คนขับรถทุกคนที่มีประเภทใบขับขี่แตกต่างกันไป หากไม่อยากเสียค่าปรับต้องพกใบขับขี่อยู่ตลอดเวลา และเมื่อใบขับขี่หมดอายุหรือใกล้หมดอายุ ควรรีบต่อใบขับขี่ทันที อย่าปล่อยให้ใบขับขี่ขาด อีกทั้งวิธีการต่อใบขับขี่ในปัจจุบันก็อำนวยความสะดวกให้กับคนขับรถทุกคนเป็นอย่างมาก อย่างการต่อใบขับขี่ออนไลน์ทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเองผ่านโทรศัพท์มือถือ บทความนี้เงินติดล้อจะมาอัปเดตว่าคุณต้องต่ออายุใบขับขี่ภายในเวลาเท่าไหร่จึงจะดีที่สุด ประจำปี 2566 กันครับ
ใบขับขี่หมดอายุมีค่าปรับหรือไม่? ต้องต่ออายุภายในกี่วัน
ใบขับขี่หมดอายุไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม หากโดนตำรวจจราจรเรียกขณะขับรถ ถือว่ามีความผิดทางกฎหมายและต้องเสียค่าปรับ แต่ในการต่ออายุใบขับขี่ แม้จะเลยระยะเวลาแต่ว่าไม่มีการเสียค่าปรับอย่างแน่นอน โดยเงื่อนไขการต่อใบขับขี่หมดอายุ จะถูกแยกออกเป็น 3 กรณีตามระยะเวลาที่ขาด ดังนี้
-
ต่อล่วงหน้าได้ 3 เดือน และใบขับขี่หมดอายุไม่เกิน 1 ปี
การต่อใบขับขี่ล่วงหน้าสามารถต่ออายุก่อนล่วงหน้าได้ถึง 3 เดือนเลย หากใบขับขี่ของคุณหมดอายุไม่เกิน 1 ปี คุณสามารถไปต่อใบขับขี่ที่กรมการขนส่งทางบกได้เลยครับ โดยจะมีค่าใช้จ่ายเป็นค่าธรรมเนียมการต่ออายุเท่านั้น
-
ใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 3 ปี
สำหรับกรณีที่ใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปีขึ้นไปแต่ไม่เกิน 3 ปี ผู้ขับขี่จะต้องทำการสอบข้อเขียนใหม่อีกครั้ง โดยต้องทำคะแนนให้ได้มากกว่า 90% หรือตอบถูกมากกว่า 45 ข้อจาก 50 ข้อเหมือนตอนทำใบขับขี่ใหม่นั่นเองครับ หากใครมีความกังวลใจเรื่องการทำข้อสอบ เงินติดล้อก็ได้รวมข้อสอบใบขับขี่พร้อมเฉลย ล่าสุด 2566มาให้เรียบร้อยแล้วครับ
-
ใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปีขึ้นไป
สำหรับใครที่ปล่อยให้ใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปีขึ้นไป บอกเลยว่ากรณีนี้ต้องสอบใบขับขี่ใหม่ทั้งหมดสถานเดียวครับ นั่นก็คือต้องสอบทั้งภาคปฏิบัติและสอบข้อเขียนเช่นเดียวกันกับตอนเพิ่งเริ่มทำใบขับขี่ใหม่นั่นเอง
ใบขับขี่หมดอายุแต่ยังนำรถออกไปขับ เงินติดล้อขอเตือน!
แม้ว่าการต่ออายุใบขับขี่ช้าจะไม่มีค่าปรับก็จริง แต่สำหรับใครที่ใบขับขี่หมดอายุแล้ว ค่าปรับกรณีใบขับขี่หมดอายุแล้วยังนำรถออกไปขับบนท้องถนน ตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ. 2522 หากถูกตำรวจเรียกเข้าล่ะก็ จะถือว่าเป็นการทำผิดกฏหมายจราจร และถูกวางโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาทเลยทีเดียว
ขั้นตอนการต่อใบขับขี่ปี 2566 ต้องทำอย่างไรบ้าง?
เมื่อทราบกันแล้วว่าเมื่อใบขับขี่หมดอายุ ควรจะต้องต่ออายุภายในระยะเวลาเท่าไหร่ ถ้าพร้อมจะต่อใบขับขี่แล้วล่ะก็ เรามาดูกันต่อเลยครับว่าขั้นตอนและวิธีต่อใบขับขี่เป็นอย่างไรบ้าง
สำหรับการต่ออายุใบขับขี่ปี 2566 นั้น สามารถทำการต่อใบขับขี่ออนไลน์ได้แล้ว โดยผู้ขับขี่จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ ดังนี้
- เข้าไปที่เว็บไซต์ https://www.dlt-elearning.com/ เพื่อลงทะเบียนเข้ารับการอบรม
- ดูวิดีโอการอบรมตามใบขับขี่ที่ต้องการต่ออายุ
- ตอบคำถามจากการดูวิดีโอ 3 ข้อ
- กรอกข้อมูลยืนยันตัวตน
- เสร็จสิ้นการอบรม
- นำผลและเตรียมเอกสารไปยื่นต่อใบขับขี่ที่สำนักงานขนส่งทางบก โดยสามารถจองคิวเข้ารับบริการผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue
เมื่ออบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์เรียบร้อยแล้ว เตรียมเอกสารในการต่อใบขับขี่แล้วนำเอกสารไปยื่นต่อใบขับขี่ที่สำนักงานขนส่งทางบกที่คุณได้เลือกไว้ ตามวันและเวลาที่นัดหมายได้เลย ซึ่งเอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการต่อใบขับขี่ ได้แก่
- ใบขับขี่ฉบับเดิมที่หมดอายุ
- บัตรประชาชนตัวจริง พร้อมสำเนา
- กรณีที่ต้องการเปลี่ยนระยะเวลาต่อใบขับขี่จาก 2 ปีเป็น 5 ปี ต้องใช้ใบรับรองแพทย์
ใบขับขี่หมดอายุแต่เกิดอุบัติเหตุ ประกันภัยรถยนต์รับผิดชอบหรือไม่?
หลายๆ คนอาจสงสัยว่า ถ้าหากใบขับขี่หมดอายุแต่เกิดอุบัติเหตุขึ้น แบบนี้ประกันภัยรถยนต์จะรับผิดชอบค่าเสียหายไหมนะ?
สำหรับกรณีนี้เงินติดล้อต้องขอตอบเลยว่า ประกันให้ความคุ้มครองแน่นอนครับ จึงยังสามารถวางใจได้แม้เกิดอุบัติเหตุนั่นเอง สำหรับกรณีที่ประกันไม่ให้ความคุ้มครองนั้นจะเกิดจากผู้ขับรถไม่เคยทำใบขับขี่มาก่อนนั่นเอง
แต่ถึงอย่างไรถ้าหากคุณเกิดอุบัติเหตุแล้วตำรวจจราจรมาขอตรวจเข้า ก็ต้องเสียค่าปรับอยู่ดี เพราะฉะนั้น จัดการต่อใบขับขี่ให้เรียบร้อยจะดีที่สุดครับ
ประกันภัยรถยนต์กับเงินติดล้อ
ถ้าหากคุณสนใจทำประกันรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็น ประกันรถชั้น 1 ประกันชั้น 2+ หรือ ประกันชั้น 3+ แต่ยังมองหาบริษัทประกันที่ถูกใจคุณไม่ได้ ลองปรึกษาเงินติดล้อดูสิครับ
เราเป็นโบรกเกอร์ที่รวมประกันภัยรถยนต์จากบริษัทชื่อดังเอาไว้มากมาย พร้อมให้บริการอย่างตรงไปตรงมา ตอบทุกคำถามที่คุณลูกค้าสงสัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความคุ้มครองต่างๆ เปรียบเทียบความคุ้มค่าของประกันแต่ละเจ้า อีกทั้งเรายังพร้อมให้คุณผ่อนจ่ายแบบไม่คิดดอกเบี้ยนานสูงสุดถึง 6 เดือนเลยครับ!
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เราพร้อมบริการคุณตลอด 24 ชั่วโมง!
ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมการขนส่งทางบก