาร์จเร็วกว่า หากต้องการใช้งานบ่อย ๆ เป็นประจำ แนะนำให้เลือกรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่แบบใหม่จะดีที่สุด
  • จดทะเบียนมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า : รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าต้องจดทะเบียนรถได้ ไม่อย่างนั้นจะถือว่าผิดกฎหมาย เมื่อนำไปขับขี่บนท้องถนนก็สามารถถูกเจ้าหน้าที่จราจรจับกุม และเรียกค่าปรับได้
  • บริการหลังการขาย : เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญมาก เพราะเมื่อใช้งานแล้วเกิดปัญหา จะได้สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ เนื่องจากรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจะมีระบบการทำงานเฉพาะ อาจไม่สามารถซ่อมแซมกับร้านซ่อมจักรยานยนต์ทั่วไปได้

ประกันติดโล่สรุปให้! เลือกมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ายังไงให้ตอบโจทย์


  1. กำลังมอเตอร์สูง ขับขี่ได้อย่างคล่องตัว
  2. ชาร์จ 1 ครั้ง ต้องครอบคลุมการใช้งาน
  3. แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน  เก็บไฟได้มาก และชาร์จเร็ว
  4. มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจดทะเบียนได้ ไม่กลัวผิดกฎหมาย
  5. มีบริการหลังการขายที่ดี หมดกังวลเรื่องใช้งานแล้วเกิดปัญหา

แนะนำ 7 รุ่น มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี จดทะเบียนได้ หาซื้อได้ในไทย [อัปเดต 2024]

แล้วมอไซค์ไฟฟ้าจดทะเบียนได้มียี่ห้อไหนบ้าง? ควรเลือกซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี? คงเป็นคำถามที่หลายคนสงสัย เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เรามี 7 รุ่น รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าน่าสนใจในปี 2024 สามารถหาซื้อได้ในไทย และจดทะเบียนได้ มาแนะนำ สามารถเปรียบเทียบข้อมูลและเลือกรุ่นที่ตนเองสนใจได้เลย!

1. Saber Tiger AJ EV BIKE

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่น Saber Tiger AJ EV BIKE

Saber Tiger เป็นรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดจาก AJ EV BIKE ที่เอาใจสายความไว มาพร้อมกับดีไซน์โฉบเฉี่ยว ทันสมัย และสามารถเพิ่มอัตราเร่งได้อย่างถึงใจ ช่วยให้คุณสามารถขับขี่ได้อย่างรวดเร็ว ลุยได้ทุกเส้นทาง ไม่แพ้การขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ทั่วไปเลย

จุดเด่นของ Saber Tiger

  • กำลังมอเตอร์ 2,000 W ทำความเร็วได้สูงสุดถึง 80 กม./ชม.
  • ขับระยะทางไกลได้สูงสุด 150 กม.
  • ขับขี่ปลอดภัย ด้วยระบบเบรคแบบ Disc Brake ทั้งล้อหน้าและหลัง
  • ขับขี่นุ่มนวล ด้วยโช้คอัพทั้งหน้าและหลัง 
  • มีลำโพงบลูทูธสามารถเชื่อมต่อเปิดเพลงได้

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า รุ่น Saber Tiger จะมีราคาประมาณ 89,900 บาท

2. HANNAH Deco Green Energy

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่น HANNAH Deco Green Energy

HANNAH รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าดีไซน์เฉียบ มีระดับ จาก Deco Green Energy มาพร้อมกับหน้าจอ LED สว่างคมชัด ขับขี่ง่าย ไม่ว่าใครก็สามารถใช้งานได้ โดยจะมีให้เลือกถึง 5 สีด้วยกัน ได้แก่ ขาว เทา ดำ น้ำเงิน และแดง สามารถเลือกสีรถที่ถูกใจคุณได้เลย 

จุดเด่นของ HANNAH

  • แผงคอนโซลมาพร้อมหน้าจอ LED สว่างคมชัด แสดงผลข้อมูลความเร็ว ระยะทาง และแบตเตอรี่ได้อย่างชัดเจน
  • ใช้ Smart Key System ในการควบคุมการใช้งาน
  • รองรับ USB สำหรับชาร์จแบตสมาร์ตโฟน
  • ไฟหน้ารถเป็นแสงสว่างหลอด LED รูปทรงตัว U
  • ขาตั้งมีสวิทช์สำหรับควบคุมความปลอดภัย ป้องกันไม่ให้รถออกตัวได้ขณะที่ขาตั้งข้างกางลงมา

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า รุ่น HANNAH จะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 49,900 บาท

3. NQiGT Sport NIU

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่น NQiGT Sport NIU

NQiGT Sport รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจาก NIU ที่จะพาคุณก้าวข้ามจากสิ่งเดิม ๆ ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 3,000 วัตต์ ที่ถูกออกแบบมาพิเศษ ทำให้มีอัตราเร่งที่รวดเร็วทันใจ สามารถขับขี่ได้ความเร็วสูงสุด 80 กม./ชม. ช่วยให้คุณเดินทางในเมืองได้เร็วขึ้นกว่าที่เคย

จุดเด่นของ NQiGT Sport

  • ความเร็วสูงสุด 80 กม./ชม. และขับขี่ได้ระยะทางสูงสุด 80 – 120 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
  • ใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่ลิเธียม เจเนอเรชัน 4
  • มีระบบกันขโมยและระบบติดตามรถด้วย GPS
  • สามารถดูข้อมูลของตัวรถได้อย่างละเอียดผ่านแอปพลิเคชัน NIU

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า รุ่น NQiGT Sport จะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 154,900 บาท

4. CIAO HSEM Motor

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่น CIAO HSEM Motor

หากคุณกำลังมองหารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่มีสีสันโดดเด่น เพื่อบอกความเป็นตัวคุณได้อย่างชัดเจน เราขอแนะนำรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า CIAO จาก HSEM Motor เลย โดยรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นนี้ จะมีให้เลือกถึง 4 สี ได้แก่ สีแดง สีเหลือง สีฟ้า และสีขาว พร้อมดีไซน์ที่โดดเด่น ตอบโจทย์ทุกความชอบของวัยรุ่นอย่างแน่นอน!

จุดเด่นของ CIAO

  • ความเร็วสูงสุด 60 กม./ชม.  และขับขี่ได้ระยะทางสูงสุด 60 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
  • มาพร้อมกับโหมดปรับความเร็ว 3 ระดับ
  • ใช้ระยะเวลาชาร์จไฟ 3 – 4 ชั่วโมง เฉลี่ยค่าใช้จ่ายเพียง 7 – 8 บาทต่อการชาร์จ 1 ครั้งเท่านั้น
  • มีระบบเกียร์ เดินหน้า 3 เกียร์
  • ขับขี่ปลอดภัย มีระบบเบรกล้อหน้าและล้อหลังแบบดิสเบรก
  • ใช้กุญแจ Smart Key ในการควบคุมการใช้งาน
  • มีพอร์ต USB สำหรับชาร์จสมาร์ตโฟน

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า รุ่น CIAO จะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 49,700 บาท

5. MYRA ETRAN

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่น MYRA ETRAN

MYRA รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าดีไซน์สุดชิคจาก ETRAN ที่ออกแบบเพื่อการใช้งานในเมืองโดยเฉพาะ ให้คุณได้ขับขี่อย่างรวดเร็ว อัตราเร่งเครื่องแรง คล่องตัวสูง และมีความปลอดภัย หากคุณกำลังมองหารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไปใช้งานในเมือง MYRA นับเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจมาก!

จุดเด่นของ MYRA

  • ความเร็วสูงสุด 120 กม./ชม.  และมีระยะทางสูงสุด 250 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
  • มอเตอร์ 7,000 วัตต์ สร้างแรงบิดได้สูงสุดถึง 200 นิวตันเมตร หมดกังวลเรื่องการเร่งเครื่องแซง
  • ใช้แบตเตอรี่ 51 ah 2 ลูก ขับขี่ได้ยาว ๆ
  • ใช้สายชาร์จแบบปลั๊กไฟบ้าน สามารถชาร์จไฟได้ที่บ้านอย่างสะดวก
  • มี ETRAN POWERSTATION 14 จุดทั่วกรุงเทพมหานคร หากไม่สะดวกชาร์จไฟ สามารถเข้าไปเปลี่ยนแบต เพื่อขับขี่ต่อทันทีได้เลย

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า รุ่น MYRA จะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 79,900 บาท

6. VESPAL KAVALLO

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่น VESPAL KAVALLO

หากคุณเป็นสายวินเทจ เราขอแนะนำ VESPAL จาก KAVALLO ที่มาพร้อมกับดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ให้คุณขับขี่ได้อย่างสนุกและเป็นตัวเองมากที่สุด โดยจะมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีแดง สีขาว และสีฟ้า พร้อมฟังก์ชันการใช้งานอย่างจัดเต็ม ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน

จุดเด่นของ VESPAL

  • ความเร็วสูงสุด 60 กม./ชม. และระยะทางสูงสุด 65 – 70 กม.
  • ใช้เทคโนโลยีประจุไฟฟ้าที่รองรับการชาร์จไฟมากกว่า 1,000 ครั้ง พร้อมระบบตัดไฟฟ้าเมื่อชาร์จเต็ม เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการชาร์จ
  • ควบคุมการทำงานด้วย Smart Key Security ที่มาพร้อมกับสัญญาณกันขโมย
  • ประหยัดค่าใช้จ่าย ชาร์จ 1 ครั้ง ใช้ไฟฟ้าไม่ถึง 10 บาท

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า รุ่น VESPAL จะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 72,000 บาท

7. E01 Yamaha

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่น E01 Yamaha

ปิดท้ายด้วยแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจาก Yamaha อย่าง E01 ที่มาพร้อมกับโครงสร้างแบบสปอร์ตสกู๊ตเตอร์ ช่วยให้คุณขับขี่ได้อย่างคล่องตัว และให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมสุด ๆ ใช้ไฟหน้าแบบ LED สไตล์แบบ R-Series และมีชิวบังลมด้านหน้าขนาดใหญ่ ช่วยลดแรงปะทะจากลมขณะขับขี่ นับเป็นอีกรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าน่าสนใจที่คุณไม่ควรพลาด

จุดเด่นของ E01

  • ความเร็วสูงสุด 100 กม./ชม. และระยะทางสูงสุด 104 กม.
  • มีระบบชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่อย่างรวดเร็ว จาก 0% ถึง 90% ได้ภายใน 1 ชั่วโมง ช่วยให้คุณใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
  • ระบบเบรกเป็นดิสก์เบรกเดี่ยว พร้อมปั้มเบรก 1 พอต
  • มาพร้อมโหมดการขับขี่ 3 โหมด ได้แก่ โหมดพาวเวอร์ (PWR), โหมดมาตรฐาน (STD) และ . โหมดประหยัดพลังงาน (ECO) 

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า รุ่น E01 จะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 179,000 บาท

ความสำคัญของการจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า

การจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าก่อนใช้งานเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไม่อย่างนั้นจะถือว่าผิดกฎหมายและสามารถถูกตำรวจจับได้ โดยสำหรับคนที่อยู่ในกรุงเทพมหานคร สามารถจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าได้ที่สำนักมาตรฐานงานทะเบียนและภาษีรถจักรยานยนต์ กรมการขนส่งทางบก ส่วนคนที่อาศัยอยู่ต่างจังหวัด สามารถจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าได้ที่สำนักงานขนส่งประจำจังหวัด

เอกสารที่ใช้ในการจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ มีดังนี้

  • แบบคำขอจดทะเบียนรถ
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของรถ (ในกรณีที่ให้ผู้อื่นดำเนินการแทน จะต้องมีหนังสือมอบอำนาจด้วย)
  • หนังสือแจ้งจำหน่ายจากบริษัทผู้ผลิต
  • หลักฐานเจ้าของรถ ได้แก่ สัญญาซื้อขาย หรือสัญญาเช่าซื้อ
  • หลักฐานการประกันภัยตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535
  • ใบเสร็จรับเงิน และใบกำกับภาษี

ในส่วนของค่าจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจะอยู่ที่ประมาณ 500 – 1,000 บาท รวมค่าจดทะเบียนรถใหม่ ป้ายทะเบียนรถ คู่มือจดทะเบียนรถ และค่าธรรมเนียมอัตราภาษีประจำปีของรถแต่ละประเภท (พรบ.)

“รถยนต์ไฟฟ้า” อีกหนึ่งตัวเลือกน่าสนใจที่สายอีโค่ห้ามพลาด!

นอกจากรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแล้ว รถยนต์ไฟฟ้าก็เป็นอีกหนึ่งยานพาหนะที่มาแรงไม่แพ้กัน เพราะมีดีไซน์ที่สวยงาม ทันสมัย สามารถขับขี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่แพ้กับรถยนต์ทั่วไปในท้องตลาดเลย อีกทั้งในปัจจุบันก็มีผู้ให้บริการหลายเจ้าที่เปิดให้บริการสถานีชาร์จรถไฟฟ้าอยู่ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหน ก็สามารถขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างมั่นใจ หาที่ชาร์จรถไฟฟ้าได้อย่างสะดวก!

สำหรับใครที่ยังไม่รู้จะเลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี? เรามี 3 รุ่น รถยนต์ไฟฟ้าที่มีฟังก์ชันน่าสนใจมาแนะนำ จะมีรุ่นอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย!

1. รถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3

รถยนต์ไฟฟ้า รุ่น Tesla Model 3

Tesla เป็นหนึ่งในยี่ห้อรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมและมาแรงที่สุดในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็น ในไทย หรือต่างประเทศ โดยรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 จะมาพร้อมกับโครงสร้างโลหะที่ผสมผสานระหว่างอะลูมิเนียมและเหล็ก ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับรถยนต์ สามารถลุยได้ในทุกพื้นที่ 

นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกขับเคลื่อนสี่ล้อมอเตอร์คู่ ใช้ล้อ Uberturbine ขนาด 20 นิ้ว เบรคแบบสมรรถนะสูง และสปอยเลอร์คาร์บอนไฟเบอร์ที่ช่วยเพิ่มเสถียรภาพที่ความเร็วสูง ทำให้รถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 3.3 วินาที ใครที่เป็นสายความเร็วต้องไม่พลาดรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้เลย!

2. รถยนต์ไฟฟ้า MG4

รถยนต์ไฟฟ้า รุ่น MG4

ต่อด้วยรถยนต์ไฟฟ้าจากแบรนด์ดังอย่างเอ็มจี (MG) อย่างรถยนต์ไฟฟ้า MG4 ที่มาพร้อมกับสไตล์แฮทช์แบ็ก 5 ประตู สามารถเก็บสัมภาระและใช้สอยประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยรถยนต์รุ่นนี้จะมาพร้อมกับนวัตกรรม NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM ที่พัฒนาเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ แบตเตอรี่จะติดตั้งชิ้นเดียวกับโครงสร้างตัวรถ ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่ให้สมรรถนะสูง และมีระบบช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ แบบ 5-LINK SUSPENSION ที่ช่วยเพิ่มการเกาะถนนและเข้าโค้งได้อย่างเฉียบคม ซึ่งจะช่วยให้คุณขับขี่รถยนต์ด้วยความเร็วที่มีเสถียรภาพอย่างดีเยี่ยม

สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า MG4 จะสามารถวิ่งได้ถึง 425 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ทำกำลังสูงสุดได้ที่ 170 แรงม้า และใช้ระยะเวลาการชาร์จพลังงานจาก 10% – 80% ในระยะเวลาแค่ 35 นาที เท่านั้น

3. รถยนต์ไฟฟ้า BYD Atto 3

รถยนต์ไฟฟ้า รุ่น BYD Atto 3

ปิดท้ายด้วยแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีนที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกอย่าง BYD โดยรถยนต์ไฟฟ้า  BYD Atto 3 จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าประเภท B-SUV ที่มาพร้อมกับดีไซน์ภายนอกในรูปแบบหน้ามังกร ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์ยี่ห้อนี้ ไฟหน้ารถจะเป็นไฟ LED เต็มระบบ ทั้งไฟต่ำ ไฟสูง และใช้ไฟ DRL ตัวกระจังหน้ามาเป็นแบบปิดทึบ 

สำหรับฟังก์ชันที่น่าสนใจของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ จะมาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor ที่มีกำลังสูงสุด 204 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร วิ่งได้สูงสุดที่ 410 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 160 กม./ชม. นับเป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้ามาตรฐานที่มีความน่าสนใจไม่แพ้รุ่นอื่น ๆ เลย

หากคุณสนใจเปลี่ยนมาใช้รถยนต์พลังงานสะอาด ไม่สร้างมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม ก็สามารถเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ถูกใจมาใช้งานได้เลย ที่สำคัญยังสามารถนำรถยนต์ไฟฟ้ามาทำประกันรถยนต์กับประกันติดโล่ได้อีกด้วย!

รถยนต์ไฟฟ้า รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ขอสินเชื่อรถแลกเงินได้ไหม?

ในปัจจุบัน เงินติดล้อยังไม่มีบริการสินเชื่อรถแลกเงิน สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า และมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า แต่อย่างไรก็ตาม เรามีบริการประกันรถยนต์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ใครที่มีรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ แล้วยังไม่ได้ทำประกันรถยนต์ สามารถมาทำประกันรถยนต์กับประกันติดโล่ได้เลย

ประกันติดโล่พร้อมช่วยคุณรับมือกับทุกเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ด้วยประกันรถยนต์จากบริษัทประกันชั้นนำมากมาย เรามีแผนประกันให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ ประกันรถชั้น 1 ประกันชั้น 2+ หรือ ประกันชั้น 3+  ให้ความคุ้มครองครอบคลุมทั้งในส่วนของตัวรถผู้เอาประกันภัย ทั้งการชน สูญหาย หรือเกิดเหตุไฟไหม้ รวมถึงอุบัติเหตุส่วนบุคคล ค่ารักษาพยาบาล การประกันตัวผู้ขับขี่ ไปจนถึงความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก ซึ่งคุณสามารถเลือกแผนประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการที่สุดได้เลย 

ประกันรถยนต์จากประกันติดโล่ จ่ายสบายกระเป๋า สามารถผ่อนสด 0% ได้สูงสุด 10 งวด ที่สำคัญยังเริ่มต้นคุ้มครองและเคลมได้ทันทีตั้งแต่วันแรกที่เริ่มผ่อน ให้การดูแลครอบคลุมทั่วประเทศผ่านช่องทางสาขามากกว่า 1,700 สาขา และมีบริการ Call Center ตลอด 24 ชั่วโมง หากสนใจ สามารถติดต่อได้ที่ประกันติดโล่ทุกสาขาเลย!

 

สรุปเรื่องรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าน่าสนใจ ปี 2024

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 7 รุ่นรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าน่าสนใจที่ประกันติดโล่นำมาแนะนำในบทความนี้ จะเห็นได้ว่า มีทั้งรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสำหรับใช้งานทั่วไป และขับขี่บนท้องถนนใหญ่ หากสนใจรุ่นไหน ก็สามารถไปทดลองขับขี่ที่ศูนย์จัดจำหน่ายได้เลย และสำหรับใครที่กำลังใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ แล้วยังไม่ได้ทำประกันรถยนต์ ก็อย่าลืมมาทำประกันรถยนต์ไฟฟ้ากับประกันติดโล่ เพื่อที่จะได้ขับขี่บนท้องถนนอย่างสบายใจที่สุด

ขอบคุณข้อมูลจาก: AJ EV BIKE, Green Network Thailand



สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
สนใจ ประกันรถยนต์

กรอกข้อมูลติดต่อ

นอกจากประกันรถยนต์ อยากได้อะไรเพิ่ม?
การกดส่งข้อมูลแสดงว่าคุณอ่านและรับทราบ
นโยบายความเป็นส่วนตัว เรียบร้อยแล้ว

บทความแนะนำ

  • ข้อสอบใบขับขี่พร้อมเฉลย ล่าสุด 2567

    รวมเฉลยข้อสอบใบขับขี่ 2566 อย่างละเอียด ไม่อยากสอบหลายรอบมาเตรียมตัวให้พร้อมก่อนสอบจริงกับแนวข้อสอบใบขับขี่ภาคทฤษฎี 50 ข้อพร้อมเฉลย
    39,813
  • วางแผนต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้กี่เดือน และต้องเตรียมอะไรบ้าง?

    ไม่อยากขาดต่อใบขับขี่ ทำความเข้าใจการต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้กี่เดือน เพื่อวางแผนและเตรียมเอกสารต่าง ๆ ให้พร้อม ป้องกันการทำผิดกฎหมายจราจร
    7,232
  • ใบขับขี่ประเภท 2 และใบขับขี่ บ.2 ท.2 ขับรถอะไรได้บ้าง?

    หากขับรถเพื่อขนส่งสินค้าต้องรู้ เพื่อเลือกทำใบขับขี่ประเภท 2 ไม่ว่าเป็นใบขับขี่ บ.2 หรือใบขับขี่ ท.2 ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย หากไม่อยากโดนปรับ
    6,802