ประกันรถยนต์คือสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการมีรถในปัจจุบัน ไม่ว่าจะจากสาเหตุที่ว่าท้องถนนประเทศไทยค่อนข้างอันตราย หรือสาเหตุอื่น ๆ ทำให้รถยนต์ทุกคันจำเป็นต้องซื้อประกันรถยนต์อย่างเลี่ยงไม่ได้
และด้วยความต้องการประกันรถยนต์ที่มากขึ้นทำให้เกิดประกันขึ้นมากมายหลายบริษัท รวมถึงตัวแทนขายประกันที่มีให้บริการอยู่ทั่วประเทศ แล้วผู้ที่มีรถยนต์จะสามารถเลือกได้อย่างไร? หนึ่งในคำตอบของคำถามนี้คือการอ้างอิงจากการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคลนั้นเอง
ก่อนจะพิจารณาถึงเรื่องการเลือกซื้อประกันรถยนต์ ลองแจกแจงประเภทของประกันคร่าว ๆ กันก่อนครับ
ประเภทของประกันในไทย
ประกันในไทยที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลายจะมีทั้งหมด 5 ประเภท อ้างอิงตามการรับรองว่าสามารถเคลมได้ในกรณีไหน อย่างไรบ้าง (อนึ่ง ผู้ขับในที่นี้หมายถึงตัวเราที่เป็นผู้ขับขี่รถยนต์)
- ประกันชั้น 1
- คุ้มครองคู่กรณีทั้งเสียชีวิตและบาดเจ็บ รวมถึงค่าซ่อมแซมของรถคู่กรณี
- คุ้มครองผู้ขับทั้งเสียชีวิตและบาดเจ็บ และค่าซ่อมแซมรถทั้งแบบมีคู่กรณี และไม่มีคู่กรณี
- คุ้มครองกรณีรถสูญหายหรือถูกจารกรรม ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม
- ประกันชั้น 2
- คุ้มครองคู่กรณีทั้งเสียชีวิตและบาดเจ็บ รวมถึงค่าซ่อมแซมของรถคู่กรณี
- คุ้มครองผู้ขับทั้งเสียชีวิตและบาดเจ็บ
- คุ้มครองกรณีรถสูญหายหรือถูกจารกรรม ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม
- ประกันชั้น 2+
- คุ้มครองแบบเดียวกับชั้น 2 เพิ่มเติมคือคุ้มครองรถของผู้ขับขี่เมื่อมีคู่กรณี
- ประกันชั้น 3
- คุ้มครองคู่กรณีทั้งเสียชีวิตและบาดเจ็บ รวมถึงค่าซ่อมแซมของรถคู่กรณี
- คุ้มครองผู้ขับทั้งเสียชีวิตและบาดเจ็บ
- ประกันชั้น 3+
- คุ้มครองแบบเดียวกับชั้น 3 เพิ่มเติมคือคุ้มครองรถของผู้ขับขี่เมื่อมีคู่กรณี
จริง ๆ มีวิธีแยกแยะอย่างง่าย ๆ สำหรับประกันประเภทบวก (+) คือจะเป็นประกันที่มีการซ่อมรถยนต์เพิ่มเติมในกรณีที่มีคู่กรณีเท่านั้น และนอกเหนือจากประกันทั้ง 5 ประเภทนี้แล้ว ยังมีประกันประเภทที่ 4 ที่คุ้มครองเพียงรถคู่กรณีเท่านั้น แต่ไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่
หลักการการเลือกซื้อประกันตามไลฟ์สไตล์
ไลฟ์สไตล์ หากพูดอย่างตรงไปตรงมาคือชีวิตประจำวันของแต่ละคน ซึ่งการซื้อประกันรถยนต์นั้นย่อมเน้นไลฟ์สไตล์ในส่วนที่เกี่ยวกับการขับขี่เป็นหลัก
-
ขับรถเร็ว ขับรถระยะไกล ออกต่างจังหวัดหรือมีการขับขี่ระยะเวลานาน แนะนำว่าควรทำประกันชั้น 1 ไปเลย เพื่อรองรับความเสี่ยงให้ครอบคลุม ซึ่งอาจต้องจ่ายเบี้ยประกันแพงหน่อยเน้นความคุ้มค่าเป็นหลัก
-
ขับรถชำนาญ ไม่ค่อยมีการเฉี่ยวชน รวมถึงไม่มีการขับเร็วมากและระมัดระวังอยู่เสมอ แต่ยังมีความเสี่ยงว่ารถอาจถูกโจรกรรม แนะนำว่าทำประกันชั้น 2 ครับ เนื่องจากเสียเบี้ยประกันน้อยลงแต่ยังรองรับความเสี่ยงในด้านอื่น ๆ อยู่
-
ขับรถมานาน แต่มีความใจร้อน และมีการเฉี่ยวชนในระยะหลัง ขอแนะนำว่าทำประกัน 2+ เพื่อความปลอดภัยของรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นครับ
-
แทบไม่ได้ใช้รถ และไม่มีความเสี่ยงที่จะถูกจารกรรม รวมถึงรับความเสี่ยงเองได้สูง แนะนำว่าทำประกันชั้น 3 ไว้เลยครับ
-
นาน ๆ ขับรถที แต่ด้วยความที่ไม่ชำนาญหรือความใจร้อน ทำให้เกิดการเฉี่ยวชนอยู่บ้าง แนะนำว่าทำประกันแบบ 3+ ไ้ดีกว่าครับ อย่างน้อย ๆ ก็สามารถเสียค่าซ่อมให้กับคู่กรณีได้ระดับหนึ่ง
ปัจจัยอื่น ๆ ในการเลือกประกันรถยนต์
นอกเหนือจากไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมการขับขี่แล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการเลือกประกันด้วย เช่น
-
ความสามารถในการจ่ายเบี้ยประกันในแต่ละปี เพราะแม้ว่าจะต้องการความคุ้มครองระดับประกันชั้น 1 แต่เนื่องจากต้องจ่ายเบี้ยประกันสูง จึงต้องลดระดับลงมาเป็น 2+ หรือ 3+ แทน ควรคำนวณค่าใช้จ่ายตัวเองล่วงหน้า และศึกษากรมธรรม์ให้ดีก่อนทำประกัน
หรือจะให้ดีก็ดำเนินการเปรียบเทียบเบี้ยประกันในแต่ละเจ้าและวงเงินว่าครอบคลุมเท่าไหร่ คุณจะได้ประหยัดเงินมากที่สุดครับ หรือจะเลือกอีกวิธีคือติดต่อสอบถามจากนายหน้าประกันวินาศภัย ที่จะอธิบายเปรียบเทียบให้เข้าใจง่าย ๆ
-
พฤติกรรมและความเสี่ยงที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ แม้จะดูไม่สำคัญสำหรับหลายคน แต่น่าเศร้าที่สาเหตุของอุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดจากการเมาแล้วขับ ถ้าคุณเป็นคนที่ดื่มบ่อย เที่ยวบ่อยแล้วมีการขับรถ ควรทำประกันชั้น 1 หรือ 2+ ไว้ หรือถ้าจะให้ดีหากมีการขับขี่ก็ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ชั่วคราวครับ เพราะนอกจากจะทำให้เกิดอุบัติเหตุแล้ว การเมาแล้วขับถือว่าเป็นการทำผิดกฎจราจรอีกด้วย
-
รถมอเตอร์ไซค์เป็นอีกประเด็นที่ควรให้ความสนใจ กรณีนี้คล้ายกับเรื่องแอลกอฮอล์ มอเตอร์ไซค์เป็นรถที่มีอัตราการเกิดอุบัติเหตุสูงที่สุดไม่ว่าจะเป็นเทศกาลหรือช่วงเวลาปกติ รวมถึงมีอัตราการบาดเจ็บสูง แนะนำว่าควรทำประกัน 2+ 3+ หรือถ้าทำได้ก็ทำประกันชั้น 1 เพื่อครอบคลุมความเสี่ยงให้ได้มากที่สุดครับ
-
รถอายุมาก โดยส่วนมากแล้วถ้าเกิน 7 ปี รถก็ไม่สามารถต่อประกันชั้น 1 ได้แล้ว แต่เรื่องนี้อาจยืดอายุได้อีกหากรถรุ่นนั้นเป็นรถที่ได้รับความนิยม มีอะไหล่มาก และมีประวัติดีไม่เกิดการชนครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องถามบริษัทที่รับทำประกัน
-
หากรถอายุสองหลักขึ้น และอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยพิบัติ หรือมีน้ำรอระบายอยู่บ่อย ๆ แนะนำว่าทำแบบ 2 หรือ 2+ ไว้ก่อนครับ เนื่องจากมีการคุ้มครองจากภัยธรรมชาติ หากเกิดเหตุไม่คาดฝันเช่น น้ำท่วม จะได้ไม่เดือดร้อนมากนัก
ทั้งหมดนั้นคือวิธีเลือกประกันที่อ้างอิงจากไลฟ์สไตล์หรือก็คือการใช้ชีวิตของแต่ละคนครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นผู้ขับขี่ควรตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท และทำตามกฎจราจรทุกครั้งที่ขับรถ เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองและคนอื่น ๆ
ถ้าหากคุณสนใจที่จะทำประกันใหม่ หรือต่อประกันเดิมและต้องการเปรียบเทียบ สามารถตรวจสอบรายละเอียดได้ที่ประกันรถกับเงินติดล้อ หรือปรึกษากับทาง เงินติดล้อ ได้เลยครับ เรามีประกันให้เลือกหลากหลาย สามารถเปรียบเทียบกรมธรรม์และราคาได้ พวกเรายินดีให้บริการครับ!