ทำไมดอกเบี้ยมันสูงเกินไปละ? จำนวนเงินที่ต้องชำระไม่เท่ากับตอนที่ตกลงกันนี่?
นั่นอาจจะเป็นคำถามที่หลายคนได้สงสัยเมื่อตัวเองทำการขอสินเชื่อทะเบียนรถ เนื่องจากสมัยก่อนทางภาครัฐยังไม่ให้ความสนใจมากaเพียงพอ แต่เรื่องเหล่านั้นกำลังจะกลายเป็นอดีต เมื่อทางธนาคารแห่งประเทศไทยและกระทรวงการคลังได้ออกหลักเกณฑ์ใหม่เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหล่านั้นขึ้นอีกในอนาคต
ลองมาดูกันดีกว่าครับว่าหลักเกณฑ์ใหม่เกี่ยวกับสินเชื่อทะเบียนรถนั้นมีอะไรบ้าง ครอบคลุมข้อปฏิบัติไปถึงไหน แล้วสุดท้ายประชาชนอย่างเราจะได้ประโยชน์อย่างไรบ้าง
หลักเกณฑ์ใหม่ของสินเชื่อทะเบียนรถ
-
ผู้ประกอบธุรกิจรายใหญ่ (ทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท ) สามารถคิดดอกเบี้ยจากสินเชื่อทะเบียนรถได้ไม่เกิน 28% ต่อปี (Effective rate)
-
ผู้ประกอบธุรกิจรายย่อย (ทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท) สามารถคิดดอกเบี้ยจากสินเชื่อทะเบียนรถได้ไม่เกิน 36% ต่อปี (Effective rate) โดยให้สินเชื่อวงเงินได้ไม่เกิน 50,000 บาท
-
ไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมกรณีผู้กู้ชำระเงินกู้ก่อนกำหนด
-
ผู้ขอสินเชื่อทะเบียนรถต้องได้รับคืนเงินส่วนต่างจากการขายรถทอดตลาด
-
มีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อทะเบียนรถอย่างตรงไปตรงมา เพื่อประกอบการตัดสินใจ
-
มีการแจ้งเตือนผู้ขอสินเชื่อล่วงหน้า เพื่อให้จ่ายเงินค่างวดตามเวลาที่กำหนดไว้
-
มีการแจ้งเตือนผู้ขอสินเชื่อล่วงหน้าล่วงหน้าก่อนทำการยึดรถ
ประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ
-
ได้รับวงเงินและดอกเบี้ยที่เหมาะสม
ผู้ยื่นขอสินเชื่อจะต้องได้รับรายละเอียดของวงเงินและดอกเบี้ยอย่างถูกต้องเหมาะสม เนื่องจากว่าทางธนาคารแห่งประเทศไทยและกระทรวงการคลังได้มีการสำรวจแล้วพบว่า ลูกค้าของผู้ใช้บริการสินเชื่อบางส่วนไม่ทราบว่าตัวเองต้องจ่ายดอกเบี้ยจริงๆ ด้วยอัตราเท่าใด จะทราบเฉพาะจำนวนเงินที่จะต้องผ่อนชำระรายเดือน ซึ่งบางครั้งอัตราดอกเบี้ยนั้นสูงถึง 65% เลยทีเดียว ไม่นับรวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่สูงเกินจริงอีกมาก
-
มีการแจ้งเตือนให้ผู้กู้จ่ายเงิน รวมถึงแจ้งเตือนก่อนการยึดรถ
เนื่องจากบางครั้งเกิดการยึดรถโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า รวมไปถึงไม่มีการเตือนผู้ขอสินเชื่อให้ชำระให้ชัดเจน ทำให้ทางลูกค้าต้องเสียค่าติดตามทวงถามโดยไม่จำเป็น ซึ่งมาตราการใหม่นี้จะบังคับให้ทุกบริษัทต้องมีการบอกกล่าวก่อนเสมอไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเตือนวันชำระเงิน หรือว่าการยึดรถ
-
ได้รับส่วนต่างที่เหมาะสมกรณีมีการนำรถขายทอดตลาด
จากเดิมที่อาจได้รับส่วนต่างน้อยเกินไป จนถึงไม่ได้รับเลยกรณีรถถูกขายทอดตลาด เนื่องจากตัวลูกค้าไม่รับทราบจำนวนเงินที่ขายได้ หลังจากนี้ทางบริษัทจะต้องมีการแจ้งทั้งส่วนต่างเงินค้างจ่าย การขาย จำนวนเงินที่ได้รับ และส่วนแบ่งให้ลูกค้าอย่างครบถ้วนและยุติธรรม ตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
-
ได้รับทราบเงื่อนไขต่างๆ อย่างครบถ้วน
ผู้ยื่นขอสินเชื่อจะได้รับข้อมูลทุกอย่าง อย่างครบถ้วน ก่อนทำสัญญาหรือยื่นขอสินเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของค่าบริการ เงื่อนไขการชำระเงิน การส่งมอบสัญญาให้กับทางลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าสามารถที่จะตัดสินใจเลือกบริการที่เหมาะสมได้
-
สามารถเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมกับสถาบันเงินกู้หรือสินเชื่ออื่นๆ ได้
เนื่องจากสามารถทราบอัตราเงินต้น ดอกเบี้ย เงื่อนไขต่างๆ ได้ครบถ้วนทุกสถาบันการเงินแล้ว ดังนั้นเราสามารถตรวจสอบและเปรียบเทียบอัตราค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้ เพื่อความคุ้มค่ามากที่สุด
-
ชำระหนี้ก่อนได้ ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติม
จากเดิมที่อาจต้องจ่ายค่าปรับกรณีชำระหนี้ก่อนกำหนด หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามสัญญา แต่ในตอนนี้ทางผู้ขอสินเชื่อจะไม่ต้องจ่ายเงินในส่วนนี้แล้ว สามารถชำระหนี้ให้ครบก่อนกำหนดได้ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงเวลาหมดสัญญาแต่อย่างใด
-
เพิ่มความน่าเชื่อถือและความมั่นใจของประชาชน
เนื่องจากหลังจากนี้ผู้ประกอบการสินเชื่อทะเบียนรถจะต้องมีการจดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย ส่งรายงานทางการเงิน และยังมีการควบคุมไปถึงคุณสมบัติของผู้บริหาร จะช่วยให้ลูกค้ามั่นใจในความโปร่งใสและน่าเชื่อถือมากขึ้น
-
สามารถร้องเรียนได้ถ้าหากไม่ได้รับความเป็นธรรม
จากเดิมที่ไม่รู้จะร้องเรียนที่ไหนเป็นหลัก ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจะสามารถร้องเรียนทางธนาคารแห่งประเทศไทย หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ระบุไว้ในประกาศได้
สรุป
ใจความสำคัญของประกาศฉบับนี้นอกจากหลักเกณฑ์ดอกเบี้ยที่เป็นธรรมกับประชาชนมากขึ้นแล้ว ยังเปิดโอกาสให้ผู้ขอสินเชื่อชำระเงินก่อนกำหนดได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม รวมถึงมีการกำหนดให้แจ้งเตือนก่อนชำระหรือยึดรถ
สิ่งสำคัญที่สุดของตัวหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยระบุไว้คือการที่เราสามารถ “ร้องเรียน” ได้ในกรณีไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังจากที่ไม่ทราบได้อย่างแน่ชัดว่าเราจะสามารถร้องเรียนได้ที่ไหน ในที่สุดเราก็มีหน่วยงานรองรับเพื่อความยุติธรรมของประชาชน
ที่เงินติดล้อ เราให้คุณมากกว่า
เพราะสำหรับพวกเราแล้ว มาตรฐานและความเป็นธรรมคือสิ่งที่เรายึดถือและปฏิบัติกับลูกค้า เพื่อให้ทุกคนได้รับประโยชน์สูงสุด ตามหลักการของเงินติดล้อ
- ลูกค้าทุกคนจะต้องได้รับสำเนาสัญญาเงินกู้อย่างละเอียด และจะได้ใบเสร็จรับรองเพื่อเก็บเป็นหลักฐานหลังการชำระเงินเสมอ
- หากคุณยื่นขอสินเชื่อทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ จะได้รับประกันอุบัติเหตุนาน 1 ปีเต็ม
- เรายึดหลักสิทธิส่วนบุคคล เพื่อให้ลูกค้าทุกคนได้ประโยชน์สูงสุด ดังนั้นจะไม่มีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้ไม่มีความเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน
- ผู้ขอสินเชื่อสามารถรับเล่มคืนได้ภายใน 15 วันแบบไม่โอนเล่ม และแบบโอนเล่มภายใน 30 วันเมื่อปิดบัญชี
- ผู้ขอสินเชื่อสามารถใช้สิทธิ์ไถ่ถอนหลักประกันคืนได้ภายใน 30 วัน และได้รับเงินส่วนต่างคืนในกรณีรถถูกขายทอดตลาด
- หากชำระค่างวดตรงเวลา จะได้เป็นผู้มีประวัติการเงินที่ดี สามารถเพิ่มโอกาสทางการเงินในอนาคตได้
ดังนั้นสามารถมั่นใจได้ว่าผู้ขอสินเชื่อทุกคนจะได้รับความเป็นธรรมทั้งด้านการเงิน และบริการจากเงินติดล้อ โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เงินติดล้อทุกสาขา หรือ เบอร์ 088-088-0880 ตลอด 24 ชั่วโมงครับ
แหล่งที่มาของข้อมูล
แนวทางการกำกับดูแลธุรกิจสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน โดย ธนาคารแห่งประเทศไทย :
https://www.bot.or.th/Thai/FinancialInstitutions/CarforCash2018/ConsultationPaper.pdf