ถ้ามีเหตุจำเป็นต้องไปทำธุระหลายวัน หรือต้องอยู่บ้านชั่วคราวจนแทบไม่ได้ใช้งานรถเลย พอกลับมาใช้รถอีกครั้ง รถกลับสตาร์ทไม่ติดจะทำยังไงดี ควรเรียกช่างเลยดีไหมหรือมีวิธีแก้ไขปัญหาเบื้องต้นด้วยตัวเองอย่างไรบ้าง
ในบทความนี้เรามีคำตอบให้คุณ พร้อมทั้งวิธีการดูแลรถให้พอกลับมาใช้งานและหมดปัญหาเรื่องรถสตาร์ทไม่ติด รวมถึงป้องกันปัญหาอื่นที่จะเกิดขึ้นเมื่อต้องจอดรถทิ้งไว้นาน ๆ เมื่อรู้สาเหตุล่วงหน้าเราก็พร้อมรับมือได้ไม่ยากอีกต่อไป
สาเหตุที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติด
เมื่อรถจอดทิ้งเอาไว้นานแล้วจะพอจะกลับมาใช้งานรถกลับสตาร์ทไม่ติด สาเหตุหลักมักเกิดจากอุปกรณ์สำคัญอยู่ 2 อย่าง คือ
- แบตเตอรี่ : รถยนต์ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่สำหรับการสตาร์ท เมื่อแบตเตอรี่หมด หรือเสื่อมจะทำให้รถสตาร์ทไม่ติด
- มอเตอร์สตาร์ท : เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ให้เครื่องยนต์ทำงานได้ สำหรับปัญหาที่รถสตาร์ทไม่ติดแต่แบตเตอรี่ยังมีไฟอยู่ก็อาจมีสาเหตุมาจากมอเตอร์สตาร์ทเสื่อม
สำหรับรถที่สตาร์ทไม่ติดให้ดูว่ามาจากสาเหตุจากอุปกรณ์ชิ้นไหน โดยการบิดกุญแจสตาร์ทรถและดูว่ารถมีอาการอย่างไร แบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ
-
บิดกุญแจสตาร์ทแล้วเครื่องเงียบ
เมื่อบิดกุญแจเปิดเครื่องแล้วยังมีไฟหน้าปัดแสดงอยู่ แต่เมื่อบิดสตาร์ทรถแล้วเครื่องเงียบไม่มีเสียงสตาร์ท ในกรณีนี้เกิดขึ้นได้บ่อยโดยให้ตรวจเช็คการทำงานดังนี้
-
สำหรับรถเกียร์ออโต้ ให้ดูว่าคุณกำลังเข้าเกียร์ทิ้งไว้นอกจากเกียร์ P หรือ N หรือไม่ เพราะถ้าหากเข้าเกียร์เดินหน้าหรือถอยหลังเอาไว้จะทำให้รถสตาร์ทไม่ติด ซึ่งเป็นกลไกป้องกันไม่ให้รถเกิดอุบัติเหตุในกรณีที่เข้าเกียร์ทิ้งไว้
-
เมื่อตรวจสอบดูแล้วว่าเข้าเกียร์ไว้ที่ P หรือ N แต่รถก็ยังสตาร์ทไม่ติด อาจมีสาเหตุมาจากแบตเตอรี่ที่ส่งกำลังไฟไม่พอ หรือมีอุปกรณ์ต่อพ่วงกับแบตเตอรี่หลุดออก เพราะการจอดรถทิ้งเอาไว้นานอาจจะมีสัตว์ตัวเล็ก ๆ เช่น แมวหรือหนู เข้าไปทำให้สายต่อพ่วงหลุดออก

-
บิดกุญแจสตาร์ทแล้วเครื่องมีเสียงสตาร์ทแต่รถไม่ติด
อีกกรณีหนึ่งเมื่อบิดกุญแจสตาร์ทแล้วยังมีเสียงสตาร์ทแต่เครื่องยนต์ไม่ติด ในกรณีนี้จะมาจากแบตเตอรี่เสื่อมหรือมอเตอร์สตาร์ทผิดปกติ โดยให้ตรวจเช็คการทำงานดังนี้
- ถ้ารถจอดไว้แค่ข้ามคืนแต่กลับสตาร์ทไม่ติด ให้ลองเช็คดูว่าคุณได้เปิดไฟในรถ หรือไฟหรี่ทิ้งเอาไว้ทั้งคืนหรือไม่ เพราะถ้าเกิดจากสาเหตุนี้หมายความว่าแบตเตอรี่มีกำลังไฟอ่อน
- สำหรับรถที่จอดทิ้งไว้นานเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือนแล้วกลับมาสตาร์ทไม่ติด สาเหตุแรกที่ต้องสงสัยเลยคือแบตเตอรี่หมดแล้ว
- บิดกุญแจสตาร์ทแล้วมีเสียงสตาร์ทรถที่ผิดปกติ มีเสียงครืดคราด นั่นมาจากมอเตอร์สตาร์ทกำลังจะเสีย ซึ่งควรนำรถไปเข้าศูนย์บริการเพื่อเปลี่ยนมอเตอร์สตาร์ทใหม่
การแก้ไขเมื่อรถสตาร์ทไม่ติด
สำหรับรถที่ตรวจสอบดูแล้วมั่นใจว่าแบตเตอรี่หมดหรือเสื่อม สามารถแก้ไขได้ด้วยการ “พ่วงแบต” กับรถคันอื่น เมื่อพ่วงแบตแล้วพบว่ารถยนต์กลับมาสตาร์ทติดสามารถกลับมาใช้งานได้ก็ถือว่าไม่มีปัญหาอะไรแล้ว
สำหรับแบตเตอรี่นั่นถึงแม้จะพ่วงแล้วใช้งานรถได้ตามปกติ แต่แบตเตอรี่มีอายุการใช้งาน 2 ปี ถ้าพบว่าเกินเวลาอายุการใช้งานแล้ว แนะนำให้เปลี่ยนแบตลูกใหม่ เพราะการใช้งานแบตเตอรี่เสื่อมเป็นเวลานาน ๆ จะทำให้ปัญหาการสตาร์ทไม่ติดเกิดขึ้นบ่อย
แต่ถ้าพ่วงแบตแล้วรถยังสตาร์ทไม่ติด ก็อาจจะเกิดจากอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องหรือระบบไฟฟ้ามีปัญหา เมื่อไม่สามารถขับรถไปยังศูนย์บริการได้ ก็สามารถโทรเรียกช่างซ่อมหรือเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการมาตรวจเช็คที่บ้านได้
การดูแลรถยนต์เมื่อต้องจอดรถทิ้งไว้นาน
สำหรับรถยนต์ที่จำเป็นต้องจอดทิ้งไว้นาน การเตรียมการก่อนจอดทิ้งไว้สำคัญมาก เพราะถ้าไม่ดูแลอะไรเลยก่อนจอดทิ้งไว้ เมื่อกลับมาใช้งานจะมีปัญหาตามมาแน่นอน โดยสามารถทำได้ดังนี้
-
แบตเตอรี่ : อุปกรณ์สำคัญที่ต้องดูแลเมื่อต้องจอดรถทิ้งไว้ เพราะเมื่อกลับมาใช้งานอีกครั้งปัญหาส่วนใหญ่ที่พบคือแบตเตอรี่หมด สำหรับคนที่ไม่ได้อยู่ใกล้รถแนะนำว่าควรถอดสายพ่วงแบตเตอรี่ออกจะดีที่สุด ส่วนคนที่อยู่ที่บ้านแต่ไม่ได้ใช้รถก็แนะนำว่าให้สตาร์ทเครื่องยนต์ทิ้งไว้ 10 นาที สัปดาห์ละ 2 ครั้งก็ช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้
-
ความสะอาดของรถ : เมื่อรู้ว่าต้องจอดรถทิ้งไว้นานควรเอารถไปล้างให้สะอาด เพราะคราบสกปรกบางอย่างถ้าติดอยู่บนตัวรถนานจะทำให้ล้างไม่ออก แล้วนำไปจอดในที่ร่มแล้วคลุมผ้าเอาไว้เพื่อป้องกันฝุ่น
-
ลมยาง : สำหรับรถที่จะจอดทิ้งเอาไว้ควรเติมลมยางให้มากกว่าปกติประมาณ 5-10 ปอนด์ / ตารางนิ้ว เพราะรถที่จอดทิ้งเอาไว้นานยางจะมีอาการไม่คืนตัว เพราะน้ำหนักรถจะทิ้งลงบนยางด้านที่ติดกับพื้นอยู่ตลอดเวลา อาจทำให้ยางรถเสียรูป เมื่อนำกลับมาขับรถจะมีอาการสั่น
สรุป
รถยนต์เป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูง การดูแลรักษาจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะถ้าหากจอดรถทิ้งไว้นาน ๆ รถเกิดสตาร์ทไม่ติดจนเสียขึ้นมาล่ะก็ ต้องส่งเข้าอู่ซ่อมเสียทั้งเงินและเวลาโดยที่ไม่จำเป็นอย่างแน่นอน
เช่นเดียวกับอุบัติเหตุรถยนต์ต่าง ๆ ถ้าหากเกิดขึ้นล่ะก็อาจทำให้คุณต้องควักกระเป๋าจ่ายเป็นเงินก้อนโต ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาล หรือค่าซ่อมรถ เพราะฉะนั้น เพื่อความอุ่นใจของเงินในกระเป๋า จึงควรมีประกันภัยรถยนต์ติดตัวเอาไว้
ถ้าหากคุณสนใจทำประกันรถยนต์ แต่ยังมองหาบริษัทประกันที่ถูกใจคุณไม่ได้ ลองปรึกษาเงินติดล้อดูสิครับ
เราเป็นโบรกเกอร์ที่รวมประกันภัยรถยนต์จากบริษัทชื่อดังเอาไว้มากมาย พร้อมให้บริการอย่างตรงไปตรงมา ตอบทุกคำถามที่คุณลูกค้าสงสัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความคุ้มครองต่าง ๆ เปรียบเทียบความคุ้มค่าของประกันแต่ละเจ้า อีกทั้งเรายังพร้อมให้คุณผ่อนจ่ายแบบไม่คิดดอกเบี้ยนานสูงสุดถึง 6 เดือนเลยครับ!