สำหรับคนที่คิดจะออกรถ หรือมือใหม่หัดขับที่ยังไม่เคยไปตรวจสภาพรถที่ ตรอ. มาก่อน คงมีคำถามอยู่ในหัวมากมายว่าสถานที่นี้คืออะไร
วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยกันครับว่า “ตรวจสภาพรถ ตรอ.” คืออะไรกันแน่ และแล้วจะต้องตรวจอะไรบ้าง
คำว่า ตรอ. ย่อมาจาก “สถานตรวจสภาพรถเอกชน” ซึ่งได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก ให้เป็นสถานที่ใช้ขอเอกสารการันตีสภาพรถก่อนต่อภาษีรถยนต์ประจำปี ว่ามีความพร้อมในการใช้งาน ปลอดภัย ไม่สร้างมลพิษทางอากาศ ตามที่กรมการขนส่งฯ กำหนดหรือไม่ เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยสามารถตรวจได้ทั้งรถยนต์ และมอเตอร์ไซต์เลยครับ
ตรวจสภาพรถ กับตรอ. เมื่อไหรดี?
รถที่ควรไปตรวจสภาพรถก่อนต่อภาษีรถยนต์ประจำปี มีดังนี้ครับ
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ที่มีอายุการใช้งานครบ 7 ปีขึ้นไป
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน ที่มีอายุการใช้งานครบ 7 ปีขึ้นไป
- รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ที่มีอายุการใช้งานครบ 7 ปีขึ้นไป
- รถจักรยานยนต์ ที่มีอายุการใช้งานครบ 5 ปีขึ้นไป
โดยการนับอายุการใช้งานของรถนั้น ให้นับตั้งแต่วันที่จดทะเบียนครั้งแรกจนถึงวันที่สิ้นอายุภาษีประจำปี (วันครบกำหนดเสียภาษีประจำปี) ซึ่งในการนำรถไปตรวจสภาพที่ ตรอ. สามารถตรวจล่วงหน้าได้ ไม่เกิน 3 เดือนก่อนวันหมดอายุภาษีประจำปี
ตรวจสภาพรถ ต้องตรวจอะไรบ้าง?
มาถึงตรงนี้แล้วคงสงสัยใช่ไหมครับว่าต้องตรวจอะไรบ้าง? วันนี้เราจะมาแจกแจงรายละเอียดทั้งหมดเพื่อไม่ให้ตกหล่นในการตรวจสภาพรถนะครับ
- ตรวจสอบความถูกต้องข้อมูลของรถ เช่น แผ่นป้ายทะเบียนรถ ลักษณะรถ หมายเลขตัวรถ เลขเครื่องยนต์ เป็นต้น
- ตรวจสภาพตัวรถ เช่น ตัวถัง สี อุปกรณ์เกี่ยวกับความปลอดภัย อุปกรณ์ไฟฟ้า พวงมาลัย ที่ปัดน้ำฝน
- ตรวจสอบระบบภายในรถ เช่น ระบบบังคับเลี้ยว ระบบรองรับน้ำหนัก ระบบเบรก ระบบเชื้อเพลิง
- ทดสอบประสิทธิภาพการเบรก โดยตรวจสอบอุปกรณ์ทุกชิ้นว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่
- ตรวจสอบวัดโคมไฟหน้า ทิศทางการเบี่ยงเบนของแสง และวัดค่าความเข้มของแสง
- ตรวจสอบวัดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) และก๊าซไฮโดรคาร์บอน (HC) ของรถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง
- รถยนต์เครื่องดีเซล ต้องตรวจควันดำ โดยระบบการกรองต้องไม่เกินร้อยละ 50 และระบบความทึบแสงต้องไม่เกินร้อยละ 45
- การตรวจวัดเสียงรถ ต้องไม่เกิน 100 เดซิเบล
สำหรับสิ่งที่ต้องเตรียมนอกจากตัวเจ้าของรถเอง ได้แก่
- รถที่ต้องการตรวจสภาพ
- เอกสารเล่มทะเบียน (รถยนต์เล่มสีน้ำเงิน, รถจักรยานยนต์เล่มสีเขียว) หรือสำเนาทะเบียนรถ
อัตราค่าตรวจสภาพรถ
ส่วนของราคาการตรวจสภาพรถ ตรอ. ก็ราคาไม่แพงครับ โดยแต่ละที่ก็จะมีค่าบริการเหมือนกันทั้งหมด ดังนี้
- รถจักรยานยนต์ 60 บาท/คัน
- รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าไม่เกิน 1,600 กิโลกรม 160 บาท/คัน
- รถยนต์ที่มีน้ำหนักเปล่าเกิน 1,600 กิโลกรัม 250 บาท/คัน
ตรวจสภาพรถ ต้องไปที่ไหน?
โดยปกติแล้วต้องนำรถไปตรวจสภาพที่ กรมขนส่งทางบกฯ แต่เนื่องจากปัจจุบันมีการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่บ้านอยู่ไกล จึงมีศูนย์บริการ ตรอ. ที่ได้รับอนุญาติจากกรมการขนส่งในหลายๆ ที่ด้วยกัน
เพื่อนๆ สามารถค้นหาสถานที่ตรวจสภาพรถ ตรอ. ใกล้บ้านได้ง่ายๆ ผ่าน google เพียงแค่ใช้คอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค หรือสมาร์ทโฟน ในการค้นหาตำแหน่งที่เพื่อนๆ สะดวกที่สุด หรืออีกวิธีหนึ่ง ค้นหาสำนักงานขนส่งประจำจังหวัดผ่านเว็ปไซต์ของกรมการขนส่งฯโดยตรง ได้ที่ https://www.dlt.go.th/th/
สำหรับเวลาทำการของแต่ละที่นั้นต่างกัน สอบถามเวลาได้ที่ ตรอ. ใกล้บ้านครับ
ถ้าตรวจสภาพรถแล้วไม่ผ่าน ต้องทำอย่างไร?
หลังจากนำรถไปตรวจแล้ว หลายคนคงสงสัยว่าถ้าหากตรวจแล้วไม่ผ่านจะเกิดอะไรขึ้น?
กรณีถ้าหากรถไม่ผ่านการตรวจสอบ ทาง ตรอ. จะแจ้งข้อบกพร่องที่เป็นสาเหตุทำให้รถไม่ผ่านการตรวจ เพื่อที่จะได้นำไปแก้ไขแล้วนำกลับมาตรวจใหม่ ซึ่งจะต้องทำการแก้ไข และนำกลับไปตรวจสภาพรถที่ ตรอ. ที่เดิมภายในระยะเวลา 15 วัน โดยค่าบริการการตรวจใหม่จะคิดแค่ครึ่งเดียวเท่านั้นครับ
แต่ถ้าหากเกิน 15 วัน หรือไปตรวจที่ ตรอ. ที่อื่นจะต้องเสียค่าบริการตามปรกตินะครับ
รถแบบไหนตรวจที่ ตรอ. ไม่ได้?
นอกจากที่กล่าวไปที่ด้านบนแล้ว ยังมีรถที่ไม่สามารถเข้าตรวจที่ ตรอ. ได้ เพราะต้องให้กรมขนส่งทางบกฯ ตรวจสอบโดยตรง ซึ่งรถที่มีลักษณะเฉพาะ ต้องนำไปให้กรมขนส่งทางบกฯตรวจ มีดังนี้ครับ
- รถที่ทำการดัดแปลงสภาพไม่เหมือนตอนที่จดทะเบียนเอาไว้
- รถที่ทำการเปลี่ยนสีตัวถัง เปลี่ยนแปลงตัวรถ หรือส่วนใดส่วนนึงจนไม่เหมือนรายละเอียดที่ระบุเอาไว้ในคู่มือทะเบียนรถ เช่น การเปลี่ยนเครื่องยนต์ การเปลี่ยนชนิดน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น
- รถที่ไม่แสดงเลขตัวรถ หรือเลขเครื่องยนต์ โดยมีการขูด ขีด แก้ไข ชำรุด จนไม่สามารถตรวจสอบความถูกต้องได้
- รถที่เจ้าของแจ้งไม่ใช้ชั่วคราว หรือแจ้งการไม่ใช้รถตลอดเอาไว้กับกรมการขนส่ง
- รถเก่าที่มีเลขทะเบียนรุ่นเก่า เช่น กท-00001, กทจ-0001 จะต้องทำการเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่
- ยานพาหนะที่เคยสูญหาย หรือโดนโจรกรรมแล้วได้คืน
- รถที่ขาดต่อทะเบียนเกิน 1 ปี
หากไม่ไปตรวจ แล้วภาษีรถขาดจะเกิดอะไรขึ้น
หากไม่ไปตรวจแล้วภาษีรถขาด จะต้องเสียค่าปรับที่กรมขนส่งทางบกฯ อัตราเดือนละ 1% จากค่าภาษีประจำปี และหากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบก่อนที่คุณจะไปต่อภาษี ก็จะต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท เนื่องจากใช้รถที่ยังไม่ได้เสียประจำปีตามระยะเวลาที่กำหนดครับ
สรุป
เท่านี้ทุกคนก็คงจะทราบแล้วนะครับว่า สาเหตุที่ต้อง ตรวจสภาพรถ ตรอ. ก็เพื่อให้รถของเราปลอดภัย พร้อมใช้งาน และป้องกันการเกิดอุบัติเหตุต่อตัวเอง ผู้โดยสาร และเพื่อนร่วมท้องถนน
ซึ่งนอกจากการตรวจรถที่ ตรอ. ใกล้บ้านแล้ว คุณสามารถรับมือความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากการใช้รถ ใช้ถนน ได้ด้วยการทำประกันรถยนต์ ซึ่งเงินติดล้อ มีประกันครบทุกชั้น กว่า 15 บริษัทชั้นนำให้คุณเลือก
แถม“ผ่อนเงินสดได้” ไม่ต้องจ่ายเงินก้อน ไม่มีค่าธรรมเนียมบวกเพิ่ม พร้อมคุ้มครองทันที!
ผ่อนอยู่ก็เคลมได้
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
หรือท่านใดมีปัญหาด่วน ฉุกเฉิน ติดต่อเข้ามาได้เลยครับ เราพร้อมบริการคุณตลอด 24 ชั่วโมง