นักบิดรู้ไหมว่าทำไมต้องซื้อประกันรถมอเตอร์ไซค์เพื่อคุ้มครอง?

ในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลอย่างนี้ ถ้าไม่ได้เดินทางไปเที่ยวก็คงกลับบ้านไปหาครอบครัว ซึ่งการเดินทางก็มีให้เลือกตามความสะดวก เช่น เครื่องบิน รถทัวร์ รถไฟ ขับรถยนต์ หรือขี่มอเตอร์ไซค์ แน่นอนว่าถ้ามีการสังสรรค์เกิดขึ้นสิ่งที่จะตามมาคือ “อุบัติเหตุรถชน”​ โดยเรื่องนี้ประกันติดโล่เป็นห่วงผู้เดินทางทุกคนมาก ยิ่งคนที่ขี่มอเตอร์ไซค์ยิ่งเป็นห่วง เพราะถ้ารถชนขึ้นมามีเจ็บหนักแน่ ๆ ดังนั้น เพื่อให้สิงห์นักบิดได้รับความคุ้มครองเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น มาดูกันว่าทำไมต้องมีประกันรถมอเตอร์ไซค์ภาคสมัครใจด้วย ไม่มีไม่ได้เหรอ?

สำหรับคุณทั้งหลายที่รักในการฟัง Podcast ประกันติดโล่มีช่องทางให้คุณได้ติดตามความรู้เกี่ยวกับเรื่องการเงินสนุกสุดเพลิดเพลินแล้ว โดยใน EP.12 ประกันรถมอเตอร์ไซค์ มีให้บริการทั้งใน Spotify, Podbean

 

ผู้ดำเนินรายการ

  • คุณ สุชาริณี เฟื่องฟู (SrSupervisor Insurance Broker Training)
  • คุณ เบญจวรรณ พิรุฬห์รุ่งเรือง (Training Specialist, Financial Education)

 

อุบัติเหตุรถชน รถมอเตอร์ไซค์ สถิติ 7 วันอันตราย

รถมอเตอร์ไซค์ครองอันดับ 1 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุเยอะที่สุด

ช่วงวันหยุดยาวปีใหม่ 2564-2565 ที่ผ่านมานั้น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ออกมาให้ข้อมูลว่า ในระหว่างวันหยุดยาวได้ทำการเก็บสถิติ 7 วันอันตรายพบว่า เกิดอุบัติเหตุ 2,707 ครั้ง บาดเจ็บ 2,672 ราย เสียชีวิต 333 ราย ซึ่งยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสามารถแบ่งออกเป็น 4 อันดับ คือ

  • รถมอเตอร์ไซค์ คิดเป็น 85.80%
  • รถกระบะ คิดเป็น 6.20%
  • รถเก๋ง คิดเป็น 3.55%
  • รถอื่น ๆ คิดเป็น 4.45%

แน่นอนว่ารถมอเตอร์ไซค์ครองแชมป์อันดับ 1 ในทุกปี และไม่มีรถประเภทไหนล้มแชมป์ได้เลย ซึ่งประกันติดโล่ก็เห็นด้วย เพราะว่ารถมอเตอร์ไซค์เปรียบเสมือนเนื้อที่หุ้มเหล็ก ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาคนขี่ก็ต้องเจ็บตัวมากที่สุดอยู่แล้ว ดังนั้น การมีประกันรถมอเตอร์ไซค์ภาคสมัครใจเลยจำเป็นมาก ๆ

 

ขี่มอเตอร์ไซค์แบบไม่มีประกันรถมอเตอร์ไซค์จะเป็นอะไรไหม?

ขึ้นชื่อว่าเป็นประกันรถมอเตอร์ไซค์ก็ต้องให้ความคุ้มครองแก่ผู้เอาประกันอยู่แล้ว ถ้าถามว่าไม่ซื้อไว้จะเป็นอะไรหรือเปล่า ประกันติดโล่บอกเลยว่า “เป็น” เพราะเรื่องราวหลังจากอุบัติเหตุรถชนคุณจะต้องควักเงินในกระเป๋าออกมาจ่ายค่าเสียหายเองทั้งหมด และเพื่อให้เห็นภาพชัดมากขึ้น นี่คือตัวอย่างเหตุการณ์ครับ

คุณจอดรถมอเตอร์ไซค์ไว้เพื่อจะเดินเข้าไปซื้อของร้านใน แต่ไม่กี่นาทีถัดจากนั้น มีรถมอเตอร์ไซค์อีกคันขี่มาชนท้ายเข้าอย่างจัง พอหันไปดูคู่กรณีพบว่าเป็นเด็กวัยนักเรียนขี่มอเตอร์ไซค์ซ้อน 3 มาด้วยความประมาท เมื่อหันไปเห็นรถมอเตอร์ไซค์ของตัวเองก็ต้องใจสลายเพราะพังยับเยินไม่เหลือชิ้นดี แล้วแบบนี้ใครเดือดร้อน?

คำตอบคือ “พ่อแม่ของนักเรียน” เพราะในกรณีที่คุณไม่ผิด พ่อแม่ของเด็กนักเรียนกลุ่มนั้นก็ต้องจ่ายค่าเสียหายให้คุณทั้งหมด เรื่องนี้คุณจึงไม่ต้องหาเงินค่าเสียหายมาจ่ายให้ใคร แต่กลับกันถ้าคุณเป็นฝ่ายผิดแล้วไม่มีประกันรถมอเตอร์ไซค์ ก็ต้องหาเงินมาจ่ายค่าเสียหายในฝ่ายที่ถูก ประกันติดโล่ถึงบอกว่าเป็นเรื่องยังไงล่ะครับ!

ประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 2+ ชั้น 3 คุ้มครองอะไรบ้าง ราคากี่บาท

 

ประกันรถมอเตอร์ไซค์มีกี่ประเภท ราคากี่บาท คุ้มครองอะไรบ้าง?

เวลามีรถมอเตอร์ไซค์ก็ต้องซื้อ พ.ร.บ.รถมอเตอร์ไซค์กันอยู่แล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ถูกมองข้ามคือ “ประกันรถมอเตอร์ไซค์ภาคสมัครใจ” ที่เป็นความคุ้มครองเพิ่มเติมให้กับผู้เอาประกัน โดยคุ้มครองตั้งแต่ชีวิตผู้ขับขี่ และรถของผู้ขับขี่ ซึ่งในกรณีที่คุณเป็นฝ่ายผิด ประกันรถมอเตอร์ไซค์ภาคสมัครใจจะเป็นฮีโร่ให้คุณเอง ดังนั้น มาดูข้อมูลเกี่ยวกับประกันรถมอเตอร์ไซค์ภาคสมัครใจกันดีกว่า

ประกันรถมอเตอร์ไซค์ของเงินติดมีอะไรบ้าง กี่ประเภท ราคากี่บาท?

ทุกวันนี้กลุ่มคนที่ขี่มอเตอร์ไซค์มีหลายประเภทมาก คุณอาจจะเป็นกลุ่มที่ขี่ด้วยความระมัดระวัง หรือเป็นกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่ขี่มอเตอร์ไซค์อย่างประมาท​ก็ได้ ดังนั้น คุณจำเป็นต้องเลือกรูปแบบความคุ้มครองจากประกันรถมอเตอร์ไซค์ที่เหมาะกับตัวเอง โดยวิธีการเลือกที่ดีที่สุดคือประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นเวลาใช้รถใช้ถนนเป็นตัวตัดสินใจ ซึ่งประกันรถมอเตอร์ไซค์ภาคสมัครใจของประกันติดโล่มีให้เลือก 2 ประเภท คือ

  • ประกันรถมอเตอร์ไซค์ภาคสมัครใจ ประเภท 2+ เบี้ยประกันเริ่มต้น 2,199 บาท
  • ประกันรถมอเตอร์ไซค์ภาคสมัครใจ ประเภท 3 เบี้ยประกันเริ่มต้น 1,620 บาท

ถ้าขี่รถไปชนคันอื่น ประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 2+ และ 3 คุ้มครองอะไรบ้าง?

จะเห็นได้ว่าประกันรถมอเตอร์ไซค์ 2+ และ 3 มีราคาเบี้ยประกันเริ่มต้นที่ต่างกัน ดังนั้น ความคุ้มครองที่ผู้เอาประกันจะได้รับก็ลดหลั่นไปตามเบี้ยประกันที่จ่าย ดังนั้น เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้นว่า ประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 2+ และชั้น 3 คุ้มครองอะไรบ้าง ประกันติดโล่จะยกเหตุการณ์รถชนก่อนหน้ามาอธิบายเพิ่มเติมนะครับ

ขี่รถไปชนคันอื่นแล้วใช้ประกันรถจักรยานยนต์ 2+ ขอเคลมอะไรได้บ้าง?

ถ้าคุณขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปชนคันอื่น แปลว่าคุณคือฝ่ายผิด ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้คู่กรณี แต่คุณจะเบาใจเรื่องค่าใช้จ่ายไปได้เยอะเลย ถ้าเกิดว่ามีประกันรถจักรยานยนต์ภาคสมัครใจชั้น 2+ เพราะประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 2+ ให้ความคุ้มครองตั้งแต่ผู้เอาประกันและคู่กรณี ดังนี้

  • คุ้มครองรถของผู้เอาประกันจำนวน 5,000 บาท
  • คุ้มครองรถของคู่กรณีไม่เกิน 200,000 บาท
  • คุ้มครองชีวิตของคู่กรณี (ต่อคน)​ ไม่เกิน 500,000 บาท

ซึ่งแน่นอนว่าถ้าไม่มีประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 2+ คุณอาจจะต้องจ่ายเงินค่าเสียหายจนอ่วมแน่ ๆ

ขี่รถไปชนคันอื่นแล้วใช้ประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 3 คุ้มครองอะไรบ้าง?

อย่างที่บอกไปว่าความคุ้มครองของประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 3 จะน้อยลงเมื่อเทียบกับประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 2 เพราะเบี้ยประกันถูกกว่า แต่ของถูกใช่ว่าจะไม่ดี เพราะประกันรถจักรยานยนต์ประเภท 3 ยังให้ความคุ้มครองที่จำเป็นสำหรับผู้เอาประกัน เพียงแต่ว่าตัดบางส่วนออกไปก็เท่านั้น ดังนี้

  • คุ้มครองชีวิตของคู่กรณี (ต่อคน)​ ไม่เกิน 500,000 บาท
  • คุ้มครองรถของคู่กรณีไม่เกิน 200,000 บาท

จะเห็นเลยว่าความคุ้มครองที่เกี่ยวข้องกับผู้เอาประกันนั้นถูกตัดออกไป แปลว่าถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 3 ยังคุ้มครองคู่กรณีนะครับ แต่ในส่วนของผู้เอาประกันต้องเสียค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด

ไม่มีประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 2+  แล้วขับรถชน เป็นหนี้

 

ขี่มอเตอร์ไซค์แล้วไม่มีประกันรถมอเตอร์ไซค์ ระวังเป็นหนี้!

ประกันติดโล่ไม่ได้ขู่ให้กลัวแต่ถ้าคุณขี่มอเตอร์ไซค์แล้วไม่มีประกันรถมอเตอร์ไซค์คุ้มครองเลย ไม่ว่าจะเป็น พ.ร.บ.รถมอเตอร์ไซค์ หรือ ประกันรถมอเตอร์ไซค์ภาคสมัครใจชั้น 2+ หรือ 3 แล้วดันเกิดอุบัติเหตุขึ้นถ้าคุณเป็นฝ่ายผิดเรียกได้ว่าเจ็บหนักทั้งขึ้นทั้งล่องแน่ ๆ เพราะต้องหาเงินมาจ่ายค่าเสียหายทั้งหมด เนื่องจากไม่มีประกัน

แล้วเงินค่าเสียหายก็จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับรถของคู่กรณีที่คุณไปชนครับ ถ้าชนรถมอเตอร์ไซค์ด้วยกันอาจจะไม่สูงมากเท่าขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปชนรถแพง ๆ อย่างรถเบนซ์หรือรถเก๋ง และเมื่อเงินที่มีไม่พอ ก็ต้องไปหากู้หนี้ยืมสินเพื่อมาจ่ายค่าซ่อมรถให้กับคู่กรณี ถ้าเจอคู่กรณีที่ใจดีหน่อยก็อาจจะขอผ่อนผันได้

แต่ถ้าเจอคู่กรณีที่จะเอาค่าเสียหายในจำนวนเต็มก้อนไม่มีการผ่อนจ่าย คุณก็ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เงินมา อาจจะขอยืมเพื่อน กู้เงินนอกระบบ ฯลฯ ซึ่งประกันติดโล่คิดว่า การมีประกันรถมอเตอร์ไซค์ภาคสมัครใจเป็นวิธีโอนความเสี่ยงที่ดีที่สุดแล้ว ไม่ต้องเป็นหนี้ใคร ไม่ต้องยืมเงินใคร ใช้สิทธิ์ขอเคลมประกันได้เลย!

 

สรุป

ขี่รถมอเตอร์ไซค์ต้องมี พ.ร.บ.รถมอเตอร์ไซค์อยู่แล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่มักถูกมองข้ามคือประกันรถมอเตอร์ไซค์ภาคสมัครใจประเภท 2+ หรือ 3 เพราะหลายคนมองว่าไม่สำคัญ แต่จริง ๆ แล้วสำคัญมากเพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาความคุ้มครองเพิ่มเติมจากประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 2+ และ 3 จะช่วยคุ้มครองให้เอง เช่น ความเสียหายแก่รถยนต์คู่กรณี คุ้มครองชีวิตของคู่กรณี หรือของผู้เอาประกัน ซึ่งถ้าคุณไม่ได้ซื้อเอาไว้แล้วเป็นฝ่ายผิดก็ต้องออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด ประกันติดโล่คิดว่าคุณควรมีประกันรถมอเตอร์ไซค์ภาคสมัครใจเอาไว้โอนความเสี่ยงดีกว่า ถึงมีแล้วจะไม่ได้ใช้ ดีกว่าตอนจะใช้แล้วไม่มีนะครับ!

ติดตามข่าวสารหรือความรู้การเงินได้ที่ ประกันติดโล่ Podcast ที่จะช่วยให้สภาพคล่องทางการเงินของคุณหมุนต่อไปได้อย่างราบรื่น ผ่านช่องทางเหล่านี้เลยครับ Spotify, Podbean

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : TCIJ, mgronline



สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
สนใจ ประกันอุบัติเหตุ
การกดส่งข้อมูลแสดงว่าคุณอ่านและรับทราบ
นโยบายความเป็นส่วนตัว เรียบร้อยแล้ว

บทความแนะนำ

  • ข้อสอบใบขับขี่พร้อมเฉลย ล่าสุด 2567

    รวมเฉลยข้อสอบใบขับขี่ 2566 อย่างละเอียด ไม่อยากสอบหลายรอบมาเตรียมตัวให้พร้อมก่อนสอบจริงกับแนวข้อสอบใบขับขี่ภาคทฤษฎี 50 ข้อพร้อมเฉลย
    18,992
  • 7 รุ่น มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 2024 น่าสนใจ ขายในไทย จดทะเบียนได้

    รวม 7 รุ่น มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจดทะเบียนได้ มีขายในไทย 2023 พร้อมแนะนำวิธีเลือกมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าให้ตอบโจทย์การใช้งาน และการทำประกันรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
    8,471
  • ใบขับขี่หมดอายุ ต้องต่ออายุภายในเวลาเท่าไหร่

    ไขข้อข้องใจ! เมื่อใบขับขี่หมดอายุ ต้องดำเนินการต่ออายุภายในระยะเวลาเท่าไหร่ แล้วถ้าปล่อยเอาไว้นานเกินไปจะมีโทษทางกฏหมายหรือไม่? หาคำตอบได้ที่บทความนี้
    4,791