“รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า” เป็นยานพาหนะที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ใช่แค่ในกลุ่มแม่บ้านเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกลุ่มหนุ่มสาวและวัยทำงานด้วย นั่นก็เพราะ รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในปัจจุบัน มีการพัฒนาระบบภายในอย่างก้าวกระโดด ทำให้สามารถใช้งานได้เหมือนกับรถมอเตอร์ไซค์ทั่วไป ไม่ต้องเสียค่าเติมน้ำมันรถ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว อีกทั้งพลังงานไฟฟ้ายังเป็นพลังงานสะอาด 100% จึงไม่ก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมในขณะขับขี่ด้วย!
สำหรับใครที่สนใจรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า แต่ยังไม่รู้ว่าจะซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี? เงินติดล้อ ได้รวบรวม 7 รุ่น รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าน่าสนใจในปี 2023 สามารถหาซื้อได้ในไทย และจดทะเบียนได้ มาให้แล้ว จะน่าสนใจแค่ไหน ไปดูกันเลย!
มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า คืออะไร?
มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า (EV Bike) คือ รถจักรยานยนต์ที่ใช้มอเตอร์ขับเคลื่อนแทนเครื่องยนต์ ไม่ต้องใช้น้ำมัน ไม่มีการสันดาปภายใน แต่จะใช้กระแสไฟฟ้าที่ถูกเก็บไว้ในแบตเตอรี่เป็นตัวจ่ายไฟไปยังมอเตอร์แทน โดยมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแต่ละรุ่น จะมีขนาดแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้าที่แตกต่างกัน ซึ่งจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการขับขี่ของรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
แนะนำวิธีเลือกซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าให้ตอบโจทย์การใช้งาน
เพื่อให้คุณสามารถเลือกซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามาใช้งานได้อย่างตอบโจทย์ และมีประสิทธิภาพสูงสุด เรามีทริคในการเลือกซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามาฝาก สามารถพิจารณาได้จาก 5 ข้อนี้เลย!
- กำลังมอเตอร์ : กำลังมอเตอร์จะส่งผลต่ออัตราความเร็วสูงสุดและอัตราการเร่งเคลื่อน ถ้าหากคุณต้องการขับขี่บนท้องถนน ขับขี่ในระยะไกล ก็ควรที่จะเลือกรถที่มีกำลังมอเตอร์สูง เพื่อให้สามารถเร่งเครื่องแซงและหลบหลีกได้คล่องตัวกว่า
- ระยะทางการวิ่งต่อการชาร์จ 1 ครั้ง : คุณจะต้องประเมินว่าระยะทางการวิ่งต่อการชาร์จ 1 ครั้ง สามารถครอบคลุมการใช้งานหรือไม่ เพื่อที่จะได้วางแผนการขับขี่อย่างต่อเนื่อง และหาจุดชาร์จนอกบ้านได้
- ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ : แบตเตอรี่จะแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ แบตเตอรี่กรดตะกั่ว เป็นแบตเตอรี่แบบเก่าที่มีราคาถูก และ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน เป็นแบตเตอรี่แบบใหม่ที่เก็บไฟฟ้าได้มากกว่า และชาร์จเร็วกว่า หากต้องการใช้งานบ่อย ๆ เป็นประจำ แนะนำให้เลือกรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่แบบใหม่จะดีที่สุด
- จดทะเบียนมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า : รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าต้องจดทะเบียนรถได้ ไม่อย่างนั้นจะถือว่าผิดกฎหมาย เมื่อนำไปขับขี่บนท้องถนนก็สามารถถูกเจ้าหน้าที่จราจรจับกุม และเรียกค่าปรับได้
- บริการหลังการขาย : เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญมาก เพราะเมื่อใช้งานแล้วเกิดปัญหา จะได้สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ เนื่องจากรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจะมีระบบการทำงานเฉพาะ อาจไม่สามารถซ่อมแซมกับร้านซ่อมจักรยานยนต์ทั่วไปได้
เงินติดล้อสรุปให้! เลือกมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ายังไงให้ตอบโจทย์
- กำลังมอเตอร์สูง ขับขี่ได้อย่างคล่องตัว
- ชาร์จ 1 ครั้ง ต้องครอบคลุมการใช้งาน
- แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน เก็บไฟได้มาก และชาร์จเร็ว
- มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจดทะเบียนได้ ไม่กลัวผิดกฎหมาย
- มีบริการหลังการขายที่ดี หมดกังวลเรื่องใช้งานแล้วเกิดปัญหา
แนะนำ 7 รุ่น มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี จดทะเบียนได้ หาซื้อได้ในไทย [อัปเดต 2023]
แล้วมอไซค์ไฟฟ้าจดทะเบียนได้มียี่ห้อไหนบ้าง? ควรเลือกซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี? คงเป็นคำถามที่หลายคนสงสัย เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เรามี 7 รุ่น รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าน่าสนใจในปี 2023 สามารถหาซื้อได้ในไทย และจดทะเบียนได้ มาแนะนำ สามารถเปรียบเทียบข้อมูลและเลือกรุ่นที่ตนเองสนใจได้เลย!
1. Saber Tiger AJ EV BIKE
Saber Tiger เป็นรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดจาก AJ EV BIKE ที่เอาใจสายความไว มาพร้อมกับดีไซน์โฉบเฉี่ยว ทันสมัย และสามารถเพิ่มอัตราเร่งได้อย่างถึงใจ ช่วยให้คุณสามารถขับขี่ได้อย่างรวดเร็ว ลุยได้ทุกเส้นทาง ไม่แพ้การขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ทั่วไปเลย
จุดเด่นของ Saber Tiger
- กำลังมอเตอร์ 2,000 W ทำความเร็วได้สูงสุดถึง 80 กม./ชม.
- ขับระยะทางไกลได้สูงสุด 150 กม.
- ขับขี่ปลอดภัย ด้วยระบบเบรคแบบ Disc Brake ทั้งล้อหน้าและหลัง
- ขับขี่นุ่มนวล ด้วยโช้คอัพทั้งหน้าและหลัง
- มีลำโพงบลูทูธสามารถเชื่อมต่อเปิดเพลงได้
มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า รุ่น Saber Tiger จะมีราคาประมาณ 89,900 บาท
2. HANNAH Deco Green Energy
HANNAH รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าดีไซน์เฉียบ มีระดับ จาก Deco Green Energy มาพร้อมกับหน้าจอ LED สว่างคมชัด ขับขี่ง่าย ไม่ว่าใครก็สามารถใช้งานได้ โดยจะมีให้เลือกถึง 5 สีด้วยกัน ได้แก่ ขาว เทา ดำ น้ำเงิน และแดง สามารถเลือกสีรถที่ถูกใจคุณได้เลย
จุดเด่นของ HANNAH
- แผงคอนโซลมาพร้อมหน้าจอ LED สว่างคมชัด แสดงผลข้อมูลความเร็ว ระยะทาง และแบตเตอรี่ได้อย่างชัดเจน
- ใช้ Smart Key System ในการควบคุมการใช้งาน
- รองรับ USB สำหรับชาร์จแบตสมาร์ตโฟน
- ไฟหน้ารถเป็นแสงสว่างหลอด LED รูปทรงตัว U
- ขาตั้งมีสวิทช์สำหรับควบคุมความปลอดภัย ป้องกันไม่ให้รถออกตัวได้ขณะที่ขาตั้งข้างกางลงมา
มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า รุ่น HANNAH จะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 49,900 บาท
3. NQiGT Sport NIU
NQiGT Sport รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจาก NIU ที่จะพาคุณก้าวข้ามจากสิ่งเดิม ๆ ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 3,000 วัตต์ ที่ถูกออกแบบมาพิเศษ ทำให้มีอัตราเร่งที่รวดเร็วทันใจ สามารถขับขี่ได้ความเร็วสูงสุด 80 กม./ชม. ช่วยให้คุณเดินทางในเมืองได้เร็วขึ้นกว่าที่เคย
จุดเด่นของ NQiGT Sport
- ความเร็วสูงสุด 80 กม./ชม. และขับขี่ได้ระยะทางสูงสุด 80 - 120 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
- ใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่ลิเธียม เจเนอเรชัน 4
- มีระบบกันขโมยและระบบติดตามรถด้วย GPS
- สามารถดูข้อมูลของตัวรถได้อย่างละเอียดผ่านแอปพลิเคชัน NIU
มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า รุ่น NQiGT Sport จะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 154,900 บาท
4. CIAO HSEM Motor
หากคุณกำลังมองหารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่มีสีสันโดดเด่น เพื่อบอกความเป็นตัวคุณได้อย่างชัดเจน เราขอแนะนำรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า CIAO จาก HSEM Motor เลย โดยรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นนี้ จะมีให้เลือกถึง 4 สี ได้แก่ สีแดง สีเหลือง สีฟ้า และสีขาว พร้อมดีไซน์ที่โดดเด่น ตอบโจทย์ทุกความชอบของวัยรุ่นอย่างแน่นอน!
จุดเด่นของ CIAO
- ความเร็วสูงสุด 60 กม./ชม. และขับขี่ได้ระยะทางสูงสุด 60 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
- มาพร้อมกับโหมดปรับความเร็ว 3 ระดับ
- ใช้ระยะเวลาชาร์จไฟ 3 - 4 ชั่วโมง เฉลี่ยค่าใช้จ่ายเพียง 7 - 8 บาทต่อการชาร์จ 1 ครั้งเท่านั้น
- มีระบบเกียร์ เดินหน้า 3 เกียร์
- ขับขี่ปลอดภัย มีระบบเบรกล้อหน้าและล้อหลังแบบดิสเบรก
- ใช้กุญแจ Smart Key ในการควบคุมการใช้งาน
- มีพอร์ต USB สำหรับชาร์จสมาร์ตโฟน
มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า รุ่น CIAO จะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 49,700 บาท
5. MYRA ETRAN
MYRA รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าดีไซน์สุดชิคจาก ETRAN ที่ออกแบบเพื่อการใช้งานในเมืองโดยเฉพาะ ให้คุณได้ขับขี่อย่างรวดเร็ว อัตราเร่งเครื่องแรง คล่องตัวสูง และมีความปลอดภัย หากคุณกำลังมองหารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไปใช้งานในเมือง MYRA นับเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจมาก!
จุดเด่นของ MYRA
- ความเร็วสูงสุด 120 กม./ชม. และมีระยะทางสูงสุด 250 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
- มอเตอร์ 7,000 วัตต์ สร้างแรงบิดได้สูงสุดถึง 200 นิวตันเมตร หมดกังวลเรื่องการเร่งเครื่องแซง
- ใช้แบตเตอรี่ 51 ah 2 ลูก ขับขี่ได้ยาว ๆ
- ใช้สายชาร์จแบบปลั๊กไฟบ้าน สามารถชาร์จไฟได้ที่บ้านอย่างสะดวก
- มี ETRAN POWERSTATION 14 จุดทั่วกรุงเทพมหานคร หากไม่สะดวกชาร์จไฟ สามารถเข้าไปเปลี่ยนแบต เพื่อขับขี่ต่อทันทีได้เลย
มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า รุ่น MYRA จะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 79,900 บาท
6. VESPAL KAVALLO
หากคุณเป็นสายวินเทจ เราขอแนะนำ VESPAL จาก KAVALLO ที่มาพร้อมกับดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ให้คุณขับขี่ได้อย่างสนุกและเป็นตัวเองมากที่สุด โดยจะมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีแดง สีขาว และสีฟ้า พร้อมฟังก์ชันการใช้งานอย่างจัดเต็ม ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
จุดเด่นของ VESPAL
- ความเร็วสูงสุด 60 กม./ชม. และระยะทางสูงสุด 65 - 70 กม.
- ใช้เทคโนโลยีประจุไฟฟ้าที่รองรับการชาร์จไฟมากกว่า 1,000 ครั้ง พร้อมระบบตัดไฟฟ้าเมื่อชาร์จเต็ม เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการชาร์จ
- ควบคุมการทำงานด้วย Smart Key Security ที่มาพร้อมกับสัญญาณกันขโมย
- ประหยัดค่าใช้จ่าย ชาร์จ 1 ครั้ง ใช้ไฟฟ้าไม่ถึง 10 บาท
มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า รุ่น VESPAL จะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 72,000 บาท
7. E01 Yamaha
ปิดท้ายด้วยแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจาก Yamaha อย่าง E01 ที่มาพร้อมกับโครงสร้างแบบสปอร์ตสกู๊ตเตอร์ ช่วยให้คุณขับขี่ได้อย่างคล่องตัว และให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมสุด ๆ ใช้ไฟหน้าแบบ LED สไตล์แบบ R-Series และมีชิวบังลมด้านหน้าขนาดใหญ่ ช่วยลดแรงปะทะจากลมขณะขับขี่ นับเป็นอีกรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าน่าสนใจที่คุณไม่ควรพลาด
จุดเด่นของ E01
- ความเร็วสูงสุด 100 กม./ชม. และระยะทางสูงสุด 104 กม.
- มีระบบชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่อย่างรวดเร็ว จาก 0% ถึง 90% ได้ภายใน 1 ชั่วโมง ช่วยให้คุณใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
- ระบบเบรกเป็นดิสก์เบรกเดี่ยว พร้อมปั้มเบรก 1 พอต
- มาพร้อมโหมดการขับขี่ 3 โหมด ได้แก่ โหมดพาวเวอร์ (PWR), โหมดมาตรฐาน (STD) และ . โหมดประหยัดพลังงาน (ECO)
มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า รุ่น E01 จะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 179,000 บาท
ความสำคัญของการจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
การจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าก่อนใช้งานเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไม่อย่างนั้นจะถือว่าผิดกฎหมายและสามารถถูกตำรวจจับได้ โดยสำหรับคนที่อยู่ในกรุงเทพมหานคร สามารถจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าได้ที่สำนักมาตรฐานงานทะเบียนและภาษีรถจักรยานยนต์ กรมการขนส่งทางบก ส่วนคนที่อาศัยอยู่ต่างจังหวัด สามารถจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าได้ที่สำนักงานขนส่งประจำจังหวัด
เอกสารที่ใช้ในการจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ มีดังนี้
- แบบคำขอจดทะเบียนรถ
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของรถ (ในกรณีที่ให้ผู้อื่นดำเนินการแทน จะต้องมีหนังสือมอบอำนาจด้วย)
- หนังสือแจ้งจำหน่ายจากบริษัทผู้ผลิต
- หลักฐานเจ้าของรถ ได้แก่ สัญญาซื้อขาย หรือสัญญาเช่าซื้อ
- หลักฐานการประกันภัยตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535
- ใบเสร็จรับเงิน และใบกำกับภาษี
ในส่วนของค่าจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจะอยู่ที่ประมาณ 500 - 1,000 บาท รวมค่าจดทะเบียนรถใหม่ ป้ายทะเบียนรถ คู่มือจดทะเบียนรถ และค่าธรรมเนียมอัตราภาษีประจำปีของรถแต่ละประเภท (พรบ.)
“รถยนต์ไฟฟ้า” อีกหนึ่งตัวเลือกน่าสนใจที่สายอีโค่ห้ามพลาด!
นอกจากรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแล้ว รถยนต์ไฟฟ้าก็เป็นอีกหนึ่งยานพาหนะที่มาแรงไม่แพ้กัน เพราะมีดีไซน์ที่สวยงาม ทันสมัย สามารถขับขี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่แพ้กับรถยนต์ทั่วไปในท้องตลาดเลย อีกทั้งในปัจจุบันก็มีผู้ให้บริการหลายเจ้าที่เปิดให้บริการสถานีชาร์จรถไฟฟ้าอยู่ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหน ก็สามารถขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างมั่นใจ หาที่ชาร์จรถไฟฟ้าได้อย่างสะดวก!
สำหรับใครที่ยังไม่รู้จะเลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี? เรามี 3 รุ่น รถยนต์ไฟฟ้าที่มีฟังก์ชันน่าสนใจมาแนะนำ จะมีรุ่นอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย!
1. รถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3
Tesla เป็นหนึ่งในยี่ห้อรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมและมาแรงที่สุดในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็น ในไทย หรือต่างประเทศ โดยรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 จะมาพร้อมกับโครงสร้างโลหะที่ผสมผสานระหว่างอะลูมิเนียมและเหล็ก ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับรถยนต์ สามารถลุยได้ในทุกพื้นที่
นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกขับเคลื่อนสี่ล้อมอเตอร์คู่ ใช้ล้อ Uberturbine ขนาด 20 นิ้ว เบรคแบบสมรรถนะสูง และสปอยเลอร์คาร์บอนไฟเบอร์ที่ช่วยเพิ่มเสถียรภาพที่ความเร็วสูง ทำให้รถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 3.3 วินาที ใครที่เป็นสายความเร็วต้องไม่พลาดรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้เลย!
2. รถยนต์ไฟฟ้า MG4
ต่อด้วยรถยนต์ไฟฟ้าจากแบรนด์ดังอย่างเอ็มจี (MG) อย่างรถยนต์ไฟฟ้า MG4 ที่มาพร้อมกับสไตล์แฮทช์แบ็ก 5 ประตู สามารถเก็บสัมภาระและใช้สอยประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยรถยนต์รุ่นนี้จะมาพร้อมกับนวัตกรรม NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM ที่พัฒนาเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ แบตเตอรี่จะติดตั้งชิ้นเดียวกับโครงสร้างตัวรถ ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่ให้สมรรถนะสูง และมีระบบช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ แบบ 5-LINK SUSPENSION ที่ช่วยเพิ่มการเกาะถนนและเข้าโค้งได้อย่างเฉียบคม ซึ่งจะช่วยให้คุณขับขี่รถยนต์ด้วยความเร็วที่มีเสถียรภาพอย่างดีเยี่ยม
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า MG4 จะสามารถวิ่งได้ถึง 425 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ทำกำลังสูงสุดได้ที่ 170 แรงม้า และใช้ระยะเวลาการชาร์จพลังงานจาก 10% – 80% ในระยะเวลาแค่ 35 นาที เท่านั้น
3. รถยนต์ไฟฟ้า BYD Atto 3
ปิดท้ายด้วยแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีนที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกอย่าง BYD โดยรถยนต์ไฟฟ้า BYD Atto 3 จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าประเภท B-SUV ที่มาพร้อมกับดีไซน์ภายนอกในรูปแบบหน้ามังกร ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์ยี่ห้อนี้ ไฟหน้ารถจะเป็นไฟ LED เต็มระบบ ทั้งไฟต่ำ ไฟสูง และใช้ไฟ DRL ตัวกระจังหน้ามาเป็นแบบปิดทึบ
สำหรับฟังก์ชันที่น่าสนใจของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ จะมาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor ที่มีกำลังสูงสุด 204 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร วิ่งได้สูงสุดที่ 410 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 160 กม./ชม. นับเป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้ามาตรฐานที่มีความน่าสนใจไม่แพ้รุ่นอื่น ๆ เลย
หากคุณสนใจเปลี่ยนมาใช้รถยนต์พลังงานสะอาด ไม่สร้างมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม ก็สามารถเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ถูกใจมาใช้งานได้เลย ที่สำคัญยังสามารถนำรถยนต์ไฟฟ้ามาทำประกันรถยนต์กับเงินติดล้อได้อีกด้วย!
รถยนต์ไฟฟ้า รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ขอสินเชื่อรถแลกเงินได้ไหม?
ในปัจจุบัน เงินติดล้อยังไม่มีบริการสินเชื่อรถแลกเงิน สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า และมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า แต่อย่างไรก็ตาม เรามีบริการประกันรถยนต์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ใครที่มีรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ แล้วยังไม่ได้ทำประกันรถยนต์ สามารถมาทำประกันรถยนต์กับเงินติดล้อได้เลย
เงินติดล้อพร้อมช่วยคุณรับมือกับทุกเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ด้วยประกันรถยนต์จากบริษัทประกันชั้นนำมากมาย เรามีแผนประกันให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ ประกันรถชั้น 1 ประกันชั้น 2+ หรือ ประกันชั้น 3+ ให้ความคุ้มครองครอบคลุมทั้งในส่วนของตัวรถผู้เอาประกันภัย ทั้งการชน สูญหาย หรือเกิดเหตุไฟไหม้ รวมถึงอุบัติเหตุส่วนบุคคล ค่ารักษาพยาบาล การประกันตัวผู้ขับขี่ ไปจนถึงความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก ซึ่งคุณสามารถเลือกแผนประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการที่สุดได้เลย
ประกันรถยนต์จากเงินติดล้อ จ่ายสบายกระเป๋า สามารถผ่อนสด 0% ได้สูงสุด 10 งวด ที่สำคัญยังเริ่มต้นคุ้มครองและเคลมได้ทันทีตั้งแต่วันแรกที่เริ่มผ่อน ให้การดูแลครอบคลุมทั่วประเทศผ่านช่องทางสาขามากกว่า 1,600 สาขา และมีบริการ Call Center ตลอด 24 ชั่วโมง หากสนใจ สามารถติดต่อได้ที่เงินติดล้อทุกสาขาเลย!
สรุปเรื่องรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าน่าสนใจ ปี 2023
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 7 รุ่นรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าน่าสนใจที่เงินติดล้อนำมาแนะนำในบทความนี้ จะเห็นได้ว่า มีทั้งรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสำหรับใช้งานทั่วไป และขับขี่บนท้องถนนใหญ่ หากสนใจรุ่นไหน ก็สามารถไปทดลองขับขี่ที่ศูนย์จัดจำหน่ายได้เลย และสำหรับใครที่กำลังใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ แล้วยังไม่ได้ทำประกันรถยนต์ ก็อย่าลืมมาทำประกันรถยนต์ไฟฟ้ากับเงินติดล้อ เพื่อที่จะได้ขับขี่บนท้องถนนอย่างสบายใจที่สุด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เราพร้อมบริการคุณตลอด 24 ชั่วโมง!
ขอบคุณข้อมูลจาก: AJ EV BIKE, Green Network Thailand